จากนั้นเธอก็เกาะแขนของหม่าชาวแล้วพูดว่า “เราไปกันเถอะ!”
หยางเฉินกับฉินซีก็จับมือกันแล้วเดินออกไปพร้อมกัน
จนกระทั่งพวกเขาออกไปจนหมด หลินเจียวจึงจะลุกขึ้นอย่างน่าสมเพชละกัดฟันพูดว่า “อ้ายหลิน ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”
เมื่อพูดจบ เธอก็หันเดินจากไปโดยที่ไม่คำนึงถึงเถียนซินหยู่เลยแม้แต่น้อย
เหล่าพนักงานร้านค้าก็ตกใจกันหมด เพราะหลินเจียว เถียนซินหยู่ถึงต้องถูกหักแขนและขา แต่หลินเจียวกลับไม่สนใจแฟนและทิ้งให้อยู่ตามลำพังแบบนี้?
ส่วนหยางเฉินทั้งสี่คนก็ออกจากร้านเสื้อผ้านั้นไปแล้ว
“พี่อ้ายคะ ผู้ชายเมื่อกี้เขาคือคนของตระกูลเถียนจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเลยนะ ถ้าทำกับเขาแบบนี้ พวกเขาจะมาหาเรื่องตระกูลอ้ายไหม?”
ระหว่างทางกลับ ฉินซียังคงรู้สึกหวาดผวาและถามอย่างกังวล
แต่อ้ายหลินยิ้มตอบว่า “ทหารมาก็ใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน อีกอย่างแฟนของเธอก็เก่งขนาดนี้ แค่ตระกูลเถียนจะกลัวทำไมล่ะ?”
“พี่เฉิน ฉันพูดถูกไหม? ถ้าตระกูลเถียนมาหาเรื่องตระกูลอ้ายจริงๆ คุณคงไม่ยืนดูนิ่งๆ หรอกใช่ไหม?” อ้ายหลินถามด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินส่ายหัวอย่างไม่มีทางเลือก “ทำไมผมเหมือนถูกระรานยังไงไม่รู้แหะ?”
ในขณะที่พูดอยู่ เขาก็มองไปที่หม่าชาวที่กำลังขับรถอยู่
หม่าชาวดูเหมือนจะรู้สึกบางอย่าง เขาจึงผงะไปและอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “พี่เฉิน พี่คงไม่ได้คิดว่าผมกับพี่อ้ายกำลังรวมหัวกันระรานพี่อยู่นะ?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ? ตอนนี้เอ็งมีแฟนก็ทิ้งพี่ชายแล้ว พี่ชายจะไปสำคัญกว่าแฟนได้ไง ว่าไหม?”
หยางเฉินยิ้มพูด
“พี่เฉิน ผมสาบานว่าไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เลยนะครับ ผมกับอ้ายหลินไม่เคยคิดจะระรานพี่เลยนะ......”
หม่าชาวรีบอธิบายและอ้ายหลินก็ตีหน้าซื่อต่อ “หม่าชาว นี่คุณหมายความว่าไง? หรือคุณคิดว่าคู่หมั้นของคุณไม่สำคัญเท่าพี่เฉิน?”
“อ้ายหลิน ผมเปล่านะ ผม......ผม......”
หม่าชาวกำลังจะอธิบาย แต่เขาก็ตระหนักว่าสิ่งที่เขาจะพูดนั้นล้วนผิดไปหมด และมันก็ทำให้เขาถึงกับเหงื่อแตก
“ฮ่า ๆ......”
อ้ายหลินอดขำไม่ได้แล้ว และหยางเฉินกับฉินซีก็หัวเราะออกมา
และในขณะนี้ หม่าชาวถึงรู้ตัวว่าเขากำลังถูกอำอยู่
แต่จากนั้น สีหน้าของอ้ายหลินก็กลับคืนสู่ปกติ และเธอพูดอย่างจริงจังว่า “คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะ ชาตินี้ ฉันจะไม่ทำให้คุณลำบากใจระหว่างการที่จะเลือกฉันกับพี่เฉิน”
“เพราะสำหรับคุณแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฉันหรือพี่เฉินก็เป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ โดยเฉพาะพี่เฉินที่เคยช่วยชีวิตคุณมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว”
“หรือจะบอกได้ว่า ถ้าไม่มีพี่เฉิน คุณคงตายในสนามรบไปนานแล้ว!”
“ในเมื่อฉันเลือกที่จะอยู่เคียงข้างคุณ ฉันนั้น ชาตินี้เราก็เป็นทหารของพี่เฉิน!”
อ้ายหลินพูดอย่างจริงจัง ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น หม่าชาวก็ดูจริงจังและในขณะเดียวกันก็รู้สึกอบอุ่นใจมาก
ฉินซีเองก็รู้สึกซาบซึ้งไปด้วย ดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดง เธอรู้ดี การที่คนอย่างอ้ายหลินกับหม่าชาวจะภักดีต่อหยางเฉินขนาดนี้ หยางเฉินต้องแลกมาด้วยชีวิตของเขา
แม้เธอจะไม่รู้ว่าหยางเฉินต้องเจออะไรในชายแดนเหนือ แต่เธอรู้ดีว่าห้าปีที่หยางเฉินเป็นทหารในชายแดนเหนือเขาต้องลำบากอย่างแน่นอน
ถ้าไม่ใช่เพราะประสบการณ์ที่ยากลำบากของเขา ปัจจุบันเขาจะอยู่ในตำแหน่งนี้ได้อย่างไร?
หยางเฉินยิ้มพูด “เอาล่ะ อย่าพูดให้หนักใจกันอีกเลย พี่อ้าย คุณไม่คิดจะโทรหาตระกูลอ้ายของคุณหน่อยเหรอ? เมื่อกี้หม่าชาวเพิ่งหักแขนขาทายาทของตระกูลเถียนไปนะ”
อ้ายหลินยิ้มพูดอย่างขมขื่น “ฉันว่าตระกูลอ้ายน่าจะรู้แล้วล่ะ? ฉันเดาว่าอีกไม่เกินห้านาทีเขาก็จะโทรหาฉันละ”
ทันทีที่พูดจบ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“พ่อของฉัน!”
อ้ายหลินมองไปที่โทรศัพท์อย่างจำใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...