The king of War นิยาย บท 387

“ฉันโดนคนตระกูลหวงของแกใส่ร้ายป้ายสี แกจะขอโทษสักคำยังไม่มี ก่อนจากไปกลับมาข่มขู่ฉันอีก”

หยางเฉินยิ้มเยาะพูดว่า “ตอนนี้ กลับมาถามฉันว่าอยากสู้กับแกให้ตายไปข้างหนึ่งใช่ไหม นี่คือนิสัยการทำงานของตระกูลหวงอย่างแกงั้นเหรอ?”

เวลานี้ ลูกหลานของตระกูลใหญ่ส่วนหนึ่ง ต่างตกใจตาค้างกันหมดแล้ว

คนหนุ่มที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขา คาดไม่ถึงกล้าจะมาโต้เถียงเป็นศัตรูกับผู้สืบทอดของตระกูลหวง

อย่าว่าแต่พวกเขาเลย ต่อให้เป็นผู้นำของพวกเขา อยู่ต่อหน้าหวงจง นั่นแม้แต่ลมหายใจยังไม่กล้าพ่นออกมาแรงเลย

สมาคมบูโดสาขาเจียงผิง หัวหน้าสาขาฉือเจียง ในแววตาลึกเต็มไปด้วยความตกใจเช่นกัน

ถึงแม้ว่าหวงจงจะโดนเขาบีบให้กลับไป แต่เขามีความสามารถรับรู้ได้ด้วยตนเอง สาเหตุที่เขาสามารถได้รับชัยชนะในการปะทะครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าตระกูลหวงอ่อนแอเกินไป

แต่เพราะที่เจียงผิง มีสาขาของสมาคมบูโด

ถ้าอยากเทียบตำแหน่งกับหวงจงจริง ฉือเจียงสู้ไม่ได้แน่ๆ

โดยเนื้อแท้สมาคมบูโดแกร่งกว่าตระกูลหวงเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น หวงจงเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหวงด้วย ส่วนฉือเจียงเอง เป็นเพียงหัวหน้าสมาคมคนหนึ่งในบรรดาสาขาของสมาคมบูโดอีกมากมาย

“กล้าให้ฉันหวงจงขอโทษ นี่คือแกกำลังวอนหาที่ตาย!”

หวงจงโกรธจัดแต่ยังหัวเราะขึ้น ระเบิดไฟโกรธลุกท่วมทั้งตัว

“ไม่ประจวบเหมาะเอาเสียเลย ฉันคนนี้ ชอบทำตรงกันข้ามกับคนอื่นเสียด้วยสิ ในเมื่อแกไม่ยอมขอโทษ งั้นฉันคงทำได้แค่บังคับแกให้ขอโทษ!”

หยางเฉินพูดจาด้วยท่าทางนิ่งสงบ

“ไอ้หมอนี่บ้าไปแล้วหรือไง?”

“ต่อให้เขาเป็นคนของตระกูลอวี๋เหวินก็ตาม แต่ก็เป็นแค่พวกโดนทิ้งคนหนึ่ง ส่วนหวงจงเป็นถึงผู้นำตระกูลหวงในอนาคต เจ้าหนุ่มนี้จะเอาอะไรมาสู้กับผู้นำตระกูลหวงในอนาคตกัน?”

“วันนี้ เกรงว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ อาจจะต้องจบชีวิตลงตรงนี้จริงแน่!”

คนในเหตุการณ์ฮือฮาพักหนึ่ง ทว่าไม่มีสักคนที่เข้าข้างหยางเฉิน

หยางเฉินกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ คนธรรมดาทั่วไปจะรู้จักปณิธานของวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ได้ที่ไหนกัน?

สำหรับตระกูลหวง เขายังไม่ได้เอามาใส่ใจจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นแค่ผู้สืบทอดของตระกูลหวงคนหนึ่ง?

