“ดูเหมือนว่าการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้จะไม่ราบรื่นขนาดนั้นแล้วสิ!”
“แน่นอนสิ ขนาดทายาทผู้สืบสกุลของแปดตระกูลแห่งเย็นตูยังมาร่วมด้วย มันต้องไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน!”
“บางที การประชุมแลกเปลี่ยนของตระกูลเมิ่งในครั้งนี้ อาจเล็งเป้าไปที่ตระกูลหนิงกับตระกูลหานก็ได้นะ”
ผู้คนต่างแสดงความคิดเห็นต่อกัน และหลายๆ คนก็มองไปที่ตระกูลหานกับตระกูลหนิง
“แต่ก่อนที่จะเริ่มการประชุมแลกเปลี่ยน ผมต้องจัดการเรื่องส่วนตัวของผมก่อน!”
สีหน้าของเมิ่งหงเย่หม่นหมองลง และทันใดนั้น สายตาที่เฉียบคมของเขาก็มองไปที่กวนเจิ้งซาน
ตามทิศทางที่เมิ่งหงเย่มอง ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าเขากำลังมองใครอยู่
กวนเจิ้งซานเลิกคิ้วและแสดงสีหน้าอย่างเย็นชามาเช่นกัน
เขาคาดการณ์ไว้แต่แรกแล้วว่าการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้จะไม่ผ่านไปอย่างราบรื่นแน่นอน มีความเป็นไปได้สูงมากที่อีกฝ่ายจะมาเพื่อหยางเฉินโดยเฉพาะ
เนื่องจากตระกูลกวนเป็นตระกูลที่ภักดีที่สุดของหยางเฉิน หากเมิ่งหงเย่ต้องการเล่นงานหยางเฉิน พวกเขาต้องหาวิธีเพื่อจัดการกับตระกูลกวนก่อนอย่างแน่นอน
หยางเฉินเองก็มองเรื่องนี้ขาดอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงได้แต่มองเมิ่งหงเย่อย่างนิ่งเฉย และรอดูว่าเมิ่งหงเย่จะมาไม้ไหน
“เจ้าบ้านกวนครั้งก่อนที่คุณมาหาเรื่องในบ้านตระกูลเมิ่งของผม คุณน่าจะยังไม่ลืมใช่ไหม?”
เมิ่งหงเย่พูดขึ้นอย่างกะทันหัน
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เมิ่งหงเย่เป็นถึงผู้นำของตระกูลเมิ่ง ไม่มีทางที่เขาจะเอาเรื่องนี้มาเล่นตลกอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่าตระกูลคนรวยในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง จะกล้าไปท้าทายตระกูลที่ร่ำรวยระดับต้นๆ ของเมืองเอกได้อย่างไร?
“เจ้าบ้านเมิ่งพูดเกินเหตุไปไหมครับ ผมก็แค่ไปหาคนที่บ้านตระกูลเมิ่งเท่านั้น”
“แต่แน่นอน ถ้าเจ้าบ้านเมิ่งยืนกรานคิดว่าตระกูลกวนของผมตั้งใจไปหาคุณ ผมก็จะไม่ว่าอะไร!”
“เพราะตระกูลกวนของผม ไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว!”
กวนเจิ้งซานสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงแข็งกร้าวโดยปราศจากความสิ้นหวังและความกลัวจากการตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลยักษ์ใหญ่นี้
“เจ้าบ้านกวนยังแข็งข้อไม่เปลี่ยนเลยนะครับ!”
เมิ่งหงเย่หรี่ตาพูดต่อ “แต่ แล้วยังไง?”
กวนเจิ้งซานไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองไปที่เมิ่งหงเย่อย่างเย็นชาและรอคำพูดต่อไปของเขา
“ไม่ว่ายังไง คุณเป็นคนพาคนของตระกูลกวนไปหาเรื่องที่ตระกูลเมิ่งของผม เรื่องนี้ คุณต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนให้ผม!”
เมิ่งหงเย่เงียบไปสักพักแล้วพูดต่อ “ตอนนี้ ผมจะให้คุณสองทางเลือก ตัวเลือกแรกคือตระกูลกวนของคุณต้องแตกสลาย! ทางเลือกที่สอง กำไรทั้งหมดของตระกูลกวนของ คุณต้องชดใช้ให้ตระกูลเมิ่งของผมครึ่งหนึ่ง!”
“เหอะ ๆ !”
กวนเจิ้งซานหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “เจ้าบ้านเมิ่งคุณยากไร้ขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงกับขอแบ่งกำไรครึ่งหนึ่งของตระกูลกวนของผม?”
“แล้วแต่คุณจะพูด แต่ตอนนี้ บอกคำตอบที่คุณจะเลือกมา!”
เมิ่งหงเย่หรี่ตาพูด
“ผมเลือก ทางเลือกที่สาม!”
กวนเจิ้งซานพูดอย่างติดตลก
“ทางเลือกที่สาม?”
เมิ่งหงเย่ขมวดคิ้วและจ้องไปที่กวนเจิ้งซานด้วยความโกรธ
“อย่าพูดเรื่องไร้สาระให้มากไป อยากทำอะไรตระกูลกวนของผมก็เชิญเข้ามาเลย!”
กวนเจิ้งซานพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
และคำพูดนี้ทำให้ทุกคนต้องเงียบไป!
ในการประชุมแลกเปลี่ยนของตระกูลเมิ่งยังกล้าทำตัวแข็งกร้าวขนาดนี้ กวนเจิ้งซานคนนี้มันเบื่อโลกมากเลยหรือ?
ความคิดเดียวกันนี้ปรากฏขึ้นในหัวของผู้คนที่นับไม่ถ้วน
เมิ่งหงเย่ถึงกับผงะไป เขาไม่คิดเลยว่าเมิ่งหงเย่จะกล้าต่อกรกับเขาต่อหน้าสาธารณะแบบนี้
“ในเมื่อคุณอยากตายมากนัก งั้นผมขอสมทบให้คุณก็แล้วกัน!”
เมิ่งหงเย่พูดอย่างเย็นชา
หวงจงซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งเจ้าภาพได้พักสายตามาตลอด แต่หลังจากได้ยินคำพูดของกวนเจิ้งซานเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที
หวงเหมยที่นั่งถัดจากหวงจงก็แสดงท่าทีเหมือนดูละครอย่างใจจดใจจ่อ
“ใครก็ได้ มาไล่กวนเจิ้งซานคนนี้ออกไป!”
ในขณะที่ทุกคนยังคงสงสัยว่าเมิ่งหงเย่จะจัดการกับกวนเจิ้งซานด้วยวิธีไหน ทันใดนั้น เขาก็ตะโกนออกมาและทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงอีกครั้ง
ทันทีหลังจาก ชายร่างใหญ่นับสิบคนก็เดินเข้ามาล้อมรอบคนของตระกูลกวนไว้
“เจ้าบ้านเมิ่งคุณจะทำเกินไปไหม?”
และในเวลานี้ เสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชาก็ดังขึ้น
“เฉินซิงไห่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...