ปรมาจารย์หงสีหน้าหยิ่งผยอง ยืนนิ่งมองดูหานเซี่ยวเทียนอย่างดูถูก “นี่คือศักยภาพของยอดฝีมือระดับสุดยอดของตระกูลเจียงแล้วหรือ? อ่อนแอเหลือเกิน!”
“คุณอย่าจองหองเกินไป ผมยอมรับว่าไม่มียอดฝีมือในตระกูลหานที่สามารถออกโรงได้ แต่ในเจียงผิงของพวกเรา คุณหยางต่างหากที่แข็งแกร่งที่สุด!”
ใบหน้าของหานเซี่ยวเทียนแดงก่ำ ขู่คำรามเสียงทุ้มต่ำ
เฉินซิงไห่ก็โกรธมากเช่นกัน เขากัดฟันพูดว่า “พวกคุณไม่รู้หรอกว่าคุณหยางเป็นอย่างไร!”
“นี่คือโฉมหน้าของผู้นำของตระกูลมั่งคั่งชั้นนำในเจียงผิงใช่หรือไม่?”
“ในเมื่อพ่ายแพ้แล้ว ก็ควรยอมรับความจริง อย่ามาโอ้อวดที่นี่!”
“ราชาเจียงผิงของพวกคุณ เกรงว่าจะกลัวจนไม่กล้ามาแล้วล่ะมั้ง?”
บรรดาผู้นำของตระกูลมั่งคั่งในหนันยังกล่าวอย่างประชดประชัน
หานเซี่ยวเทียนและเฉินซิงไห่ถูกคนเป็นหมื่นเป็นพันชี้หน้าด่ากราด สีหน้าย่ำแย่จนถึงขีดสุด
“เจ้าบ้านหาน ผมก็รู้เช่นกันว่า ตอนนี้คุณคงไม่เต็มใจที่จะยอมจำนนต่อผม”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมเราไม่มาทำข้อตกลงกันอย่างลูกผู้ชายล่ะ?”
จู่ๆ จูกว่างจื้อก็เอ่ยปากพูดขึ้น
หานเซี่ยวเทียนพ่นลมหายใจออกมา “คุณจะพูดอะไรก็พูดมาตรงๆ เถอะ อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ!”
จูกว่างจื้อไม่ได้โกรธ เขายิ้มออกมา “เอาล่ะ พวกเราตระกูลมั่งคั่งจากสองมณฑล จะร่วมมือกันจัดการกับสมาคมบูโดก่อน”
“ถ้าคนของผมจัดการกับสมาคมบูโดแล้ว ต่อจากนี้ไป ตระกูลจูของผมจะได้รับความเคารพจากเจียงผิงและหนันยัง!”
“แน่นอน ถ้าคนของเจียงผิงเป็นคนจัดการกับสมาคมบูโดได้ ต่อจากนี้ไปทั้งสองมณฑลจะขึ้นอยู่กับคุณ คุณคิดอย่างไร?”
จูกว่างจื้อกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเขาต้องการจัดการกับหานเซี่ยวเทียนและเฉินซิงไห่ในตอนนี้เหลือเกิน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต แต่งานต่อสู้ที่สมาคมบูโดจัดกำลังจะมาถึงแล้ว
ในเวลานี้ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะมีความขัดแย้งภายในระหว่างสองมณฑล ตรงกันข้ามมันจะกลายเป็นอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่ของงานต่อสู้
หมายความว่า ขอเพียงทำให้เจียงผิงสงบเรียบร้อย จึงจะร่วมกันต่อสู้กับศัตรูได้
“ตกลง ผมสัญญา!”
หานเซี่ยวเทียนยิ้มเยาะ “แต่หวังว่าพอถึงตอนนั้นคุณจะไม่เสียใจทีหลังนะ!”
“ฮ่าฮ่า!”
จูกว่างจื้อหัวเราะลั่น “บนโลกใบนี้ ยังไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้จูกว่างจื้อต้องเสียใจทีหลัง!”
“พอถึงวันที่ 15 สิงหาคมที่มีงานต่อสู้ พวกเราทั้งคู่จะส่งคนของตัวเองออกไปก่อน การต่อสู้แบบเวียนเทียนจะใช้กำลังของสมาคมบูโดไปเรื่อยๆ”
“หลังจากที่เราเจาะลึกถึงภูมิหลังของสมาคมบูโดแล้ว พวกเราจะส่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเราออกไป สังหารยอดฝีมือของสมาคมบูโดได้ในกระบวนท่าเดียว คุณคิดอย่างไร?”
จูกว่างจื้อคิดแผนรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
“ไม่มีปัญหาแน่นอน เกรงว่ายอดฝีมือของตระกูลจูจะมีทักษะสู้คนอื่นไม่ได้ ตรงกันข้ามจะเป็นตัวถ่วงให้เจียงผิงอีก!”
หานเซี่ยวเทียนพูดเยาะเย้ย
“รอให้คนของตระกูลหานสามารถเอาชนะปรมาจารย์หงได้ คุณค่อยมาคุยโม้แบบนี้ก็ได้!”
จูกว่างจื้อทำเสียงฮึดฮัด
“จำเป็นต้องยุ่งยากขนาดนี้เชียวหรือ?”
“พอถึงงานต่อสู้ ผมลงสนามครั้งแรก ไม่สนหรอกว่ายอดฝีมือที่สมาคมบูโดส่งมาคือใคร ฆ่าไปเลยก็พอ จำเป็นต้องยุ่งยากขนาดนั้นด้วยเหรอ?”
“ยอดฝีมือแห่งสมาคมบูโด ผมจะฆ่าพวกเขาเหมือนหมา!”
ปรมาจารย์หงลุกขึ้นยืนขึ้น แล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
คำพูดที่ออกมาจากปากของเขาทำให้ทุกคนตกใจ ทุกคนมองปรมาจารย์หงด้วยความเลื่อมใส
“สมกับที่เป็นปรมาจารย์หง ลำพังความจองหองนี้ จะมีใครเทียบได้อีก?”
“ปรมาจารย์หงออกโรง ใครจะกล้าสู้?”
ทุกคนพากันประจบสอพลอ
“ปัง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...