The king of War นิยาย บท 376

“ตาแก่ สิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพของการจัดการประชุมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ คุณรู้ดี ว่าคุณได้มันมาอย่างไร”

“คุณรังแกตระกูลเฝิงแล้วยังไม่พอ แต่คุณยังคิดจะรังแกตระกูลกวนกับตระกูลเฉินอีกด้วย?”

“ในเมื่อคุณเมิ่งหงเย่ชอบรังแกชาวบ้าน แล้วผมหานเซี่ยวเทียน คุณกล้ารังแกไหม?”

หานเซี่ยวเทียนพูดด้วยความโกรธ

โดยปกติเขาเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมใครง่ายๆ อยู่แล้ว และเขาก็รู้ดีถึงความสัมพันธ์ของหยางเฉินที่มีต่อตระกูลกวนกับตระกูลเฉิน

อีกอย่าง ครั้งก่อนที่ไปบ้านตระกูลเมิ่งนั้น ไม่ได้มีเพียงตระกูลกวนกับตระกูลเฉิน แต่ยังมีตระกูลหานของเขาอีกด้วย

และในตอนนี้ เมิ่งหงเย่ชี้นิ้วไปตระกูลกวน ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเล็งเป้าไปที่หยางเฉิน

คนอื่นอาจไม่เข้าใจ แต่เขารู้ดีว่าตระกูลกวนเป็นดาบคมในมือของหยางเฉิน

ฉะนั้น ทางเดียวก็คือเล่นงานตระกูลกวนก่อน แล้วหยางเฉินจะก้าวออกมาเอง

“หานเซี่ยวเทียน อย่าพูดจาเกินเหตุไปนะ ผมไม่ได้คิดจะรังแกครอบครัวใครด้วยซ้ำ”

เมิ่งหงเย่ยิ้มพูดต่อ “สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้คุณก็เห็นแล้ว ตระกูลกวนกับตระกูลเฉินคิดจะร่วมมือกันท้าทายอำนาจของตระกูลเมิ่งของผมมากกว่า!”

“แต่ไม่ว่าจะยังไง ตระกูลเมิ่งของผมก็เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ฉะนั้น ผมจะไม่ยอมให้หมูๆ หมาๆ ที่ไหนมาสร้างปัญหาหรอก”

“อีกอย่าง ในงานประชุมแลกเปลี่ยนที่จัดขึ้นโดยตระกูลเมิ่งของผม ผมจะไล่พวกสร้างปัญหาออกไป มันคงไม่เกินเหตุหรอกนะ?”

เมิ่งหงเย่พูดอย่างยั่วยุ “แต่แน่นอน ถ้าเจ้าบ้านหานอยากยุ่งด้วย ผมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว แต่รอตระกูลหานได้เป็นเจ้าภาพจัดงานก่อน ตระกูลเมิ่งของผมก็อยากยุ่งบ้างเหมือนกัน”

“แล้วแค่คุณ!”

หานเซี่ยวเทียนยิ้มอย่างเย็นชา “แต่ตอนนี้ ไม่ว่าใครหน้าไหน ถ้ากล้าแตะต้องตระกูลกวนกับตระกูลเฉินก็อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจก็แล้วกัน!”

เมื่อพูดจบ หานเซี่ยวเทียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกทันที “รีบจัดคนออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้ไปที่บ้านตระกูลเมิ่ง ส่วนอีกกลุ่มให้มาที่โรงแรมจงโจว แล้วให้ทุกคนรอคำสั่งของผม!”

ในที่สุดสีหน้าของเมิ่งหงเย่ก็เปลี่ยนไป

เพราะคนของเขาส่วนมากจะมารวมตัวกันที่โรงแรมจงโจวแล้ว และเขาก็ได้ละเลยความปลอดภัยของครอบครัวไป

ที่สำคัญคือเขารู้ดีว่าหานเซี่ยวเทียนนั้นเป็นคนใจร้อนแค่ไหน

ถ้าสถานการณ์มันบีบบังคับจริงๆ หานเซี่ยวเทียนอาจสั่งลูกน้องลงมือกับตระกูลเมิ่งของเขาเลยก็ได้

“จัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”

ในขณะนั้น เสียงพูดอีกเสียงก็ดังขึ้น

“ดีมาก ปิดล้อมบ้านตระกูลเมิ่งภายใน 20 นาที แล้วรอคำสั่งจากผม!”

