สีหน้าของจินกางไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก แต่เขารู้ดี หยางเฉินทำเป็นด้อยกว่า เพื่อให้เขามีหน้ามีตา
เขาเดาตัวตนของหยางเฉินได้เกินครึ่งแล้ว
การที่บอกว่าเกินครึ่ง เพราะจินกางเดาได้เพียงว่าหยางเฉินอยู่ในกองกำลังลับของจิ่วโจว อีกทั้งในกองกำลังลับนี้เขายังมีตำแหน่งสูงและมีอำนาจมากด้วย
ส่วนตัวตนที่แท้จริงของหยางเฉิน เขาไม่สามารถคาดเดาได้
เพราะที่นั่น เป็นสถานที่ที่มีผู้แข็งแกร่งมากมาย เขาจึงไม่แปลกใจ ที่อายุยังน้อย แต่กลับมีพละกำลังแข็งแกร่งเช่นนี้
ถ้าจะสู้กับหยางเฉินจริง สมาคมบูโดต้องเผชิญหน้ากับประเทศจิ่วโจวทั้งประเทศ
ความผิดเช่นนี้ เขาไม่สามารถแบกรับได้
“ถึงคุณหยางจะพูดถูก แต่คนของสมาคมบูโด ตายไปสามคน ถ้าปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้ ฉันไม่รู้จะพูดกับพวกลูกน้องยังไง”
“ฉันจะสืบเรื่องต่อ ถ้าฉันพบว่าไม่เหมือนกับที่คุณหยางพูด อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน”
จินกางหรี่ตาลงและเอ่ยขึ้น
ดูเหมือนเป็นการข่มขู่ แท้ที่จริงเขาแค่ต้องการให้ตัวเองมีจุดยืนเท่านั้น
มีหรือที่หยางเฉินจะไม่รู้ เขายิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “งั้นหัวหน้าจินรีบไปสืบเลย ถ้าฉันมีความผิดจริง จะทำอะไรฉันก็ได้!”
“พวกเรากลับ!”
จินกางกวักมือ และพาคนออกไป
เมื่อคนของสมาคมบูโดกลับไป คนตระกูลเย่ตั้งสติได้ และพูดด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “คนของสมาคมบูโดไปแล้วจริงเหรอ”
“ฮ่าๆ! ตระกูลเย่รอดแล้ว!”
“เพราะคุณความดีของคุณหยาง ขอบพระคุณที่คุณหยางช่วยตระกูลเย่!”
“ขอบพระคุณที่คุณหยางช่วยตระกูลเย่!”
......
จู่ๆ คนในตระกูลเย่ ต่างพากันตะโกน ด้วยสีหน้าซาบซึ้ง
สำหรับพวกเขา การที่ผู้แข็งแกร่งของสมาคมบูโด มาพร้อมกันแบบนี้ แต่กลับไปโดยไม่ทำอะไรเลย นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก
ภายในคฤหาสน์สุดหรูของตระกูลเย่ ชายชราคนหนึ่ง ยืนโดดเดี่ยวอยู่ตรงหน้าต่าง สายตาของเขามองไปตรงที่คนตระกูลเย่รวมตัวกัน ในแววตาของเขาแฝงไปด้วยความปลื้มใจ
“คุณปู่ อากาศหนาวแล้ว ต้องดูแลสุขภาพนะคะ!”
ขณะนั้น มีหญิงสาวรูปงาม เดินเข้ามา เธอเอาเสื้อตัวนอก คลุมไว้บนตัวเย่จี้จง
“เสี่ยวเตี๋ย ปู่ทำผิดจริงๆ ใช่ไหม”
จู่ๆ เย่จี้จงหันกลับมา น้ำตารื้นตรงขอบตาและเอ่ยถามเสี่ยวเตี๋ย
สีหน้าของเย่เสี่ยวเตี๋ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอดูหวาดกลัว หลังจากที่ลังเลครู่หนึ่ง เธอสะกดกลั้นความกลัว และพยักหน้า “คุณปู่ทำผิดแค่เรื่องเดียว นั่นก็คือดูถูกหยางเฉิน”
เมื่อได้ยิน เย่จี้จงยิ้มอย่างขมขื่น “ใช่! ฉันดูถูกเขาจริง แต่ถ้าไม่เกิดเรื่องวันนี้ ก็ไม่มีใครเชื่อ ว่าคนอายุยี่สิบกว่าปี จะสามารถทำให้คนอย่างจินกาง แห่งสมาคมบูโดยอมถอยได้”
พูดจบ เหมือนเย่จี้จงนึกอะไรได้ เขาถามขึ้นว่า “เสี่ยวเตี๋ย เธอรู้เรื่องของหยางเฉินใช่หรือเปล่า”
เมื่อคิดถึงเรื่องที่เล่นงานหยางเฉินก่อนหน้านี้ เย่เสี่ยวเตี๋ยเคยขัดขวางสุดชีวิต และเคยบอกเย่จี้จง ว่าหยางเฉิน คือผู้แข็งแกร่งที่มีพละกำลังน่ากลัว ถ้าล่วงเกินเขา ตระกูลเย่จะไม่สามารถฟิ้นกลับคืนมาได้อีก
แต่ว่า เย่จี้จงไม่สนใจคำพูดนี้
เมื่อเห็นสีหน้ารอคอยของเย่จี้จง เย่เสี่ยวเตี๋ยใจอ่อน และพยักหน้าเบาๆ เธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบนเกาะ เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ เธอเล่าเรื่องนั้นออกมา
เมื่อเย่เสี่ยวเตี๋ย เล่าเหตุการณ์เหมือนภาพฝัน ที่เธอเจอมา เย่จี้จงเข้าใจทันที แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ เขาเงียบอยู่นาน กว่าจะตั้งสติได้
“ที่แท้ เขาอยู่คนละโลกกับเรา คนแบบนี้ อย่าว่าแต่ตระกูลเย่เลย ถึงแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูร่วมมือกัน ก็คงทำอะไรไม่ได้”
“ครั้งนี้ ฉันตาบอดเอง ฉันผิดเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...