“ผมแค่จะเตือนคุณ!”
หม่าชาวยิ้มพูดอย่างเย้ยหยัน “สำหรับคำข่มขู่นั้น คุณยังไม่มีคุณสมบัติมากพอ!”
เมื่อได้ยินคำนี้ ทุกคนถึงกับตะลึงงัน!
หลังจากนั้นไม่นาน เถียนหวาถึงตั้งสติได้และกัดฟันพูดว่า “คุณไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคุณจะได้ร้องขอความตายเอง!”
“เถียนหวา คุณช่างกล้าพูดนะ!”
ในขณะนั้นเองก็มีเสียงเย้ยหยันดังขึ้นจากด้านหลัง
ทุกคนรีบหันไปมองและเห็นหญิงวัยกลางคนที่สวมชุดสุภาพเรียบร้อยเดินออกมาพร้อมกับบอดี้การ์ดทั้งสองของเธอ
เมื่อเห็นเธอคนนี้ ทุกคนก็ยิ่งตกใจ แม้แต่เถียนหวาเองก็ประหลาดใจเช่นกัน
“เจ้าบ้านเย่ นี่คุณคิดจะมายุ่งธุระของตระกูลเถียนของผมงั้นเหรอ?”
หลังจากนั้นไม่นาน เถียนหวาก็ถามอย่างเย็นชา
ซึ่งคนที่เข้ามานั้นคือผู้นำของตระกูลเย่ หรือเรียกว่าเย่ม่าน
แม้ว่าเย่ม่านจะมากับบอดี้การ์ดสองคนเท่านั้น แต่เถียนหวาก็รู้สึกถึงความซับซ้อนของเรื่องนี้
เดิมทีเขาแค่จะมาเอาชีวิตของคนในตระกูลอ้ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความตายของลูกชายเขา และตั้งใจมากดขี่ตระกูลอ้าย เพื่อให้ตระกูลอ้ายเป็นทาสรับใช้ของพวกเขาและมอบผลประโยชน์มากมายให้กับพวกเขา
และเดิมทีเขาคิดว่านี่เป็นเรื่องง่ายมาก แต่หลังจากการปรากฏตัวของเย่ม่านนั้น ทำให้เขารู้สึกถึงความไม่ปกติ
ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูนั้น แม้จะมีเรื่องแก่งแย่งชิงดีกันอยู่เบื้องหลัง แต่ต่อหน้าพวกเขาจะไม่สร้างความบาดหมางต่อกัน ซึ่งทุกคนก็รู้กันดีว่าพวกเขาพยายามจะรักษาสมดุลของผลประโยชน์ระหว่างกัน
ตัวอย่างเช่น เรื่องของตระกูลเถียนกับตระกูลอ้ายในวันนี้ ความจริงแล้วตระกูลอื่นๆ ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูไม่ควรมายุ่งด้วย
เย่ม่านยิ้มจางๆ แล้วพูดว่า “ประธานเถียนจะพาตัวลูกสาวบุญธรรมของฉันไปแบบนี้ แล้วจะให้ฉันอยู่นิ่งเฉยได้เหรอคะ?”
เมื่อได้ยินคำนี้ ทุกคนก็ตะลึงงันกันถ้วนหน้า
อ้ายหลินเองก็ตกใจเช่นกัน แต่เพียงแค่ครู่เดียว เธอก็เข้าใจถึงเจตนาของเย่ม่านที่ตั้งใจจะช่วยเธอ
“ลูกสาวบุญธรรม?”
เถียนหวาแสยะยิ้มออกมา “ผมไม่เคยได้ยินเลยนะครับว่าเจ้าบ้านเย่จะมีลูกบุญธรรม”
“เรื่องส่วนตัวของฉัน ถ้าคุณไม่รู้ มันจะมีปัญหาอะไรไหม?”
เย่ม่านยิ้มจางๆ แล้วมองไปที่อ้ายหลินและพูดอีกครั้งว่า “เสี่ยวหลิน ลูกมาอยู่กับแม่บุญธรรมนี่สิ แม่อยากรู้เหมือนกัน ถ้ามีแม่อยู่ที่นี่ แล้วใครจะกล้ารังแกลูกอีก”
แน่นอนว่าอ้ายหลินไม่มีทางปฏิเสธความหวังดีของเย่ม่านอยู่แล้ว แต่จึงยิ้มและเดินเข้าไปหาเย่ม่าน “ขอบคุณแม่บุญธรรมนะคะ!”
ซึ่ง ‘แม่บุญธรรม’ คำนี้ฟังแล้วรื่นหูมาก มันไม่เหมือนกับการเสแสร้งเลยแม้แต่น้อย
ทุกคนในครอบครัวตระกูลอ้ายถึงกับเบิกตากว้างด้วยความไม่คาดคิด
อ้ายหลินไปเป็นลูกบุญธรรมของหัวหน้าครอบครัวตระกูลเย่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ถ้ารู้อย่างนี้ทำไมพวกเขายังต้องไปขอร้องตระกูลซุนเพื่อให้อ้ายหลินแต่งงานกับลูกชายปัญญาอ่อนของพวกเขาด้วยล่ะ?
อ้ายหมิงซวี่รู้สึกว่าสมองของเขามึนตึ้บไปหมด และในขณะนี้มีเพียงประโยคสุดท้ายของอ้ายหลินก่อนที่เธอจะออกจากบ้านตระกูลอ้ายที่ยังคงดังก้องในหัวเขา “พ่อจะต้องเสียใจแน่!”
หรือว่าเป็นเพราะอ้ายหลินมีความสัมพันธ์กับหัวหน้าครอบครัวตระกูลเย่จริงๆ?
อ้ายหมิงซวี่รู้สึกผิดมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูด้วยวิธีไหน มันก็จะเป็นผลพลอยได้ของตระกูลอ้ายอยู่แล้ว
เมื่อเทียบกับการบังคับให้อ้ายหลินแต่งงานกับลูกชายปัญญาอ่อนของตระกูลซุนนั้น การที่เธอเป็นลูกบุญธรรมของเย่ม่านจะดีกว่าแน่นอน
และถ้าหากจัดการปัญหาของตระกูลเถียนได้ ด้วยความสัมพันธ์ของอ้ายหลินกับตระกูลเย่ในตอนนี้ สถานะของตระกูลอ้ายจะไม่ถูกยกระดับขึ้นหรือ?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อ้ายหมิงซวี่ก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้น
ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงของครอบครัวใหญ่นั้น ในสายตาของพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ที่แท้จริงอยู่แล้ว แต่พวกเขาสนใจในเรื่องของผลประโยชน์เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...