The king of War นิยาย บท 439

สรุปบท บทที่ 439 คฤหาสน์กุหลาบ: The king of War

ตอน บทที่ 439 คฤหาสน์กุหลาบ จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 439 คฤหาสน์กุหลาบ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ในเมื่อรู้แล้ว อย่างนั้นก็กลับไปทำงานเถอะ !”

หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม

ฉินยีที่เพิ่งจะเดินไปถึงประตู จู่ๆ ก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงรีบชะงักเท้าลงพร้อมหันกลับมาพูด: “พี่เขย วันนี้เวลาเก้าโมงเช้า ที่อาคารหลงเถิง จะมีงานประมูล ซึ่งที่ดินหนึ่งที่จะอยู่ในการประมูลนั้น คือที่ดินที่อยู่ข้างๆ คฤหาสน์กุหลาบผืนนั้น”

คฤหาสน์กุหลาบ คือหมู่บ้านวิลล่าสุดหรูในเจียงโจว ซึ่งเป็นธุรกิจในการจัดการของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป

เดิมที หยางเฉินวางแผนไว้ว่าจะกว้านซื้อที่ดินรอบๆ คฤหาสน์กุหลาบทั้งหมด แต่เพราะว่าจะมีการสร้างลานจัตุรัส จึงถูกปฏิเสธไป

สิ่งที่ไม่คาดคิดคือวันนี้ที่ดินผืนนั้นกลับถูกนำออกมาประมูลขาย

คฤหาสน์กุหลาบในเวลานี้ ได้กลายเป็นแหล่งรวบรวมของเหล่าผู้มีอิทธิพลทางการเงินจำนวนมากในเจียงโจว ซึ่งทำให้ราคาบ้านในที่ดินผืนนั้นมีราคาที่เพิ่มสุงขึ้นมากเรื่อยๆ เลยด้วย

“ที่ดินผืนนั้น พวกเราจะต้องเอามาให้ได้!”

หยางเฉินพูด

“ฉันอาจจะต้องจัดการเรื่องความร่วมมือ คุณพอจะมีเวลาไปร่วมการประมูลหรือเปล่าคะ ?” ฉินยีถาม

เมื่อมีคำพูดของหยางเฉินเมื่อสักครู่นี้ตัวฉินยีจึงต้องการที่จะจัดการกับทุกการขอความร่วมมือให้ได้ 

เยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจวไม่สามารถที่จะตอบรับทุกการร่วมมือได้ แต่สำนักงานใหญ่สามารถทำได้ 

ในเมื่อเยี่ยนเฉินกรุ๊ปล้วนเป็นของหยางเฉิน อย่างนั้นเธอจะมีเหตุผลอะไรที่จะละเลยความร่วมมือได้เล่า ?

หยางเฉินพยักหน้า: “ได้ ผมจะไปงานประมูลเอง!”

ฉินยีหยิบบัตรเชิญส่งให้กับหยางเฉิน เวลาในการเริ่มงานประมูลจะเริ่มที่เวลาสิบโมงตรง สถานที่คืออาคารหลงเถิง

ตอนนี้เวลาเก้าโมงยี่สิบนาทีแล้ว ระยะเวลาก่อนที่จะเริ่มการประมูลเหลือเพียงอีกสี่สิบนาทีเท่านั้น

ในตอนเวลาเก้าโมงห้าสิบ หยางเฉินก็ขับรถมาถึงยังอาคารหลงเถิง

ทันทีที่ลงจากรถ เขาก็ได้เห็นกับร่างสองร่างที่ดูคุ้นตาที่กำลังเดินตามกันลงมาจากรถ

ซึ่งก็คือคนที่เพิ่งข่มขู่หยางเฉินว่าจะให้เขาได้ชดใช้อย่างสาสมอย่างหวงเจิ้ง และชายสูงอายุร่างผอมแห้งอย่างตงเชย

“พ่อหนุ่ม คือนายนี่เอง!”

