The king of War นิยาย บท 576

“ผมแค่จะเตือนคุณ!”

หม่าชาวยิ้มพูดอย่างเย้ยหยัน “สำหรับคำข่มขู่นั้น คุณยังไม่มีคุณสมบัติมากพอ!”

เมื่อได้ยินคำนี้ ทุกคนถึงกับตะลึงงัน!

หลังจากนั้นไม่นาน เถียนหวาถึงตั้งสติได้และกัดฟันพูดว่า “คุณไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคุณจะได้ร้องขอความตายเอง!”

“เถียนหวา คุณช่างกล้าพูดนะ!”

ในขณะนั้นเองก็มีเสียงเย้ยหยันดังขึ้นจากด้านหลัง

ทุกคนรีบหันไปมองและเห็นหญิงวัยกลางคนที่สวมชุดสุภาพเรียบร้อยเดินออกมาพร้อมกับบอดี้การ์ดทั้งสองของเธอ

เมื่อเห็นเธอคนนี้ ทุกคนก็ยิ่งตกใจ แม้แต่เถียนหวาเองก็ประหลาดใจเช่นกัน

“เจ้าบ้านเย่ นี่คุณคิดจะมายุ่งธุระของตระกูลเถียนของผมงั้นเหรอ?”

หลังจากนั้นไม่นาน เถียนหวาก็ถามอย่างเย็นชา

ซึ่งคนที่เข้ามานั้นคือผู้นำของตระกูลเย่ หรือเรียกว่าเย่ม่าน

แม้ว่าเย่ม่านจะมากับบอดี้การ์ดสองคนเท่านั้น แต่เถียนหวาก็รู้สึกถึงความซับซ้อนของเรื่องนี้

เดิมทีเขาแค่จะมาเอาชีวิตของคนในตระกูลอ้ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความตายของลูกชายเขา และตั้งใจมากดขี่ตระกูลอ้าย เพื่อให้ตระกูลอ้ายเป็นทาสรับใช้ของพวกเขาและมอบผลประโยชน์มากมายให้กับพวกเขา

และเดิมทีเขาคิดว่านี่เป็นเรื่องง่ายมาก แต่หลังจากการปรากฏตัวของเย่ม่านนั้น ทำให้เขารู้สึกถึงความไม่ปกติ

ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูนั้น แม้จะมีเรื่องแก่งแย่งชิงดีกันอยู่เบื้องหลัง แต่ต่อหน้าพวกเขาจะไม่สร้างความบาดหมางต่อกัน ซึ่งทุกคนก็รู้กันดีว่าพวกเขาพยายามจะรักษาสมดุลของผลประโยชน์ระหว่างกัน

ตัวอย่างเช่น เรื่องของตระกูลเถียนกับตระกูลอ้ายในวันนี้ ความจริงแล้วตระกูลอื่นๆ ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูไม่ควรมายุ่งด้วย

เย่ม่านยิ้มจางๆ แล้วพูดว่า “ประธานเถียนจะพาตัวลูกสาวบุญธรรมของฉันไปแบบนี้ แล้วจะให้ฉันอยู่นิ่งเฉยได้เหรอคะ?”

เมื่อได้ยินคำนี้ ทุกคนก็ตะลึงงันกันถ้วนหน้า

อ้ายหลินเองก็ตกใจเช่นกัน แต่เพียงแค่ครู่เดียว เธอก็เข้าใจถึงเจตนาของเย่ม่านที่ตั้งใจจะช่วยเธอ

“ลูกสาวบุญธรรม?”

เถียนหวาแสยะยิ้มออกมา “ผมไม่เคยได้ยินเลยนะครับว่าเจ้าบ้านเย่จะมีลูกบุญธรรม”

“เรื่องส่วนตัวของฉัน ถ้าคุณไม่รู้ มันจะมีปัญหาอะไรไหม?”

เย่ม่านยิ้มจางๆ แล้วมองไปที่อ้ายหลินและพูดอีกครั้งว่า “เสี่ยวหลิน ลูกมาอยู่กับแม่บุญธรรมนี่สิ แม่อยากรู้เหมือนกัน ถ้ามีแม่อยู่ที่นี่ แล้วใครจะกล้ารังแกลูกอีก”

แน่นอนว่าอ้ายหลินไม่มีทางปฏิเสธความหวังดีของเย่ม่านอยู่แล้ว แต่จึงยิ้มและเดินเข้าไปหาเย่ม่าน “ขอบคุณแม่บุญธรรมนะคะ!”

ซึ่ง ‘แม่บุญธรรม’ คำนี้ฟังแล้วรื่นหูมาก มันไม่เหมือนกับการเสแสร้งเลยแม้แต่น้อย

ทุกคนในครอบครัวตระกูลอ้ายถึงกับเบิกตากว้างด้วยความไม่คาดคิด

อ้ายหลินไปเป็นลูกบุญธรรมของหัวหน้าครอบครัวตระกูลเย่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ถ้ารู้อย่างนี้ทำไมพวกเขายังต้องไปขอร้องตระกูลซุนเพื่อให้อ้ายหลินแต่งงานกับลูกชายปัญญาอ่อนของพวกเขาด้วยล่ะ?

อ้ายหมิงซวี่รู้สึกว่าสมองของเขามึนตึ้บไปหมด และในขณะนี้มีเพียงประโยคสุดท้ายของอ้ายหลินก่อนที่เธอจะออกจากบ้านตระกูลอ้ายที่ยังคงดังก้องในหัวเขา “พ่อจะต้องเสียใจแน่!”

หรือว่าเป็นเพราะอ้ายหลินมีความสัมพันธ์กับหัวหน้าครอบครัวตระกูลเย่จริงๆ?

อ้ายหมิงซวี่รู้สึกผิดมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูด้วยวิธีไหน มันก็จะเป็นผลพลอยได้ของตระกูลอ้ายอยู่แล้ว

เมื่อเทียบกับการบังคับให้อ้ายหลินแต่งงานกับลูกชายปัญญาอ่อนของตระกูลซุนนั้น การที่เธอเป็นลูกบุญธรรมของเย่ม่านจะดีกว่าแน่นอน

และถ้าหากจัดการปัญหาของตระกูลเถียนได้ ด้วยความสัมพันธ์ของอ้ายหลินกับตระกูลเย่ในตอนนี้ สถานะของตระกูลอ้ายจะไม่ถูกยกระดับขึ้นหรือ?

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อ้ายหมิงซวี่ก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้น

ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงของครอบครัวใหญ่นั้น ในสายตาของพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ที่แท้จริงอยู่แล้ว แต่พวกเขาสนใจในเรื่องของผลประโยชน์เท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War