ซ่งซวี่หยางสวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ด้านในชุดสูทเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว และเขาผูกเน็คไทด้วย
เขาใส่แว่นตาขอบทอง ดูยังไงก็เป็นผู้บริหารระดับสูงที่เรียบร้อยสุดๆ
แต่บัดนี้ สองมือของเขาฟาดโต๊ะทำงานของลั่วปิงไม่หยุด ท่าทางดุร้ายนั้นไม่เข้ากับการแต่งตัวของเขาเลยสักนิด
โดยเฉพาะเขามีคนติดตามมาด้านหลังด้วย ท่าทางเหมือนอันธพาลมาก
หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป อาจจะตกใจกับบุคลิกอันธพาลที่เขาแสดงออกมาในตอนนนี้จริงๆก็ได้
สีหน้าของลั่วปิงเต็มไปด้วยความเยือเย็นเขายังคงนั่งอยู่ในตำแหน่งของตัวเอง สายตาจับจ้องซ่งซวี่หยางอย่างเรียบนิ่งพลางเอ่ย "ขอถามหน่อยว่านายอยู่ในตำแหน่งอะไร?"
ซ่งซวี่หยางที่โมโหเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจู่ๆได้ยินลั่วปิงพูดแบบนี้ก็ผงะไป พูดขึ้นตามสัญชาตญาณ “กูเป็นรองผู้จัดการใหญ่ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป!"
"นายเป็นแค่รองผู้จัดการใหญ่ กูนี่ผู้จัดการใหญ่ของบริษัท "
"กูไล่สุนัขรับใช้ที่ไม่เชื่อฟังออกสองสามตัว ต้องรายงานรองผู้จัดการใหญ่อย่างมึงด้วยหรอ?"
"ไอ้ซ่งซวี่หยาง กูทนมึงมานานแล้วนะ มึงคิดว่ากูเป็นคนหงิมๆจริงๆหรอ?"
ทันใดนั้นลั่วปิงก็ยืนขึ้น บันดาลโทสะ เขาที่ไม่เคยพูดคำหยาบก็โมโหจนหยาบคายเป็นชุด
เขาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ซ่งซวี่หยางรังแกเขามานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมุมนี้ของลั่วปิง
ชั่วขณะนั้น ซ่งซวี่หยางอึ้งไป
ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาถึงพูดขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว "ลั่วปิง มึงคิดว่าตัวเองเป็นคนใหญ่คนโตจริงๆหรอ?"
"กูจะบอกให้นะ กูเป็นผู้จัดการใหญ่ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก่อนที่มึงจะมาอีก กูเป็นผู้จัดการใหญ่มาสิบกว่าปี มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ"
"คิดจริงๆหรอว่าเกาะบารมีของคนที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลอวี๋เหวินแล้วจะต่อกรกับฉันได้น่ะ?"
"กูต่างหากที่เป็นคนสนิทที่สายตรงจากตระกูลอวี๋เหวินอบรมสั่งสอนมา ตราบใดที่ยังมีกูอยู่ มึงก็อย่าหวังว่าจะได้ควบคุมเยี่ยนเฉินกรุ๊ป!"
"อย่าว่าแต่ไล่คนของกูออก ต่อให้เป็นแค่แมลงวันตัวหนึ่งในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หากไม่มีการอนุญาตจากกู มึงก็ไม่สามารถฆ่ามันได้!"
มารยาทของซ่งซวี่หยางทรามมาก พูดแต่คำหยาบอย่าง "กู-มึง" และคำอื่นๆ
เขาโอหังขนาดนี้ย่อมต้องเป็นเพราะมีคนสนับสนุน มิฉะนั้นจะกล้าต่อกรกับลั่วปิงได้ยังไง?
อย่างไรซะการที่ลั่วปิงถูกส่งมาเป็นผู้จัดการใหญ่ของกรุ๊ปได้ก็ชัดแล้วว่าเขาเป็นคนของหยางเฉิน
ต่อหยางเฉินจะต่ำต้อยแค่ไหนก็ยังเป็นคนของตระกูลอวี๋เหวิน
ตั้งแต่แรกจนบัดนี้ หยางเฉินก็เพียงแต่นั่งอยู่ข้างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เห็นท่าทางโอหังของซ่งซวี่หยางแล้วเขาอยากจะดูซิว่าคนสนิทที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากตระกูลอวี๋เหวินคนนี้จะผยองได้ถึงขนาดไหน
ลั่วปิงโกรธจนสั่นไปทั้งตัว เขาเป็นคนมีการศึกษาระดับสูง ที่เมื่อกี้ระเบิดคำหยาบออกมาก็เพราะถูกบีบคั้นจนอดไม่ได้
ครั้นจะให้เขาด่ากับซ่งซวี่หยางทุกคำพูดนั้นเขาสู้ไม่ได้จริงๆ
"เรื่องที่มึงจะไล่คนของกูออก กูไม่เอาเรื่องกับมึงก็ได้ แต่มึงปกป้องคนที่ตีหลานของกู มึ
ต้องอธิบายมา มิฉะนั้นวันนี้มึงจะออกจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้หรือไม่นั้นก็ยังไม่รู้"
ซ่งซวี่หยางจุดบุหรี่ให้ตัวเอง ดูดเข้าอย่างแรงไปหนึ่งทีและพ่นใส่หน้าลั่วปิง พร้อมพูดด้วยท่าทียโสโอหัง
"ประธานซ่ง คนที่ทำร้ายหลานชายของท่านก็คือไอ้สองตัวนั้น"
ไม่รอให้ลั่วปิงพูดอะไร หัวหน้ารปถด้านหลังซ่งซวี่หยางก็พลันชี้ไปถึงทางหยางเฉินและหม่าชาวพร้อมกล่าว
ซ่งซวี่หยางถึงหันไปมองหยางเฉินและหม่าชาว เขาทอดสายตาไปที่หม่าชาวเพียงแปปเดียวก็จับจ้องไปที่หยางเฉิน
"ไอ้หนุ่ม พวกแกเป็นคนทำร้ายหลานชายของฉันรึ?"
ซ่งซวี่หยางเอ่ยถาม น้ำเสียงราบเรียบมาก เทียบกับท่าทีสามหาวที่เขาทำใส่ลั่วปิงเมื่อกี้แล้วถือว่าดีกว่าเยอะ
"ที่แท้ไอ้หมาบ้าชอบเห่าตัวนั้นก็คือหลานชายของคุณหรอ มิน่าล่ะ ที่แท้ก็มีแบบอย่างที่ไม่ดีนี่เอง"
ปากของหยางเฉินฉายรอยยิ้มบางๆ เขาหรี่ตาพลางเอ่ย "ก็แค่ทำร้ายนี่ ไม่ได้ฆ่าสักหน่อย"
"ปึ้ง!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...