ขอเพียงเขายินยอม ก็สามารถกลายเป็นผู้นำของตระกูลอวี๋เหวินได้ทันที

และยังไม่ต้องพูดถึงสถานะที่รักษาดินแดนเหนือ หวงจงก็ไม่มีสิทธิ์มาเทียบสถานะกับเขาได้แล้ว

“ฉันกลับอยากจะดูซะหน่อย แกจะให้ฉันขอโทษได้ยังไง?”

หวงจงหัวเราะอย่างเหยียดหยาม ความรู้สึกโกรธทำให้เขาแทบจะหลุดการควบคุมไป

ในฐานะผู้สืบทอดของตระกูลหวง สุขุมเยือกเย็นเป็นการฝึกฝนที่จำเป็นของเขา

การเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าลูกชายตนเองโดนฆ่า เขายังสามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้ แต่เผชิญหน้ากับหยางเฉิน ความรู้สึกเดือดดาลภายในร่างกาย ยังแอบมีสัญญาณว่าจะระเบิดออกมา

“ท่านจง คุณไปก่อนเถอะครับ!”

เวลานี้ บอดี้การ์ดวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังของหวงจง พูดจาด้วยหน้าตาเคร่งขรึมอย่างกะทันหัน

ขณะเดียวกัน เขาเข้ามาด้านหน้าก้าวหนึ่ง คุ้มกันหวงจงไว้ด้านหลัง

บอดี้การ์ดที่ความรู้สึกว่องไว สัมผัสถึงความอันตรายอันใหญ่หลวงส่วนหนึ่งได้จากบนตัวของหยางเฉิน

เผชิญหน้ากับหยางเฉิน เขาก็ไม่ความมั่นใจเช่นกัน

ได้ยินคำพูดของบอดี้การ์ด ในใจหวงจงสั่นไหว ตื่นตกใจอยู่บ้าง

ถึงแม้เขาจะรู้ว่าหยางเฉินแกร่งมาก แต่ยังคงไม่มีทางยอมรับได้ แม้แต่ความจริงที่ว่าบอดี้การ์ดของตนเอง อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉินด้วย

คนที่สามารถถูกเลือกมาเป็นบอดี้การ์ดของหวงจงได้ ความสามารถย่อมไม่แย่เป็นธรรมดา

“คนที่ฉันอยากแตะต้อง ใครจะคุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัยได้?”

หยางเฉินเผด็จการไร้ที่เปรียบ ทันใดนั้นขยับเท้าทีหนึ่ง ร่างกายเปลี่ยนเป็นภาพวืด

วินาทีนี้ ฉือเจียงที่เดิมทีนั่งอยู่บนที่นั่งแขกผู้ทรงเกียรติมาตลอดลุกขึ้นยืนโดยฉับพลัน หน้าตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ในขณะเดียวกัน ทุกคนภายในโถงใหญ่ประชุมแลกเปลี่ยนล้วนเป็นเช่นนี้ ลุกขึ้นมาด้วยความตื่นตกใจกันหมด

ส่วนหวงจงรู้สึกถึงแค่ความรู้สึกอึดอัดที่ทำให้เขาไม่มีทางหายใจได้กำลังโจมตีเข้ามา ขนตั้งชันขึ้นมาทั่วทั้งตัวแล้ว

สำหรับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกายเขาเพียงรู้สึกตาลาย มีแรงมหาศาลที่กระโจนมาด้านหน้า ทำให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้สักนิด

“คุกเข่าลง!”

เสียงที่หนาวเย็นจนทำให้คนแทบหยุดหายใจเสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน

หยางเฉินยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ดุจเสียงสายฟ้าดังสนั่น เหมือนเสียงผ่าลงที่ข้างหูทำเอาหวงจงตกใจยกใหญ่ อกสั่นขวัญแขวนไปหมด

ภายใต้อาการตื่นตะลึงของทุกคน เห็นเพียงหยางเฉินยื่นมือข้างหนึ่งออกมาทันใด กดบนไหล่ของหวงจงไว้แล้ว

หวงจงรู้สึกเพียงว่าบนไหล่ถูกพลังมหาศาลกดทับในชั่วพริบตา

“ตึง!”

เสียงดังกังวานทีหนึ่ง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War