เมื่อเห็นหยางเฉิน หวงเจิ้งก็มีท่าทีประหลาดใจเล็กน้อย

แต่เพียงชั่วพริบตา ภายในดวงตาของหวงเจิ้งก็เต็มไปด้วยความชั่วร้าย พร้อมจ้องเขม็งไปยังหยางเฉินพลางพูดขึ้น: “เจ้าหนุ่ม นายเองก็มาที่นี่เพื่อที่ดินข้างริมน้ำผืนนั้นด้วยสินะ”

หยางเฉินขมวดคิ้ว เมื่อฟังจากคำพูดของหวงเจิ้งแล้ว นี่เขาก็มาเพื่อที่ดินผืนนี้งั้นหรอ ?

ที่ดินริมน้ำผืนนี้มีชื่อเสียงเพราะว่าแม่น้ำเหล่าหลง คฤหาสน์กุหลาบเองตั้งอยู่ด้านหนึ่งของแม่น้ำเหล่าหลง ส่วนอีกด้านหนึ่งของแม่น้ำเหล่าหลงก็คือที่ดินผืนนั้นที่จะมีการประมูลในวันนี้

หวงเจิ้งในฐานะคนตระกูลหวงแห่งเยี่ยนตู เขามาที่นี่เพื่อทำอะไรกัน?

อย่าบอกนะว่าเขามาที่นี่ก็เพื่อที่ดินผืนนี้เหมือนกัน?

“ดูจากท่าทางของนายแล้ว ก็รู้แล้วล่ะว่านายมาเพื่อที่ดินผืนนี้ แต่ช่างไม่บังเอิญเสียเลยนะ ที่ดินผืนนี้ฉันจองแล้ว !”

หวงเจิ้งแสดงออกอย่างผู้ชนะ พลางพูดต่อด้วยใบหน้าที่ดุร้าย : “ฉันรู้ว่าคฤหาสน์กุหลาบก็คืออสังหาริมทรัพย์ของนาย”

“ได้ยินมาว่าราคาบ้านของคฤหาสน์กุหลาบพุ่งขึ้นไปหลายเท่าแล้ว?”

“นายว่าถ้าถึงตอนนั้นฉันสร้างสุสานไว้ตรงข้ามกับคฤหาสน์กุหลาบ ราคาบ้านของคฤหาสน์กุหลาบจะยังเพิ่มขึ้นได้อีกหรือเปล่านะ?”

ใบหน้าของหวงเจิ้งเต็มไปด้วยความสะใจ พลางถามออกมาด้วยเสียงหัวเราะ

เมื่อได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของหยางเฉินถึงกับนิ่งชา เขาเข้าใจในทันทีเลยว่าเพราะอะไรหวงเจิ้งถึงอยากได้ที่ดินผืนนี้เหมือนกัน

ถ้าเป็นอย่างที่หวงเจิ้งได้พูดไว้อย่างนั้นจริง หากเขาได้ที่ดินผืนนั้นไป เพียงแค่สร้างสุสานขึ้นมา คฤหาสน์กุหลาบก็จะกลายเป็นเพียงเรื่องตลกไปทันที

ราคาบ้านที่ลดลงอย่างรวดเร็วนั้นถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากถึงตอนนั้นเหล่าคนที่ได้ซื้อบ้านไปแล้วรวมใจกันขอคืนบ้าน นั่นถึงจะเป็นเรื่องใหญ่

ถึงแม้ว่าหยางเฉินจะไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่คฤหาสน์กุหลาบเองก็เป็นส่วนหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป การที่หวงเจิ้งต้องการทำลายคฤหาสน์กุหลาบ

นั่นก็เท่ากับต้องการทำลายเฉินกรุ๊ปด้วย

และในตอนนี้ หยางเฉินถึงเพิ่งได้เข้าใจซักทีว่า เพราะอะไรตระกูลหวงถึงได้มอบตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลคนต่อไปให้กับหวงเจิ้งแล้ว

หวงเจิ้งไม่ได้เป็นเพียงคนโง่เขลา แต่เป็นคนที่มีความสามารถในด้านธุรกิจต่างหาก

“คุณคิดจะท้าผม คุณมั่นใจแล้วหรอครับ?”

