The king of War นิยาย บท 40

บทที่ 40 ไม่มีคุณสมบัติมากพอ

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หยางเฉินก็เพิ่มความเร็วจนถึงขีดสุด ใช้เวลาเพียงแค่ยี่สิบนาที เขาก็มาถึงบริษัทการบันเทิงโป๋เหรินแล้ว

เมื่อมองไปยังไนท์คลับที่ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาเบื้องหน้าแล้ว แววตาของเขาก็ทอประกายเย็นเยียบ ก่อนจะเหยียบลงไปบนคันเร่งอย่างแรง

“โครม!”

โฟล์คเภาตันพุ่งชนเข้าไปข้างในห้องโถงของบริษัทการบันเทิงโป๋เหรินจนเกิดเสียงดังสนั่น ก่อนจะหยุดลงเพราะกระแทกเข้ากับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อย่างแรง

“เวรเอ๊ย! เกิดเรื่องอะไรขึ้นวะเนี่ย”

คนจำนวนมากมองไปยังส่วนด้านหน้าของรถสีดำที่เกือบถูกกระแทกจนพังยับเยินตาค้าง

“ปัง!”

ประตูรถลอยออกมา ตามด้วยเงาร่างของหยางเฉินที่ก้าวลงมาจากรถ

ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์รุนแรงขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ไม่มีกระทั่งรอยถลอกเล็กๆ น้อยๆ

“ประธานสง มีโฟล์คเภาตันคันหนึ่งชนเข้ามาในห้องโถงครับ” ผู้จัดการของบริษัทการบันเทิงโป๋เหรินรีบวิ่งขึ้นมารายงานที่ชั้นบนสุดด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน

เมื่อได้ยินดังนั้น สงโป๋เหรินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “อุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างนั้นเหรอ”

เขาไม่เข้าใจจริงๆ ที่หน้าประตูหลักของบริษัทการบันเทิงโป๋เหรินไม่มีถนนเสียหน่อย ทำไมถึงมีรถพุ่งชนเข้ามาได้

“ประธานสงครับ ผมรู้สึกว่าคนที่มานั้นเหี้ยมโหดเอามากๆ เขาเป็นคนหนุ่ม ทันทีที่ลงมาจากรถก็บอกว่าต้องการจะพบคุณ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ถูกเขาจัดการหมดแล้ว” เพียงผู้จัดการคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเห็นในห้องโถงทั้งหมดเมื่อกี้นี้ ก็รู้สึกได้ว่าหัวใจกำลังสั่นสะท้าน

บุกมาตัวเดี่ยวๆ ส่งหมัดออกมาแค่ครั้งเดียวก็ทำคนลอยไปไกลได้ เขาทำงานอยู่ที่ไนท์คลับมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ไม่เคยเห็นคนที่เก่งกาจขนาดนี้มาก่อน

หลังจากได้ยินคำพูดของผู้จัดการ มุมปากของสงโป๋เหรินที่เดิมทียังเต็มไปด้วยรู้สึกความแปลกใจก็ยกขึ้นเบาๆ รอยยิ้มสายหนึ่งปรากฏขึ้นมา “ไม่เป็นไร บอกให้พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกไป แล้วปล่อยเขาขึ้นมา”

“ประธานสงครับ นี่…”

ผู้จัดการรู้สึกกังวลไม่น้อย แต่ทันทีที่เพิ่งจะพูดออกมา สงโป๋เหรินก็ขมวดคิ้ว “ฟังที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือไง”

“ครับ ประธานสง ผมจะรีบไปจัดการให้เดี๋ยวนี้!” ผู้จัดการตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนจะรีบหมุนตัวเดินออกไป

มุมปากของสงโป๋เหรินฉาบทับด้วยรอยยิ้มที่ดูคล้ายมีคล้ายไม่มีอยู่ตลอดเวลา จากนั้นเขาก็เปิดกระเป๋าหนังสีดำที่อยู่ตรงหน้า ภายในนั้นเต็มไปด้วยธนบัตรหนึ่งร้อยหยวน 

“ในนี้มีเงินอยู่ทั้งหมดสามล้าน ขอแค่แกสามารถทำให้มันอยู่ไม่สู้ตายได้ พวกมันก็จะกลายเป็นของแกทั้งหมด” สงโป๋เหรินยิ้มตาหยีมองไปยังชายฉกรรจ์ผิวดำที่ยืนอยู่อีกด้าน

