The king of War นิยาย บท 610

สรุปบท บทที่ 610 อย่าหุนหันพลันแล่น: The king of War

ตอน บทที่ 610 อย่าหุนหันพลันแล่น จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 610 อย่าหุนหันพลันแล่น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ชายวัยกลางคนในชุดชุดสามัญชนโบราณผู้ซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งที่ยืนอยู่ด้านหลังซ่งหวาเหว่ยก็เต็มไปด้วยความระแวดระวัง ดูเหมือนเขากังวลว่าหยางเฉินจะทำร้ายซ่งหวาเหว่ยอย่างกะทันหัน เขาจึงก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อปกป้องซ่งหวาเหว่ยไว้

“แกกล้าฆ่าทายาทสายตรงของตระกูลซ่งงั้นเหรอ?”

ซ่งหวาเหว่ยรู้สึกเหลือเชื่อมาก และความโกรธก็ทำให้เขาโพล่งออกมา

หยางเฉินหรี่ตาแล้วตอบว่า “ผมไม่ถือสาถ้าใครคิดจะฆ่าผมหรอกนะ แต่ถ้าเขาคิดจะทำจริง เขาก็ต้องตายสถานเดียว!”

ในเวลานี้ หยางเฉินเต็มไปด้วยออร่าของคนสูงส่ง

เพราะเขาเป็นถึงผู้พิทักษ์ในดินแดนเหนือ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือสถานะก็ไม่มีใครเทียบกับเขาได้อยู่แล้ว แล้วคนแบบนี้จะมีสักกี่คนในโลกใบนี้?

ซ่งหวาเหว่ยที่ถูกหยางเฉินจ้องมอง และในขณะนี้ เขารู้สึกว่าตนกำลังถูกสัตว์ป่าเพ่งมองและร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง

ในฐานะลูกชายคนโตของทายาทรุ่นที่สามในตระกูลซ่ง และยังเป็นสายตรงที่มีศักยภาพสูงสุดในการรับตำแหน่งผู้สืบทอดของตระกูล แล้วเขาจะเป็นคนโง่ขนาดนั้นได้อย่างไร?

นับตั้งแต่ยอดฝีมือในชุดชุดสามัญชนโบราณเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉิน เพราะแม้แต่ผู้แข็งแกร่งที่คอยปกป้องเขายังสัมผัสถึงภัยคุกคามอันใหญ่หลวงนั้นได้

ไม่อย่างนั้นผู้แข็งแกร่งในชุดชุดสามัญชนโบราณคงไม่มายืนขวางอยู่ตรงหน้าเขาหรอก

“พี่ใหญ่ พี่ใจเย็นก่อน!”

ในเวลานี้ ซ่งหวายี่ก็ตั้งสติได้และรีบเข้ามาพูดด้วยสีหน้ากังวลใจ

ในความเห็นของเขา ตำแหน่งของหยางเฉินในกองทัพนั้นสูงมาก หยางเฉินอาจเป็นถึงผู้บัญชาการสูงสุด หรือเป็นตำแหน่งที่เทียบเท่ากับตำแหน่งราชวงศ์ก็เป็นได้

ณ ขณะนี้ หยางเฉินฆ่าซ่งหวาตงไปแล้ว ถ้าหากเขาฆ่าซ่งหวาเหว่ยไปอีกคน เกรงว่าตระกูลซ่งจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับหยางเฉินอย่างไม่มีวันจบสิ้นแน่

ถึงเวลานั้น ตระกูลซ่งอาจต้องเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ก็เป็นไปได้

เพราะการที่เขาเข้าหาหยางเฉินก็เพื่อจะขอให้หยางเฉินช่วยในการต่อสู้ของเขาก็เท่านั้น แต่ไม่เคยคิดจะขอให้หยางเฉินช่วยเขาฆ่าคู่ต่อสู้เลย

“ซ่งหวายี่ คนนี้เหรอที่จะมาลงแข่งให้นาย?”

สายตาอันเฉียบคมของซ่งหวาเหว่ยจ้องไปที่ซ่งหวายี่ จากนั้นกัดฟันพูดต่อ “ตอนนี้มันฆ่าน้องสามไปแล้ว ข้าอยากรู้เหมือนกันว่านายจะกลับไปอธิบายให้ที่บ้านยังไง!”

สีหน้าซ่งหวายี่ดูอึดอัดใจมาก ในเวลานี้เขาไม่รู้จะยอมรับหรือจะปฏิเสธดี

“อยากให้ผมลงแข่ง ต่อให้เป็นเจ้าบ้านตระกูลซ่งก็ไม่มีสิทธิ์นั้นหรอก!” หยางเฉินพูดอย่างเฉยเมย

ถึงแม้เขาไม่สนใจว่าซ่งหวายี่จะเป็นหรือตาย แต่ทั้งสองก็ถือว่ายังเป็นเพื่อนกันอยู่ เขาจึงไม่จำเป็นต้องให้ซ่งหวายี่มารับผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปด้วย

ซึ่งเห็นได้ชัดว่าซ่งหวาเหว่ยตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ในการกำจัดซ่งหวายี่ออกไป

เพราะซ่งหวาตงก็ตายไปแล้ว ตอนนี้คู่แข่งของเขาเหลือเพียงซ่งหวายี่คนเดียวเท่านั้น

“คุณเป็นใครกันแน่?”

