ในใจเมิ่งหงเย่ดีใจแทบบ้า เขาเพียงแค่ลองดูสักหน่อย นึกไม่ถึงว่าง่ายดายขนาดนี้ก็สำเร็จแล้ว
ในเมื่อหวงจงยินยอมเลือกใช้วิธีการที่เขาเสนอ งั้นเรื่องที่ตระกูลเมิ่งควบคุมแต่ละตระกูลใหญ่ของเจียงผิงแทนตระกูลหวงนี้ โดยพื้นฐานคงเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
“ขอบคุณครับท่านจง! ขอบคุณครับท่านจง!”
เมิ่งหงเย่รีบกล่าวขอบคุณ
หวงจงท่าทางดูเหมือนคนอายุห้าสิบกว่าๆ ส่วนเมิ่งหงเย่ก็อายุเจ็ดสิบปีแล้ว กลับเอาแต่เรียกว่าท่านจง
ลักษณะท่าทางที่เขาเห็นด้วยอย่างเคารพ ความจริงน่าขบขันอยู่บ้าง
เวลานี้ หยางเฉินกลับมาถึงที่ยอดเมฆาแล้ว
เมื่อคืนนี้พึ่งรับปากเสี้ยวเสี้ยวไปว่าวันนี้จะพาเธอไปดิสนีย์ ย่อมไม่สามารถผิดคำพูดได้
เพราะเที่ยวบินของอ้ายหลินเช้าเหลือเกิน รอให้หยางเฉินส่งอ้ายหลินเสร็จ ตอนกลับมาถึงบ้าน สองแม่ลูกก็พึ่งลุกจากที่นอน
ฉินซีสวมชุดนอนสีชมพูตัวหนึ่ง กำลังช่วยเสี้ยวเสี้ยวจัดการทรงผม
ภายในห้องยังมีกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มลาเวนเดอร์อ่อนๆ อยู่
หยางเฉินฉีกมุมปากขึ้นเบาๆ วาดเส้นรัศมีวงกลมที่สุขใจขึ้น
นี่ต่างหากที่เป็นชีวิตที่เขาปรารถนา มีห้องที่กว้างใหญ่ และยังมีชีวิตที่เรียบง่ายอีก
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”
เห็นหยางเฉินยืนอยู่ด้านข้างคนเดียว ยิ้มค้างอยู่ ฉินซีถามแบบตลกอยู่บ้าง
“ผมกำลังคิดว่าเมื่อไรจะมีน้องชายให้เสี้ยวเสี้ยวล่ะ?”
หยางเฉินหลุดปากพูดออกมา “ลูกสาวลูกชายครบสองคน ครอบครัวสมบูรณ์แบบ นี่ถึงจะเป็นการเดินไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตคนเรา”
“หนูอยากได้น้องชาย! หนูอยากได้น้องชายค่ะ!”
ทันใดนั้นเสี้ยวเสี้ยวร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้น หันศีรษะไปทางฉินซี หน้าเต็มไปด้วยการรอคอย
“อย่าขยับมั่ว ผมเปียของหนูยังถักไม่เสร็จเลย!”
ฉินซีดุเสี้ยวเสี้ยวเบาๆ และถลึงตาใส่หยางเฉินทีหนึ่ง พูดอย่างอารมณ์เสีย “ลูกสาวก็สี่ขวบกว่าแล้ว ยังทำตัวไม่เหมาะสมอีก!”
หยางเฉินหัวเราะหึๆ เดินมาตรงหน้าของเสี้ยวเสี้ยว ยิ้มถามว่า “เสี้ยวเสี้ยวก็อยากได้น้องชายมาเป็นเพื่อน ใช่หรือเปล่า?”
“เสี้ยวเสี้ยวอยากได้น้องชายค่ะ! อยากได้น้องชายหลายๆ คนเลย!”
แต่ละครั้งที่พูดถึงน้องชาย เสี้ยวเสี้ยวดูฮึกเหิมขึ้นมาก มองทางฉินซีด้วยท่าทางรอคอย พูดอ้อนวอน “หม่าม้าคะ หม่าม้ามีน้องชายให้หนูสักคนนะคะ ได้หรือเปล่าคะ?”
เสี้ยวเสี้ยวกำลังอยากหันหน้ามา กลับถูกฉินซีดุให้ “ถ้าหันหน้ามาอีก ก็ให้ปะป๊าหนูหวีผมให้หนูเลยนะ!”
พอได้ยิน เสี้ยวเสี้ยวหยุดพูดแบบไม่ได้รับความเป็นธรรมทันที ไม่กล้าพูดว่าอยากได้น้องชายอีก
บนหน้ายังมีความกังวลระดับหนึ่ง มองหยางเฉินด้วยความระแวงแล้ว
หยางเฉินทำหน้าหัวเราะอย่างขมขื่น
ก่อนหน้านี้ หยางเฉินเคยถักเปียให้เสี้ยวเสี้ยว เจ็บจนเสี้ยวเสี้ยวร้องไห้ไปตั้งนาน
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เสี้ยวเสี้ยวจึงไม่ให้หยางเฉินแตะต้องผมของหล่อนอีก
หลังจากแต่งหน้าทำผมเสร็จก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว รอให้สองแม่ลูกแต่งตัวกันอย่างตั้งใจเสร็จก็ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง
ตอนที่ออกเดินทางกัน ช่วงเช้าได้ผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว
หยางเฉินไม่ได้รีบร้อน แต่ทว่าดื่มด่ำกับช่วงเวลาแบบนี้อย่างมาก
เล่นสนุกมาที่ดิสนีย์มาทั้งวันแล้ว ตอนที่ทานข้าวเย็นข้างนอกกลับเข้ามา ท้องฟ้าจึงดำมืดลงมาไปหมดแล้ว
“ปะป๊ะ พรุ่งนี้พวกเราไปสวนสัตว์อีกได้หรือเปล่าคะ?”
เสี้ยวเสี้ยวยังเที่ยวไม่เต็มอิ่ม หน้าน้อยๆ แดงขึ้น พูดด้วยความตื่นเต้น
หยางเฉินกำลังอยากจะตอบ ก็ได้ยินฉินซีพูดว่า “ไม่ได้! พรุ่งนี้ยังต้องพาหนูไปคลาสงานอดิเรกเรียนภาษาอังกฤษ!”
“หม่าม้า......”
เสี้ยวเสี้ยวได้ยินคลาสงานอดิเรก ชั่วขณะนั้นทำหน้าน้อยใจ
ฉินซีพูดด้วยท่าทางเข้มงวด “คลาสเต้นในวันนี้ก็ไม่ได้ไปแล้ว คลาสเรียนภาษาอังกฤษวันพรุ่งนี้จำเป็นต้องไป!”
“ปะป๊าคะ เสี้ยวเสี้ยวไม่อยากเรียนภาษาอังกฤษ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...