"ผมเป็นคนของประธานซ่ง เว้นแต่ว่าประธานซ่งจะเอ่ยปากเอง มิฉะนั้นใครก็ไม่มีสิทธิ์ไล่พวกผมออก"
หัวหน้ารปภเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา "ไอ้เด็กสองคนนี้กล้ายุ่งกับหลานชายของประธานซ่ง พวกเขาจะต้องได้รับการลงโทษ!"
"พาตัวเด็กสองคนนี้ไป!"
"ถ้าพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือ ก็ตีให้สลบแล้วค่อยเอาตัวออกไป!"
หัวหน้ารปภออกคำสั่งทันที
ลั่วปิงโกรธจนตัวสั่น เป็นครั้งแรกที่รู้สึกหมดแรงขนาดนี้
หยางเฉินไม่ได้ผิดหวังในตัวเขา เพียงแต่มีความโกรธสุมอยู่ในใจ เขารู้ว่าอุปสรรคในการควบคุมเยี่ยนเฉินกรุ๊ปของลั่วปิงนั้นมหาศาล แต่คิดไม่ถึงว่าอุปสรรคจะมากมายได้ขนาดนี้
แต่พอคิดดูดีก็พอเข้าใจอยู่
ก่อนหน้านี้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปอยู่ในการควบคุมของตระกูลอวี๋เหวินมาโดยตลอด ภายหลังจากที่เขากลับมาจากชายแดนเหนือแล้ว ตระกูลอวี๋เหวินถึงคืนเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้กับตัวเองได้ฝังรากลึกลงไปในเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว
ลั่วปิงเป็นเพียงผู้จัดการใหญ่ที่แต่งตั้งโดยหยางเฉิน จะสามารถควบคุมกรุ๊ปได้อย่างง่ายดายได้ยังไงเล่า
เมื่อเห็นสีหน้าทำอะไรไม่ได้ของลั่วปิง หยางเฉินถอนหายใจเบาๆ
"ถ้าใครกล้าเดินเข้ามาอีกก้าว อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!"
และในขณะนั้น เงาชุดดำเงาหนึ่งปรากฏตัวข้างกายหัวหน้ารปภประหนึ่งวิญญาณ
มือของเขาจับมีดสั้นที่เปล่งประกายน่ากลัว โยนเล่นไปมา
พริบตาที่หัวหน้ารปภเห็นเขา ก็ตัวสั่นอย่างอดไม่ได้ ตะโกนด้วยสัญชาตญาณ “ทุกคนหยุด!”
รปภสิบกว่าคนชะงักหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวไปหาหยางเฉินและหม่าชาว
ตอนที่พวกเขาเห็นเงาข้างกายหัวหน้ารปภก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
"เฉียนเปียว นายอย่าพลั้งมือทำอะไรนะ ที่นี่คือบริษัท"
หัวหน้ารปภไม่กล้าขยับ พูดด้วยท่าทีหวาดกลัว
เฉียนเปียวเล่นมีดสั้นอยู่รอบกายเขา มีดสั้นเล่มนั้นเฉี่ยวผ่านหัวของหัวหน้ารปภเป็นครั้งคราว หัวหน้ารปภกลัวจนฉี่แทบราด
ลั่วปิงเพิ่งมาถึงสำนักงานใหญ่ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ได้เจอกับการหาเรื่องจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรุ๊ป มีครั้งหนึ่งที่ลั่วปิงถึงขั้นปะทะกับผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่ง
บอดี้การ์ดข้างกายผู้บริหารระดับสูงคนนั้นคิดจะลงมือกับลั่วปิงต่อหน้าทุกคน ในตอนนั้นเองที่เฉียนเปียวปรากฏตัว เอามีดแทงบอดีการ์ดคนนั้นไปสิบกว่าที
แต่ บอดี้การ์ดคนนั้นยังมีชีวิตอยู่
เพราะสิบกว่ามีดที่เฉียนเปียวแทง ได้หลีกเลี่ยงจุดสำคัญทั้งหมด ดูแล้วเหมือนทำให้บอดี้การ์ดคนนั้นบาดเจ็บสาหัส แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
และเรื่องนี้ก็สร้างความตื่นตระหนกกับผู้บริหารระดับสูงทุกคน
และเริ่มจากตอนนั้นเอง ที่แม้ศึกระหว่างผู้บริหารระดับสูงและลั่วปิงยังไม่จบ ทว่าไม่มีใครกล้าลงมือกับลั่วปิงอีก
เพราะการมีอยู่ของเฉียนเปียว
เฉียนเปียวโผล่มาในเวลานี้ ก็รู้เลยว่าสร้างความแตกตื่นให้กับรปภเหล่านี้มากขนาดไหน
"เฉียนเปียว บอกให้พวกเขาไสหัวออกไปจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปซะ!"
ลั่วปิงเห็นเฉียนเปียวก็เหมือนเห็นผู้ที่จะมาช่วยชีวิต จึงพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เฉียนเปียวเล่นมีดสั้นในมือ และหันมองหัวหน้ารปภเย็นๆ "พวกแกไม่ได้ยินที่ประธานลั่วพูดรึ จะให้ฉันช่วยรักษาอาการหูหนวกให้พวกแกมั้ยล่ะ?"
หัวหน้ารปภจะกล้าอยู่ที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปต่อได้อีกได้ยังไง เขารีบเอ่ยขึ้น “นายอย่าวู่วามนะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!"
พูดจบเขาก็ออกจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปอย่างกับกำลังหนี
รปภคนอื่นๆก็มีสีหน้ามึนงง หลังจากสติหายไปชั่ววูบ ก็พากันตามหลังหัวหน้ารปภออกไปกันหมด
ผู้สมัครรอบๆก็อึ้งไปด้วย
หานเฟยเฟยยังมึสีหน้าตะลึงไป แต่ใจที่ตุ้มๆต่อมๆมาโดยตลอดในที่สุดก็เป็นปกติ
"พวกเราไปกันเถอะ!"
ลั่วปิงรู้ว่าหยางเฉินมาหาตัวเองต้องมีบางสิ่งบางอย่างจะบอกแน่ๆ เขาไม่กล้าชักช้า พูดจบก็เดินนำออกไปก่อน
หยางเฉินพาหม่าชาวเดินตามขึ้นไป
ห้องทำงานของลั่วปิงอยู่ชั้นบนสุดของกรุ๊ป ภายห้องที่ตกแต่งไว้อย่างเรียบง่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...