ตอนที่ผู้จัดการลงไปถึงห้องโถงชั้นหนึ่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่ายี่สิบคนก็ลงไปนอนกับพื้นเรียบร้อยแล้ว ไม่มีใครที่สามารถยืนอยู่ได้เลยสักคน

นอกจากหยางเฉินแล้ว ด้านหลังของเขายังมีชายฉกรรจ์อยู่อีกคนหนึ่ง นั่นก็คือหม่าชาวผู้ซึ่งปกติแล้วไม่ต่างอะไรจากเงาตามตัว

และใต้เท้าของหม่าชาว ก็กำลังเหยียบอยู่บนร่างโชกด้วยเลือดของผู้ชายที่ไม่ต่างอะไรกับสุนัขตายคนหนึ่ง

เพียงแต่ใบหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยเลือด ทำให้มองเห็นหน้าได้ไม่ชัดเจน ไม่อย่างนั้นพนักงานของสถานบันเทิงโป๋เหรินจะต้องรู้แน่นอนว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร

“ประ ประธานสงของพวกเราอยู่ที่ห้องส่วนตัวหมายเลขศูนย์ตรงชั้นบนสุดครับ อนุญาตให้พวกคุณขึ้นไปได้” ผู้จัดการเห็นคนที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นพวกนั้นแล้ว ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

เป็นอย่างที่คาดไว้ ในใจของหยางเฉินรู้ดีว่า การที่ฉินซีมาที่นี่ในวันนี้ เดิมทีก็คือแผนการของสงโป๋เหริน และเป้าหมายของอีกฝ่ายก็คือเขา

หยางเฉินหมุนตัวเดินไปที่ลิฟท์ หม่าชาวลากขาของผู้ชายที่กำลังสลบอยู่คนนั้นตามไป ร่างของอีกฝ่ายถูไปตามพื้น หลงเหลือไว้เพียงรอยเลือดที่ชวนให้หวาดผวา

ตระกูลสงสามารถเบียดตัวขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ของตระกูลใหญ่ในเจียงโจวได้ ก็ด้วยเพราะมีกิจการสถานบันเทิงเป็นหลัก สามารถพูดได้เลยว่า ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของสถานบันเทิงในเจียงโจวนั้นเป็นของตระกูลสง

เพียงแต่หากเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงแล้ว โดยพื้นฐานคงหนีไม่พ้นเบื้องหลังที่อยู่ใต้ดิน แค่คิดก็รู้ได้ทันทีว่า มาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ของตระกูลสงแบบนี้ ทำให้คนรู้สึกยากจะเชื่อมากขนาดไหน

“สองคนเมื่อกี้เป็นใครกันแน่ โหดเกินไปแล้ว กระทั่งอาณาเขตของตระกูลสงก็ยังกล้ามาหาเรื่องสร้างความวุ่นวาย”

“ก็แค่พวกโง่ที่รู้จักแต่ต่อยตีเท่านั้นแหละ คิดว่าอาณาเขตของตระกูลสงอยากจะเข้าออกยังไงก็ได้หรือไง”

“จะว่าไปแล้วเมื่อปีก่อนก็มีไอ้โง่ที่ไม่ดูตาม้าตาเรือมาก่อความวุ่นวายในอาณาเขตของตระกูลสง ผลลัพธ์คือผ่านไปสองวันก็พบตัวอีกทีที่แม่น้ำเหล่าหลง ตอนที่พบ คนคนนั้นก็ถูกแช่อยู่ในน้ำจนเปื่อยไปแล้ว”

เมื่อมองตามแผ่นหลังของหยางเฉินกับหม่าชาวที่ออกไปแล้ว ก็คล้ายจะไม่มีคนคิดเลยว่าพวกเขาจะสามารถมีชีวิตกลับออกมาได้

“ประธานสงของพวกเราบอกว่า สำหรับเครื่องดื่มของแขกทุกท่านในคืนนี้ ฟรีทั้งหมด! ทุกคนขอเสียงหน่อยเร็ว!” ผู้จัดการหยิบไมค์โครโฟนขึ้นมาแล้วกล่าวเสียงดัง

หลังจากที่พูดจบเสียงของดนตรีเฮฟวี่เมทัลก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนร่วมกันร้องตะโกนขึ้นมา “ประธานสงจงเจริญ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War