The king of War นิยาย บท 491

สรุปบท บทที่ 491 พี่ชายของหยางเฉิน: The king of War

บทที่ 491 พี่ชายของหยางเฉิน – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War

ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 491 พี่ชายของหยางเฉิน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ลั่วปิงบอกว่าจะรออีกสิบนาที ผู้บริหารระดับสูงที่ไม่ยอมมาจะเลิกจ้างให้หมด จึงรู้เลยว่าเขาในตอนนี้โมโหขนาดไหน

เหล่าหัวหน้าย่อยในที่ประชุมเมื่อได้ฟังก็ตะลึงกันหมด แต่ไม่นานนักพวกเขาก็มีสีหน้าตื่นเต้น

อย่างไรซะถ้าพวกผู้บริหารระดับสูงส่วนใหญ่ไม่มาอยู่ที่นี่ หากถูกเลิกจ้างจริงๆทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็จะได้เลื่อนตำแหน่ง

ชั่วขณะนั้น มีคนมากมายภาวนาในใจขอให้สิบนาทีผ่านไปเร็วๆ ขอให้อย่ามาเลยสักคน

หยางเฉินทำตัวเหมือนมนุษย์ล่องหน นั่งอยู่ข้างๆโดยไม่พูดอะไร มอบหมายให้ลั่วปิงรับผิดชอบจัดการทั้งหมด

ในตอนที่ลั่วปิงเดินเข้ามาในห้องประชุมก็มีคนมากมายสังเกตเห็นหยางเฉิน เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าหยางเฉินเป็นใคร

ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจคือบรรดาผู้บริหารระดับสูงที่ขอลาจะมาได้สักกี่คน

พริบตาเดียวก็ผ่านไปห้านาที ไม่มีใครมาสักคน!

เจ็ดนาทีผ่านไป ก็ยังไม่มีใครมา!

ไม่นานนักก็ผ่านไปสิบนาที ยังคงไม่มีใครมา!

สีหน้าของลั่วปิงย่ำแย่ไปอีก สายตาของทุกคนต่างจดจ้องมาที่เขา อยากจะดูว่าผู้จัดการใหญ่ที่เพิ่งเคยแข็งกร้าวขนาดนี้เป็นครั้งแรกจะไล่ทุกคนออกจริงหรือเปล่า

“ฝ่ายบุคคล ไปเลิกจ้างพวกผู้บริหารระดับสูงไม่มาร่วมประชุมครั้งนี้ในนามบริษัทให้หมด เดี๋ยวนี้เลย”

เพิ่งจะสิบนาที ลั่วปิงก็ประกาศทันที

ข่าวนี้เล่นเอาหัวหน้าย่อยที่อยู่ในที่นี้ตะลึงกันหมด

ถึงแม้พวกเขาจะคาดหวังในผลลัพธ์นี้มาตลอด แต่ตอนที่ลั่วปิวประกาศจริงๆว่าจะเลิกจ้างผู้บริหารระดับสูงที่ไม่มา ก็ยังสร้างความอึ้งอย่างมหาศาลให้พวกเขาอยู่ดี

ถึงยังไงเหล่าผู้บริหารระดับสูงที่ไม่ยอมมาก็ข้องเกี่ยวกับตระกูลอวี๋เหวินทั้งหมด ลั่วปิงไม่กลัวว่าจะเป็นการทำให้ตระกูลอวี๋เหวินไม่พอใจหรอ?

“ประธานลั่วครับ ถ้าเราเลิกจ้างคนมากมายขนาดนั้นในทีเดียว จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาของกรุ๊ปอย่างมาก ถึงยังไงหลายๆโครงการในกรุ๊ป เหล่าผู้บริหารระดับสูงที่ไม่มาก็รับผิดชอบโดยตรงครับ”

“หากไร้ซึ่งพวกเขา เกรงว่าการร่วมงานบางอย่างก็จะจบลงไปด้วย”

“อีกอย่าง ผู้บริหารระดับสูงถูกเลิกจ้างเยอะขนาดนั้น เยี่ยนเฉินกรุ๊ปคงจะชะงักงันดำเนินการต่อไม่ได้”

ผู้จัดการฝ่ายบุคคลพูดด้วยสีหน้ากังวล

เขาไม่ได้มาเพื่อแก้ต่างให้ผู้บริหารระดับสูงที่ไม่ยอมมา แต่เป็นกังวลกับอนาคตของกรุ๊ปจริงๆ

ลั่วปิงเลิกคิ้วขึ้น “เรื่องนี้ได้รับการอนุมัติจากท่านประธานแล้ว นายทำตามคำสั่งของฉันก็พอ”

เมื่อได้ยินลั่วปิงพูดถึงท่านประธาน ผู้จัดการฝ่ายแผนกก็แอบตกใจ ดูท่าข่าวลือจะจริง ประธานลั่วเป็นคนของท่านประธาน

“ครับ ประธานลั่ว”

ผู้จัดการฝ่ายบุคคลรีบรับคำ

ลั่วปิงกวาดตามองทุกคน และประกาศอีกครั้ง “ส่วนด้านการปรับตำแหน่งครั้งใหม่ วันนี้จะแจกจ่ายลงไปเป็นเอกสารด่วนของกรุ๊ปก่อนเลิกงาน ทุกคนให้ความสนใจด้วย เลิกประชุม!”

