"แกรู้หรอว่าฉันมีความสัมพันธ์ยังไงกับผู้หญิงคนนี้ ถึงจะใช้ชีวิตของเธอมาขู่ฉัน"
หยางเฉินหัวเราะ สีหน้าดูเหมือนสบายมาก แต่ในความเป็นจริงใจของเขาไม่กล้าชะล่าเลยสักนิด
เขาไม่แน่ใจว่าเหยถ่าจะลงมือมั้ย แต่ทีแน่ใจได้คือ หากเหยถ่าลงมือ ตัวเองไปช่วยไม่ทันแน่ๆ
ใบหน้าไร้อารมณ์ของเหยถ่าฉายแววดูถูก เขาหัวเราะเย็นๆพลางกล่าว "ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่สำคัญกับแกจริงๆ แกคงลงมือกับฉันไปแล้ว ทำไมต้องเสียเวลาพูดจาไร้สาระเพื่อหยั่งเชิงฉันด้วยล่ะ?"
"แกควรจะเข้าใจเรื่องนี้ไว้นะ แกปล่อยฉันไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ฉันยังจะใช้ผู้หญิงคนนี้เพื่อขู่แก นั่นก็หมายความว่าฉันไม่ได้กลัวความตายเลยสักนิด"
"ฉันให้เวลาแกคิดสิบวินาที ถ้าแกยังไม่ยอมไปกับฉัน ฉันคงทำได้แค่ฆ่าผู้หญิงคนนี้”
เหยถ่ากลับมาเย็นชาอีกครั้ง สายตาคมกริบจ้องเขม็งมาที่หยางเฉิน ห้านิ้วของมือข้างขวาบีบคอของหานเฟยเฟยไว้ตลอด
ถ้าเขาต้องการจะเอาชีวิตของหานเฟยเฟย เกรงว่าจะทำได้ในชั่วพริบตา
สายตาของหานเฟยเฟยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง พอเห็นหยางเฉินลังเล เธอรู้สึกผิดหวังอย่างน่าประหลาด
สัมผัสได้ถึงความผิดหวังจากสายตาของหานเฟยเฟย หยางเฉินรู้สึกผิดเล็กน้อย ไม่ว่ายังไง ผู้หญิงคนนี้ก็ติดร่างแหเพราะตัวเอง
"คนสวย เธอเห็นรึยัง ฉันแค่ขอให้ชายคนนี้ไปกับฉัน เขายอมทนดูเธอตายก็ไม่ต้องการไปกับฉัน"
"แม้ว่าฉันจะเป็นคนฆ่าเธอ แต่ความเป็นจริงคนที่ทำให้เธอต้องตายก็คือชายคนนั้น"
"ฉวยโอกาสตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ มองชายคนนั้นที่ทำให้เธอต้องตายเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ!"
เหยถ่าบอกพร้อมหัวเราะอย่างพิศวง
ทันใดนั้น ไอเย็นก็ปกคลุมไปทั่วร่างของเหยถ่า เพราะเขาเพียงแค่กะพริบตาเท่านั้น หยางเฉินที่เมื่อกี้ยังยืนห่างออกไปเป็นสิบเมตรจู่ๆก็หายไป
รสชาติของความตาย ล้อมรอบอยู่รอบตัวของเขา
ขนทั้งตัวของเหยถ่าตั้งชันขึ้นในชั่วขณะ จิตสังหารของหยางเฉินราวกับอยู่ทุกที่
เขาไม่มีความลังเล ห้านิ้วที่บีบคอหานเฟยเฟยอยู่ออกแรงอย่างฉับพลัน
ในเมื่อจะต้องตาย ก็ต้องลากคนไปเป็นเพื่อนด้วย
วินาทีที่เขาออกแรง หานเฟยเฟยรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าชีวิตของตัวเองกำลังจะจบสิ้นแล้ว นาทีนั้น มีภาพมากมายปรากฏขึ้นในหัวของเธอ
และมีแต่นาทีที่เข้าใกล้ความตายเท่านั้น เธอถึงรู้ว่าตัวเองยังอาลัยอาวรณ์โลกนี้ขนาดไหน
เธอยังไม่มีแฟน ยังไม่ได้แต่งงานและมีลูก ยังไม่ได้สัมผัสประสบการณ์หลากรสของชีวิต
แต่ ทุกอย่างก็สายไปแล้ว!
แต่หัวใจของเธอเจ็บปวดขึ้นมาอย่างฉับพลัน หยางเฉินยอมปล่อยให้เธอตายก็ไม่ยอมประนีประนอม และไปกับชายร่างกำยำคนนั้นหรอ?
