ต่อให้เป็นพระพุทธรูป คงมีเคืองขึ้นมาได้ระดับหนึ่งเช่นกัน
การยั่วยุครั้งแล้วครั้งเล่าของเฝิงอี้ฉิน ยั่วโมโหหยางเฉินเข้าแล้ว
แต่ที่มุมปากหยางเฉินกลับวาดเส้นรัศมีวงกลมขึ้นนิดๆ หรี่ตามองเขาพลางพูดว่า “ในเมื่อนายชอบกินขวดเหล้าขนาดนี้ งั้นฉันจะทำให้นายสมหวัง!”
ไม่รู้ว่าทำไมตอนมองเห็นลักษณะท่าทางแบบนี้ของหยางเฉิน ทันใดนั้นเฝิงอี้ฉินมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา
แต่พอนึกถึงข้างหลังตนเองมีหนิงเฉินหยู่เป็นที่พึ่งหลักอยู่ ความกังวลแบบนั้นก็หายลับไปหมด
แขกที่อยู่รอบด้านทำหน้าตกใจเช่นกัน ดูท่าทางจะเอาจริงแล้ว
เวลานี้ ในสายตาของทุกคน ล้วนเต็มไปด้วยการรอคอย
“ไอ้หนุ่ม อย่าพึ่งมาโอ้อวด รอให้นายเอาของขวัญที่ราคาสิบล้านขึ้นไปออกมาได้ก่อนแล้วค่อยพูด!”
เฝิงอี้ฉินพูดจาด้วยท่าทางหยอกเย้า
“ขอให้นายสมปรารถนา!”
หยางเฉินยิ้มบอก จากนั้นหยิบกล่องของขวัญขนาดเล็กที่ห่อได้งดงามกล่องหนึ่งออกมา ด้านบนยังมี“เมืองเทียนฝู่”สามคำนี้ประทับอยู่ด้วย
ตอนที่หยางเฉินหยิบกล่องของขวัญออกมา ชั่วพริบตาเดียวสีหน้าเฝิงอี้ฉินซีดเซียวไปเยอะเลย
เมืองเทียนฝู่อยู่ที่เมืองเอก คือธุรกิจอัญมณีชั้นนำ ว่ากันว่าด้านในล้วนเป็นของเก็บสะสมที่ราคาแพงส่วนหนึ่ง และของเล่นโบราณมากมายล้วนประเมินราคาไม่ได้
ของชิ้นเล็กๆ ไม่ว่าชิ้นใดที่อยู่ข้างในนั้น ล้วนมูลค่าหลักล้านขึ้นไป
ของเล่นโบราณที่ราคาหลายสิบล้าน ก็มีมากมาย
“เฟยเฟย สุขสันต์วันเกิดนะ นี่คือของขวัญที่ฉันให้เธอ! ดูสิว่าชอบหรือเปล่า?”
หยางเฉินพูดแบบหน้าตาอ่อนโยน
ในสายตาของเขา หานเฟยเฟยเหมือนเป็นน้องสาว ในใจเขาไม่มีความคิดชั่วร้ายใดๆ ก่อนหน้านี้ซื้อของขวัญวันเกิดให้เธอ ก็เป็นเพราะเห็นเธอเป็นน้องสาว
“ว้าว! กำไลหยกสวยมากเลยนะ!”
“คาดไม่ถึงว่ามาจากเมืองเทียนฝู่ ดูสีและความมันวาวของกำไลนี้ น่าจะเป็นรองก็แค่เขียวเจิ้งหยังของหยกสีเขียวจักรพรรดิ์ ราคาอย่างน้อยต้องห้าล้านขึ้นไป!”
“ถ้าเธอซื้อกำไลหยกเขียวเจิ้งหยังคุณภาพดีขนาดนี้ได้ในราคาห้าล้านได้ ขายเท่าไรฉันก็ซื้อเท่านั้น! กำไลวงนี้ ราคาอย่างน้อยสิบล้านขึ้นไป!”
“ก่อนหน้านี้ฉันเคยเจอกำไลวงนี้ที่เมืองเทียนฝู่ ราคาขายสิบสองล้านแปดแสนแปดหมื่น เพราะแพงเกินไป ฉันถึงไม่ได้ซื้อ!”
“อะไรนะ? สิบสองล้านแปดแสนแปดหมื่น? เธอแน่ใจว่าคือชิ้นนี้เหรอ?”
ตอนที่หยางเฉินหยิบกำไลออกมา ทุกคนส่งเสียงร้องตกใจออกมาพักหนึ่ง พวกผู้หญิงเหล่านั้น ยิ่งตื่นเต้นกันยกใหญ่
ไม่นานราคาของกำไลชิ้นนี้ก็ถูกคนที่รู้เรื่องราวเปิดเผยออกมาแล้ว
เฝิงอี้ฉินที่เดิมทียังแอบมีความหวังระดับหนึ่ง ตอนที่ได้ยินราคาของกำไลชิ้นนี้เกินกว่าสิบล้าน สีหน้าซีดขาวไปแล้ว
สีหน้าของหนิงเฉินหยู่ก็ดูแย่เช่นกัน กำไลที่ราคาสิบกว่าล้าน เขาไม่ใช่ว่าซื้อไม่ได้
แต่เมื่อถูกหยางเฉินส่งออกมา ก็พอจะอธิบายได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหานเฟยเฟยไม่ธรรมดา
“พี่หยาง ขอบคุณนะคะ ฉันชอบมากเลย!”
ฟานเฟยเฟยหน้าตาตื่นเต้นเต็มเปี่ยม ทันใดนั้นหน้าแดงระเรื่อ ท่าทางเขินอาย “พี่หยาง พี่......พี่ใส่ให้ฉันหน่อยได้มั้ย?”
หยางเฉินหัวเราะแล้ว รู้อยู่แล้วว่าหานเฟยเฟยกำลังเล่นละคร จึงไม่ได้สนใจ จับมือน้อยของหานเฟยเฟยขึ้นมาต่อหน้าผู้คน ช่วยใส่กำไลให้เธอแล้ว
“งามเหลือเกิน!”
“กำไลอันนี้ คือของที่ทำขึ้นมาเพื่อคุณหานเสียจริง!”
“มองจากไกลๆ ยังเหมือนภาพวาดทิวทัศน์ภาพหนึ่ง ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน!”
พวกผู้หญิงเหล่านั้นต่างมองข้อมือของหานเฟยเฟยด้วยท่าทางอิจฉาเต็มที่
“ถ้าฉันจำไม่ผิด เมื่อกี้มีคนบอกว่าถ้าคุณหยางสามารถเอาของขวัญวันเกิดที่ดียิ่งกว่าออกมาได้ จะกินขวดเหล้าเลยมั้ง?”
ในเวลานี้เอง กวนเสว่ซงพูดอย่างหน้าตาเสียดสีขึ้นกะทันหัน ในสายตาที่มองทางเฝิงอี้ฉินหยอกเย้าสุดๆ
เขาพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนถึงนึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องสนุกที่ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่า
“โตมาขนาดนี้แล้ว ฉันยังไม่เคยดูการแสดงกินขวดเหล้ามาก่อน ในที่สุดวันนี้ก็มีโอกาสแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...