ซ่งหวาเหว่ยถูกพาออกไป เยี่ยนเฉินกรุ๊ปกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
“ประธานหยางครับ ขอบคุณมากนะครับ!”
ซ่งหวายี่เดินมาขนาบข้างของหยางเฉิน แล้วพูดอย่างซาบซึ้ง
เขารู้อยู่แล้ว ถ้าเป็นใช่เขา เกรงว่าซ่งหวาเหว่ยคงจะกลายเป็นศพไปแล้ว
หยางเฉินพยักหน้าเบาๆ“จากนี้ไป คุณทำงานที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้สบายใจเถอะครับ แน่นอนว่า ถ้าคุณยังสนใจเรื่องการสืบทอดตำแหน่งของตระกูลซ่ง คุณกลับไปได้ทุกเมื่อเลยครับ”
หลังจากที่เห็นความแข็งแกร่งของหยางเฉินที่แสดงออกมา มีหรือที่ซ่งหวายี่จะอยากได้ตำแหน่งสืบทอดของตระกูลซ่งอีก?
เขาส่ายหน้าไปมา แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“ประธานหยางวางใจเถอะครับ ในเมื่อผมเลือกจะตามรับใช้คุณแล้ว จากนี้ผมก็คือคนของคุณ มีอะไรให้รับใช้ คุณบัญชาได้เลยครับ!”
มาวันนี้ เขาเริ่มเรียกหยางเฉินว่าประธานหยาง เห็นได้ชัดว่ายอมรับการเป็นพนักงานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว
หยางเฉินพยักหน้า“ดี งั้นจากนี้ไป ที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป พวกคุณก็ฟังคำสั่งจากประธานลั่วได้เลย”
“ครับ!”
ซ่งหวายี่ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจที่ต้องฟังคำสั่งจากลั่วปิง
หลังจากที่หยางเฉินจากไป ซ่งหวายี่ก็หันหลังเดินขึ้นตึกไปหาลั่วปิง
“ประธานลั่วครับ จากนี้ไปเราก็คือเพื่อนร่วมงานกันแล้วมีอะไรให้รับใช้ คุณสั่งมาได้เลยนะครับ เราจะไม่ปฏิเสธใดๆทั้งสิ้น”
หลังจากที่ซ่งหวายี่เห็นลั่วปิง เขาก็วางตัวต่ำมาก
หลี่ไห่หรงกับซ่งหวาหย่าอยู่ด้วยเช่นกัน ลั่วปิงหัวเราะแล้วพูดว่า“ท่านประธานอยากจะเปิดตลาดต่างประเทศมาตลอด ผมพึ่งปรึกษากับไห่หรง คิดจะส่งพวกคุณไปต่างประเทศ ช่วยเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเปิดตลาดในต่างประเทศ ไม่ทราบว่าคุณคิดยังไงครับ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ในใจของซ่งหวายี่ถึงกับตกตะลึง
สำหรับเขาแล้ว การเข้าร่วมกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหยางเฉิน มันก็เพียงพอแล้ว ต่กลับคิดไม่ถึงว่า หยางเฉินจะมอบหมายหน้าที่ การเปิดตลาดในต่างประเทศให้กับพวกเขา
นี่เป็นความเชื่อใจสูงสุดที่มอบให้กับพวกเขา
การเปิดตลาดต่างประเทศ มันเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ แต่หยางเฉินกลับไว้ใจยกตลาดต่างประเทศ มอบหมายให้พวกเขาทั้งสามคนดูแลรับผิดชอบ
“ผมไม่มีความเห็นอะไรครับ ประธานลั่วจัดการได้เลยครับ!”
หลังจากตกตะลึงในเวลาสั้นๆ ซ่งหวายี่ก็พยักหน้าพูด
หลี่ไห่หรงเองก็พูดอย่างยิ้มๆว่า“ฉันก็ไม่มีความเห็นค่ะ!”
ลั่วปิงมองไปที่ซ่งหวาหย่า หลี่ไห่หรงกับซ่งหวายี่ เห็นได้ชัดว่าสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง เว้นแต่ซ่งหวาหย่า เหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย
“คุณซ่งล่ะครับ?”ลั่วปิงมองไปที่ซ่งหวาหย่า
วินาทีนี้ หลี่ไห่หรงกับซ่งหวายี่ก็มองไปที่ซ่งหวาหย่า พวกเขาเป็นคนที่ใกล้ชิดสนิทกับซ่งหวาหย่าที่สุด แน่นอนว่าพวกเขารู้ดีเหตุใดซ่งหวาหย่าถึงได้มีสีหน้าท่าทางแบบนี้
“ฉัน……”
ซ่งหวาหย่าเหมือนจะตัดสินใจแล้ว ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ถูกหลี่ไห่หรงตัดบท พูดอย่างยิ้มๆว่า“แม่กับพี่ชายของลูกไม่มีความเห็นอะไร ลูกคงจะไม่มีความเห็นอะไร ใช่ไหม?”
ลั่วปองไม่รู้ว่าซ่งหวาหย่าคิดอะไร ได้แค่มองอีกฝ่ายด้วยสายตาแปลกใจ
ซ่งหวาหย่าดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ เธอมองไปที่แม่ของตนเอง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“ฉันก็ไม่มีความเห็นค่ะ!”
“ดีครับ ในเมื่อทั้งสามท่านไม่มีความเห็น เป็นการตัดสินใจที่น่ายินดีมาก ตลาดต่างประเทศของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป มอบหมายให้พวกคุณแล้วกันนะครับ”
ลั่วปิงพูดไปยิ้มไป“ช่วงหลายวันมานี้ พวกคุณไปศึกษาทำความคุ้นเคยกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก่อนแล้วกันนะครับ รอผมจัดการเรื่องต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว จะให้พวกคุณเดินทางไปทำงานที่บริษัทลูกที่ต่างประเทศทันที”
“ได้ค่ะ!งั้นต้องขอรบกวนประธานลั่วหน่อยนะคะ”หลี่ไห่หรงพูดอย่างยิ้มๆ
ลั่วปิงจัดห้องทำงานให้พวกเขาหนึ่งห้อง
“เสี่ยวหย่า แม่รู้ว่าเมื่อกี้ลูกอยากจะพูดอะไร แต่แม่ต้องห้ามลูกไว้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...