เสี้ยวเสี้ยวรีบพยักหน้า “หม่าม้ากับปะป๊าไม่ต้องห่วงนะคะ! เสี้ยวเสี้ยวโตแล้ว จะไม่เพิ่มปัญหาให้หม่าม้าปะป๊า ปะป๊าหม่าม้าทำงานได้เต็มที่เลยค่ะ”
เห็นท่าทางที่รู้ภาษาของลูกสาว ฉินซีทำหน้าปลื้มใจ
“เสี้ยวเสี้ยว คิดถึงปะป๊ารึเปล่า?”
เวลานี้ หยางเฉินเดินออกมาจากในห้องน้ำ หัวเราะดีใจปรากฏตัวอยู่ที่หน้ากล้อง
“ปะป๊า!”
เสี้ยวเสี้ยวมองเห็นหยางเฉิน เรียกไปด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะพูดว่า “เสี้ยวเสี้ยวคิดถึงปะป๊าแล้ว!”
ได้ยินคำพูดของลูกสาว หยางเฉินก็หน้าตายิ้มแย้ม
สองสามีภรรยาพูดคุยเป็นเพื่อนเสี้ยวเสี้ยวสักพักหนึ่ง ถึงกำชับให้เสี้ยวเสี้ยวไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน
ฉินยีปรากฏตัวอยู่ในเลนส์กล้อง ยิ้มบอกว่า “พี่ พี่เขย พวกพี่เลี้ยงลูกสาวได้ดีคนหนึ่งเลยนะ!”
“ความจริงเมื่อวานเลิกเรียนกลับบ้านมา เห็นพวกพี่ไม่อยู่บ้าน หล่อนก็คิดถึงพวกพี่มากเลย”
“ช่วงค่ำตอนเข้านอน ถึงมาบอกฉันว่า หล่อนคิดถึงพวกพี่แล้ว แต่บอกฉันแบบหนักแน่นมากว่า ปะป๊ากับหม่าม้าทำงานยุ่ง หล่อนจะไม่โทษพวกพี่”
ได้ยินคำพูดของฉินยี ชั่วขณะนั้นสองสามีภรรยาเงียบนิ่ง ในสายตาล้วนเป็นความรู้สึกผิดและตำหนิตนเอง
“พอแล้ว พวกพี่ไม่ต้องทำท่าทางรู้สึกผิดต่อเสี้ยวเสี้ยวหรอก เป็นลูกสาวของพวกพี่ได้ เสี้ยวเสี้ยวก็มีความสุขมากแล้ว”
ฉินยีไม่อยากเพิ่มความกดดันให้สองสามีภรรยาอีก หัวเราะแล้วบอกว่า “นี่ไม่ใช่แค่ไม่เจอกันสองวันเองเหรอ? รอต่อไปเสี้ยวเสี้ยวโตขึ้นไปเข้ามหาวิทยาลัย จากนั้นแต่งงานแล้ว พวกพี่จะไม่ตายกันเลยรึไง?”
ถึงแม้จะกำลังปลอบใจทั้งสองคน แต่ว่าในใจหยางเฉินและฉินซียิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม
“เอาล่ะๆ ดูท่าทางพวกพี่เสียใจขนาดนี้ ไม่พูดเรื่องเสี้ยวเสี้ยวแล้ว พวกเราคุยเรื่องน่ายินดีหน่อย”
ฉินยีรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “เยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว ตอนนี้ได้ครองธุรกิจที่เกี่ยวข้องเกือบทั้งหมดของเจียงผิงและหนันหยังสองมณฑลนี้แล้ว”
“ถึงแม้เป็นเพียงบริษัทสาขา แต่ว่ากำไรครองพื้นที่หนึ่งในห้าของสำนักงานใหญ่เลยนะ ถ้าว่าตามระดับการพัฒนาอันนี้ต่อไป ใช้เวลาไม่นานมาก บริษัทสาขาสามารถตั้งเป็นกิจการยักษ์ใหญ่แห่งใหม่ได้อีกครั้งเลย”
“พี่เขย ถ้าไม่อย่างนั้นพี่สร้างบริษัทใหม่อีกแห่งสิ ฉันช่วยพี่บริหาร?”
หยางเฉินหัวเราะแล้ว “เธอชอบบริหารขนาดนี้เลย?”
ฉินยีทำลักษณะท่าทางภูมิใจ “นั่นมันแน่อยู่แล้ว พี่ไม่ดูหน่อยว่าฉันเป็นใคร? ตอนนี้ฉันเป็นประธานสาวสวยอันดับหนึ่งของเจียงหนันนะ พี่สาวฉันยังเป็นแค่ประธานสาวสวยอันดับหนึ่งของเจียงโจว ระดับของฉันสูงกว่าของพี่สาวฉันขั้นหนึ่งเลยนะ”
ผู้คนมากมายนำเจียงผิงและหนันหยังสองมณฑลนี้รวมกัน เรียกเป็นเจียงหนัน
ดูท่าทางภูมิใจของฉินยี ฉินซีพูดอย่างอารมณ์เสีย “ตอนนี้เธอเก่งกาจแล้ว จนพี่สาวเธออย่างฉันสู้ไม่ได้แล้วด้วย”
“ฮ่าๆ......”
สองสามคนหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
“เดิมทีฉันกังวลอยู่ว่า เอาสาขานั้นที่เจียงโจวให้เธอรับผิดชอบ จะสร้างความกดดันให้เธอมากไปรึเปล่า ตอนนี้ดูแล้ว เป็นฉันคิดมากไปเอง” หยางเฉินหัวเราะบอกไป
“จะเป็นไปได้ยังไง? ฉันยังไม่พอใจที่ท้าทายน้อยเกินไปซะอีก” ฉินยีพูดขึ้น
ใครจะรู้ ฉินยีเพิ่งพูดจบ หยางเฉินก็บอกว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ตัดสินใจได้สบายๆ แล้ว เธอกับพ่อ ยังมีเสี่ยวซีมาช่วยฉันที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปสำนักงานใหญ่ด้วยกัน”
“ในช่วงเวลานี้ พวกเธอรีบพยายามหาคนรับช่วงต่อที่เหมาะสมสักคนมาแทนที่พวกเธอ”
หยางเฉินรีบพูดตัดสินใจ
“พี่เขย ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้น พี่ไม่ต้องมาเติมเต็มความอยากบริหารของฉันก็ได้ มาให้ท้ายฉันแบบนี้ ไม่อย่างนั้นฉันหลงรักพี่เข้า จะให้คำอธิบายกับพี่สาวฉันฟังยังไงกัน?”
ฉินยีพูดแบบกึ่งตกใจกึ่งล้อเล่น
ฉินซีถลึงตาใส่ฉินยีทีหนึ่ง “ขอแค่เธอแย่งไปได้ จะให้เธอฟรีเลย!”
ฉินยีหัวเราะชั่วร้ายครู่หนึ่ง “งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ หึๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...