เฉินซิงไห่ก็กดวางสวยด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ดวงตาของทุกคนตกตะลึงทันที ไม่แปลกที่หานเซี่ยวเทียนให้คนของตระกูลหานปิดล้อมบ้านตระกูลเมิ่ง เพราะตระกูลของเขากับตระกูลเมิ่งนั้นอยู่ในระดับเดียวกันอยู่แล้ว

แต่ตระกูลเฉินนี่สิ เขาเป็นแค่น้องใหม่ที่เพิ่งถูกเลื่อนขั้นให้เป็นมหาเศรษฐีเท่านั้น นอกจากนี้พวกเขายังมาจากต่างถิ่นอีกด้วย แต่ตอนนี้เขากลับให้คนของเขาไปปิดล้อมบ้านของตระกูลเมิ่ง

ที่สำคัญกว่านั้นคือ เฉินซิงไห่ให้คนของเขาไปปิดล้อมบ้านตระกูลเมิ่งภายใน 20 นาทีเท่านั้น

เพราะจากเมืองโจวเฉิงมาที่เมืองเอก อย่างน้อยต้องใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าหนึ่งชั่วโมง

แต่เฉินซิงไห่กลับให้คนของเขาไปปิดล้อมบ้านตระกูลเมิ่งภายใน 20 นาทีเท่านั้น ซึ่งสามารถอธิบายได้เพียงสิ่งเดียว นั่นก็คือคนของตระกูลเฉินได้อยู่ในเมืองเอกตั้งแต่แรกแล้ว

“รีบมาให้ถึงโรงแรมจงโจวภายใน 20 นาที แล้วรอคำสั่งจากผม!”

ในเวลานี้ เสียงสนทนาอีกเสียงก็ดังขึ้น

ซึ่งก็คือกวนเจิ้งซาน!

“นี่มันต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่เลย!”

“ตระกูลกวนกับตระกูลเฉิน ยังมีตระกูลหานอีกด้วย แล้วตระกูลเมิ่งจะไหวเหรอ?”

“สามตระกูลยักษ์ใหญ่ในเมืองเอก ตระกูลเมิ่งกับตระกูลหานอยู่ในเกมแล้ว ตอนนี้คนที่มีความสุขที่สุดก็คงเป็นตระกูลหนิงสินะ?”

ตระกูลมหาเศรษฐีหลายๆ ตระกูลกำลังจะเผชิญหน้ากัน ซึ่งก็ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงกลิ่นอายแห่งสงครามได้อย่างชัดเจน

และบรรยากาศของสถานที่จัดงานประชุมแลกเปลี่ยนก็ได้มาถึงจุดสูงสุดแล้วเช่นกัน

เมิ่งหงเย่สีหน้าบูดบึ้งจนหาที่เปรียบไม่ได้ เขาตั้งใจจะทำเรื่องนี้ให้ใหญ่ก็จริง แต่เขาไม่คิดเลยว่าตระกูลเหล่านี้จะเตรียมพร้อมมาดีขนาดนี้

โรงแรมจงโจวกับบ้านตระกูลเมิ่งต่างก็ถูกปิดล้อมไปแล้ว ถ้าเริ่มสงสารเมื่อไหร่ ตระกูลเมิ่งต้องทุกโจมตีทั้งสี่ด้านอย่างแน่นอน

ในตอนนี้ เขาได้แค่ตรึงความหวังทั้งหมดไว้ที่หวงจง

แต่เมื่อเขามองไปที่หวงจง อีกฝ่ายกลับดูเย็นชา ดูเหมือนว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย

และในขณะนี้ เสียงพูดอีกเสียงก็ดังขึ้น ทำให้ที่ประชุมเงียบลงอีกครั้ง “พวกคุณลืมตระกูลหนิงของผมไปแล้วเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War