ถึงแม้เธอจะเข้าใจดีว่าถ้าหยางเฉินยอมประนีประนอมจริงๆ หยางเฉินมีแต่ต้องตายเท่านั้น
แต่ในเวลานี้ ใจของเธอก็ยังคงเต็มไปด้วยความผิดหวัง
เธอหลับตาลง มีน้ำตาไหลออกมา
"แคร่ก!"
และในตอนนั้นเอง เสียงกระดูกหักใสแจ๋วพลันดังขึ้น
"นี่ฉันถูกหักคอจนตายไปแล้วหรอ?"
"ทำไมถึงไม่รู้สึกเจ็บเลยล่ะ?"
"หรือนาทีที่คนเราตาย จะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆเลยหรอ?"
หานเฟยเฟยหลับตาปี๋ไม่กล้าลืมตา เธอเกิดคำถามในใจไม่หยุด
"เฟยเฟย เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย?"
ทันใดนั้น เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นข้างหูเธอ
หานเฟยเฟยลืมตาโพลง ก็เห็นหยางเฉินกำลังยืนอยู่ตรงหน้าของตัวเอง สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“หนู…..หนูยังไม่ตายหรอคะ?”
ยิ่งหานเฟยเฟยรู้เยอะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งไม่เป็นผลดีกับความปลอดภัยของเธอ
"เธอวางใจเถอะ หลังจากที่ฉันจัดการเรื่องที่เมืองเยี่ยนตูเรียบร้อยแล้วก็จะกลับไป ไม่นานหรอก"
หยางเฉินกล่าวยิ้มๆ "เธอรีบกลับไปเถอะ!"
หลังจากบอกลาหานเฟยเฟยแล้ว รถไมบัคสีดำคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ข้างหยางเฉิน
คนขับรถคือหม่าชาว หยางเฉินขึ้นรถแล้วหม่าชาวจึงเอ่ยขึ้น "พี่เฉินครับ เมื่อกี้ผมไปตรวจสอบมาเรียบร้อยแล้วครับ คนที่ลงมือกับคุณเมื่อกี้ชื่อเหยถ่า เป็นบอดี้การ์ดข้างกายหยูเหวินหวู"
"ผู้ชายคนนี้ถือว่าเป็นนหน่วยกล้าตายที่หยูเหวินหวูเลี้ยงไว้ เคยฆ่าปิดปากคนไปไม่น้อยเพื่อหยูเหวินหวู"
"นอกจากนี้ เหยถ่าคนนี้ไม่ได้เป็นหน่วยกล้าตายเพียงคนเดียวของหยูเหวินหวู"
หยางเฉินพอจะเดาได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ผลของการตรวจสอบจากหม่าชาวยิ่งเป็นการการยืนยันเรื่องนี้
แต่ที่เหนือความคาดหมายของหยางเฉินคือ หยูเหวินหวูมีหน่วยกล้าตายคนอื่นๆอยู่ข้างกายด้วย
เรื่องเลี้ยงหน่วยกล้าตายนี้ไม่ใช่สิ่งที่ลำพังเขาจะสามารถทำได้ ดูเหมือนมีคนแอบช่วยเหลือหยูเหวินหวูอยู่ข้างหลัง
สายตาของเขาเป็นประกายเย็นเยียบ เขาหัวเราะเย็นๆ "พี่ชายของฉันคนนี้ใจร้อนจนทนไม่ไหวแล้วจริงๆสินะ"
หม่าชาวก็หัวเราะและพูดขึ้น "ในสายตาของเขา คุณเป็นคนที่เป็นภัยต่อตำแหน่งของเขานะครับ"
หยางเฉินขำพรืด "แค่ตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลอวี๋เหวินแห่งเมืองเยี่ยนตู ฉันไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอก แต่ในเมื่อนายกลัวว่าฉันจะแย่งนายขนาดนั้น ฉันก็เล่นกับนายหน่อยแล้วกัน"
"พี่เฉินคิดจะสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านของตระกูลอวี๋เหวินแล้วหรอครับ?" หม่าชาวถาม
หยางเฉินส่ายหัว ไม่ได้อธิบายอะไร เพียงแต่เอ่ยบอก "ไปคลับเมืองหลวง"
ยี่สิบนาทีต่อมา ภายในคลับเมืองหลวง รถไมบัคสีดำคันหนึ่งขับเข้ามาจอดที่หน้าประตูช้าๆ
ร่างของชายหนุ่มสองคนเดินออกมาจากรถ
คนแรกที่นำมาตัวสูงโปร่ง ใส่เสื้อคลุมสีดำ ที่ขาใส่รองเท้าบูทยาวทหาร บุคลิกโดดเด่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...