ซ่งหวาเหว่ยจ้องมองหยางเฉินอยู่สักพักและถามเขาด้วยความสงสัย

ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งที่หยางเฉินแสดงให้เห็น หรือจะเป็นออร่าในตัวเขา มันก็ทำให้ซ่งหวาเหว่ยรู้สึกได้ว่าหยางเฉินนั้นไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

“เขาก็แค่ลูกชายที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลอวี๋เหวิน คุณไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรหรอก”

ในขณะนี้ เสียงที่เต็มไปด้วยการประชดดังขึ้น

ทุกคนรีบหันไปมองและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

ซ่งหวาเหว่ยที่เห็นเขาคนนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที “อวี๋เหวินปิง!”

คนที่มาคืออวี๋เหวินปิง ส่วนด้านหลังเขาคือชายชราในชุดจีนราชวงศ์ถังคนที่เพิ่งช่วยเหลือเขาก่อนหน้านี้มาด้วย

“จะว่าไป เขายังเป็นน้องชายผมนะ เมื่อสิบกว่าปีก่อน เขาถูกไล่ออกจากครอบครัวและแม้กระทั่งถูกไล่ออกจากเมืองเยี่ยนตูด้วย”

“และเมื่อห้าปีที่แล้ว เขายังเป็นแค่ลูกเขยไร้ค่าคนหนึ่ง จากนั้นก็เข้ารับราชการทหารเป็นเวลาห้าปี นี่ก็เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน”

“ทักษะทั้งหมดก็คงเรียนรู้จากการเป็นทหาร”

“แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ยังไงเขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งอยู่ดี”

มุมปากของหยางเฉินยกขึ้นเล็กน้อย และรอยยิ้มอันเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า

ชายชราในชุดจีนรีบก้าวออกมาแล้วจ้องมองไปที่หยางเฉินด้วยความระมัดระวัง “ไอ้หนู ข้าขอรับประกันได้เลยว่า ถ้าแกกล้าทำอะไรใครที่นี่ แกจะตายโดยไม่มีที่ฝังศพแน่!”

“ขู่ผมงั้นเหรอ?”

หยางเฉินยิ้มพูด

และในวินาทีต่อมา ร่างกายของเขาหายไปจากที่เดิมแล้วมาโผ่ลอีกทีเมื่ออยู่ต่อหน้าอวี๋เหวินปิง

“พรึบ!”

จากนั้นเขายื่นมือออกไปคว้าคอของอวี๋เหวินปิงไว้แล้วใช้แรงบีบทันที ในระหว่างที่ทุกคนรู้สึกไม่คาดคิดอยู่นั้น ร่างกายของอวี๋เหวินปิงก็ถูกยกขึ้นกลางอากาศ

ในขณะนี้ สายตาของชายชราในชุดจีนก็เต็มไปด้วยความตกใจ

เขาเคยประลองกับหยางเฉินมาแล้ว ซึ่งก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉินดี แต่ไม่นึกเลยว่าครั้งนี้หยางเฉินกลับควบคุมชีวิตความเป็นความตายของอวี๋เหวินปิงได้ภายใต้การดูแลของเขา

เพราะครั้งก่อนที่สู้กับชายชราคนนี้ หยางเฉินไม่ได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ และเหตุผลที่ปล่อยพวกเขาไปก็เพราะอวี๋เหวินปิงรู้ความลับเกี่ยวกับแม่ของหยางเฉิน

“ตอนนี้ชีวิตของอวี๋เหวินปิงขึ้นอยู่กับผมแล้ว คุณจะทำอะไรผมได้บ้าง?”

หยางเฉินมองไปที่ชายชราในชุดจีนด้วยความดูถูกและถามเขาอย่างเย็นชา

ณ ขณะนี้ แทบจะทุกคนให้ความสนใจกับหยางเฉิน เพราะเขาเพิ่งฆ่าทายาทสายตรงของตระกูลซ่งไป

และในตอนนี้ ชีวิตของทายาทสายตรงอีกคนจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็ถูกหยางเฉินควบคุมไว้ หรือว่าหยางเฉินจะฆ่าอีกคนงั้นหรือ?

อวี๋เหวินปิงรู้สึกอับอายขายหน้ามาก เพราะเขาถูกหยางเฉินบีบคอต่อหน้าสาธารณะเหมือนลูกไก่ตัวหนึ่ง และมันก็เป็นความอัปยศอดสูของเขา

“คุณใจเย็นๆ ก่อน!” ชายชราในชุดจีนไม่กล้ายั่วยุหยางเฉินอีก ได้แต่พูดอย่างเคร่งขรึม

ในขณะเดียวกัน รัศมีอันทรงพลังที่ซ่อนอยู่ในคลับหวงจินได้เข้าปกคลุมตัวของหยางเฉิน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War