เมื่อได้ยินว่าจะมีการปรับตำแหน่งครั้งใหม่ และจะประกาศวันนี้ก่อนเลิกงานเลย แต่ละคนในที่นี้ก็มีสีหน้าตื่นเต้นและคาดหวัง

ผู้บริหารระดับสูงถูกเลิกจ้างเยอะขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นการปรับตำแหน่งครั้งใหม่ก็มีแต่จะเกิดขึ้นกับพวกเขา

“ประธานลั่วเกรียงไกรเหลือเกิน ใครให้ความกล้านายกันหรอ ถึงกล้าแม้กระทั่งเลิกจ้างคนของตระกูลอวี๋เหวิน!”

และในตอนนั้นเอง เสียงเย้ยหยันเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นหน้าประตู

ยังไม่เห็นเขามา ก็ได้ยินเสียงเขาซะก่อน

จากนั้น คนหนุ่มคนหนึ่งก็ค่อยๆก้าวเข้ามาในห้องประชุมใหญ่

ด้านหนึ่งก็หยูเหวินหวู ด้านหนึ่งก็หยางเฉิน ไม่ว่าจะคนไหนเขาก็ไม่อาจล่วงเกินได้

หยางเฉินไม่พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าต้องการปล่อยให้ตัวเองจัดการเรื่องนี้ บางทีอาจเป็นบททดสอบตัวเอง

ชั่วขณะหนึ่ง เกิดสารพัดความคิดขึ้นในหัวของลั่วปิง เขานึกถึงอดีตที่เขายังเป็นแค่พนักงานระดับล่างสุดคนหนึ่งของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป

ด้วยความพยายาม ในที่สุดการทุ่มเทของตัวเองก็ได้รับผลตอบแทน เขาได้เป็นหัวหน้าเล็กๆของกรุ๊ป และหลังจากนั้นก็ได้เป็นผู้จัดการแผนก

วันหนึ่ง อยู่ๆก็มีคนมาหาตัวเอง บอกเขาว่าจะย้ายเขาไปทำงานกับท่านประธานที่เมืองเจียงโจว เขารับปากโดยไม่ลังเล

แต่ต่อมา เขาได้รับรู้เรื่องภายในบางเรื่องของตระกูลอวี๋เหวิน ว่าท่านประธานที่เขาติดตามเป็นคนที่ถูกตระกูลอวี๋เหวินทอดทิ้งและขับไล่ออกจากเมืองเยี่ยนตู

เรื่องนี้ทำให้เขาหมดหวัง แต่คล้อยหลังที่เขาได้รู้จักหยางเฉินมากขึ้น ถึงค่อยๆตระหนักได้ว่าหยางเฉินไม่ใช่คนธรรมดา

พลังและความสามารถที่เขาแสดงออกมามากกว่าที่ลั่วปิงจินตนาการเอาไว้

จากผู้จัดการใหญ่ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว จนถึงผู้จัดการใหญ่ของต้าเหอกรุ๊ปเมืองโจวเฉิง ประสบการณ์ทุกอย่างถือเป็นสมบัติล้ำค่าในชีวิตสำหรับเขา

ผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ ในที่สุดลั่วปิงก็ตัดสินใจได้ เขาตากับหยูเหวินหวูอย่างไม่เกรงกลัว พร้อมกล่าวเสียงเข้ม “พวกเขาไม่เข้าประชุมสำคัญของกรุ๊ปโดยไร้สาเหตุ ผมในฐานะผู้จัดการใหญ่ของกรุ๊ป มีสิทธิ์ไล่พวกเขาออกตามกฎข้อบังคับ”

ทุกคนคิดไม่ถึงว่า ในขณะที่หยูเหวินหวูกดดันลั่วปิงอย่างเห็นได้ชัด ต้องการให้เขาเปลี่ยนใจ แต่ลั่วปิงกลับกล้าที่จะชนกับหยูเหวินหวูต่อหน้าทุกคน

บรรดาผู้บริหารระดับสูงของกรุ๊ปด้านหลังหยูเหวินหวู ต่างเผยรอบยิ้มเย็นที่แผนสำเร็จ

บังอาจต่อกรกับทายาทของตระกูลอวี๋เหวิน ถ้าไม่ใช่การรนหาที่ตายแล้วคืออะไร?

“นายว่ายังไงนะ? ฉันก็ยังได้ยินไม่ชัด”

หยูเหวินหวูหรี่ตาพลางถาม แต่น้ำเสียงเจือแววข่มขู่อย่างชัดเจน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War