คนที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานประมูลที่ดินในวันนี้ มีใครบ้างที่ไม่ใช่ตระกูลร่ำรวยและมีอิทธิพล?

การแสดงฝีมือของหยางเฉินบนเวทีประลองของงานต่อสู้ จนทำให้เขาได้มีชื่อเสียง เมื่อเป็นอย่างนี้เหล่าคนรวยในงานมีหรือที่จะไม่รู้จักเขา ?

“คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่างานประมูลในวันนี้คุณหยางจะมาด้วย”

“นั่นหน่ะสิ ตอนแรกผมกะว่าจะเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ด้วย แต่ดูท่าแล้วตอนนี้คงจะไม่มีความจำเป็นนั้นแล้วสิ”

“ใครที่กล้าไปแข่งกับคุณหยาง นั้นไม่เท่ากับไปหาที่ตายหรือไง ?”

ทันใดนั้นภายในงานก็เกิดความแตกตื่น กลุ่มคนที่คิดจะครอบครองที่ดินที่อยู่ตรงข้ามกับคฤหาสน์กุหลาบ ตอนนี้ต่างก็แสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมา

ส่วนหวงเจิ้งและตงเชยที่อยู่ด้านหลังก็เดินตามเข้ามาในงานประมูลด้วยเช่นกัน โดยในตอนที่หวงเจิ้งมองไปยังหยางเฉินนั้นแววตาก็เต็มไปด้วยความเดือดดาล

ในฐานะผู้สืบทอดตระกูลคนใหม่ของตระกูลหวง การสามารถกุมอำนาจของเมืองเจียงผิงและเมืองหนันหยังไว้ในมือนั้นสำหรับตัวเขาแล้วถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก

แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงเลยก็คือหยางเฉินจะเป็นคนที่ต่อกรด้วยยาก และโอหังมากขนาดนี้

และเพราะหวงจงได้รับความอับอายนี้ ทางตระกูลหวงจึงได้จัดการให้ผู้แข็งแกร่งอันดับที่สามของตระกูลมาคุ้มกันหวงเจิ้งเพราะกลัวว่าเรื่องแบบเดียวกันนั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

แต่เมื่อได้เผชิญหน้าตงเชย ทางด้านหยางเฉินกลับไม่ได้มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงข้ามกลับทำให้ตงเชยได้รับแรงกดดันมากขึ้นแทนเสียอีก

“คุณหยาง สวัสดีค่ะ!”

หยางเฉินที่เพิ่งนั่งลง กลิ่นหอมหวนก็พัดโชยเข้ามาพร้อมร่างของหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่ง

เมื่อหยางเฉินเงยหน้าขึ้น ก็ได้พบกับใบหน้าแสนสวยไร้ที่ติคนหนึ่งปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าสายตาของเขา

หญิงสาวคนนี้ ที่เขาเพิ่งได้เจอมาเมื่อวานนี้ ลูกสาวของตระกูลเย่แห่งเยียนตู ซึ่งถือว่าเป็นลูกผู้น้องของฉินซี

“ผู้หญิงคนนี้คือใครกัน?สวยจังเลย!”

“คุณดูข้างหลังของเธอสิ มีบอดี้การ์ดตามมาด้วย ดูจากบอดี้การ์ดนั่นแล้วก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา เป็นถึงผู้หญิงที่ถูกผู้แข็งแกร่งแบบนี้มาคุ้มครอง จะต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาแน่นอน

“ในเจียงโจว ดูเหมือนจะไม่มีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้นี่หน่า?”

“นี่คุณลืมไปแล้วหรือไงว่าภรรยาของคุณหยาง เป็นถึงประธานสาวสวยอันดับหนึ่งของเจียงโจว เรื่องความสวยไม่แพ้ผู้หญิงคนนี้เลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War