หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันให้เวลาพวกคุณครึ่งชั่วโมง ภายในครึ่งชั่วโมง ถ้าพ่อของคุณไม่มา งั้นฉันก็คงต้องไปตระกูลไช่เองแล้ว แต่ถึงเวลานั้นเรื่องจะรุนแรงมากกว่านี้ไหม ฉันไม่รับประกัน”
หลังพูดจบ หยางเฉินโบกมือ “แยกย้าย”
ด้วยคำสั่งของหยางเฉิน คนนับพันจากไปโดยไม่ลังเล ราวกับกระแสน้ำที่ไหลกลับในพริบตา
หยางเฉินเหลือบมองไช่โหย่วเหวยอย่างเฉยเมย “ฉันจะรออยู่ที่นี่ ให้เวลาคุณแค่ครึ่งชั่วโมง”
หลังจากพูดจบ เขาหันหลังเดินเข้าไปในร้านอาหาร ไม่กลัวแม้แต่น้อยว่าไช่โหย่วเหวยจะพาคนนับร้อยพุ่งเข้าฆ่าตนเองตอนนี้
ในใจของไช่โหย่วเหวยก็สับสนมาก เขาไม่คิดจะลงมือกับหยางเฉินตอนนี้เหรอ?
แต่เมื่อมองดูท่าทางมั่นใจของหยางเฉินที่สามารถเรียกคนนับพันมาได้ภายในสิบนาทีเพียงคำเดียว เขาก็ไม่กล้า
“พวกเรากลับ!”
ไช่โหย่วเหวยกัดฟันพูดขึ้น
ในชั่วพริบตา ร้านอาหารแซ่เฉินที่มีคนมากมายเมื่อกี้ ก็สงบลงในทันใด
“หยางเฉิน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
หยางเฉินกลับไปที่ห้องอาหารส่วนตัวก่อนหน้านี้ ผังเสี่ยวเยว่รีบลุกขึ้นต้อนรับเขาด้วยสีหน้ากังวล
หยางเฉินส่ายหน้า สั่งเฉินอิงเหาว่า “คุณให้คนไปส่งเสี่ยวเยว่กลับบ้าน!”
“ฉันไม่กลับ!”
ใครจะไปรู้ว่าผังเสี่ยวเยว่จะส่ายหน้าปฏิเสธในทันที พูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “ฉันรู้ว่าคุณอยากจะไล่ฉันกลับ เดิมทีเรื่องวันนี้เกิดขึ้นเพราะฉัน ฉันไปไหนไม่ได้! ”
“เป็นเพราะตระกูลไช่ไม่ยอมไกล่เกลี่ยแต่โดยดีเหรอ? หรือจะให้ฉันไปขอร้องตระกูลไช่ ให้เขาปล่อยคุณไป”
เมื่อได้ยินคำพูดของผังเสี่ยวเยว่ จู่ๆ หยางเฉินก็รู้สึกเหมือนกับชนะ ในที่สุดครั้งนี้ผู้หญิงคนนี้ก็ทายผิด
“ฉันพูดผิดไปเหรอ?”
เมื่อเห็นสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องของหยางเฉิน ผังเสี่ยวเยว่ขมวดคิ้วถามขึ้น แต่ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจมาก
เธอเห็นสีหน้าจริงจังและตึงเครียดจากใบหน้าของเฉินอิงเหา แต่ในสายตาของหยางเฉินกลับมองไม่เห็นอะไรเลย เพียงรู้สึกได้ว่าในใจของหยางเฉินสงบมากในตอนนี้ ราวกับว่าเรื่องของตระกูลไช่ไม่ได้สำคัญอะไรนัก
“เธอสบายใจได้ ตระกูลไช่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ขอแค่เธอกลับไปตอนนี้ ฉันถึงจะไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลอีก เธออยู่นี่รังแต่จะเป็นภาระของฉันมากกว่า” หยางเฉินพูด
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของผังเสี่ยวเยว่เต็มไปด้วยความผิดหวัง มองหยางเฉินอย่างจริงจัง เข้าใจว่านี่เป็นความจริงจึงพูดว่า “ก็ได้! งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ!”
หยางเฉินพยักหน้า
เวลาเพียงไม่นาน เฉินอิงเหาก็ให้คนไปส่งผังเสี่ยวเยว่ เขาก็ส่งแฟนของเขากลับบ้านเหมือนกัน ทันใดนั้น ในห้องอาหารส่วนตัวเหลือเพียงหยางเฉินและหม่าชาว และเฉินอิงเหาสามคน
“คุณหยาง ครั้งนี้ท่านจะต้องช่วยผมนะครับ! ผมฆ่าคนของตระกูลไช่ ตระกูลไช่ต้องไม่ปล่อยผมไปง่ายๆแน่ๆ ” สีหน้าของเฉินอิงเหาหวาดกลัว
หยางเฉินพูดว่า “นี่ทำให้คุณกลัวแล้วเหรอ?”
เฉินอิงเหากลัวจริงๆ แต่ก็ไม่กล้ายอมรับ ได้แค่ส่ายหัว “มีคุณหยางอยู่ ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”
“ในเมื่อไม่กลัว งั้นก็เรียกคนมาสิ!” หลังจากนั้นก็รออย่างสบายใจ รอตระกูลเฉินรับช่วงต่อจากตระกูลไช่” หยางเฉินพูดขึ้น
เฉินอิงเหาอึ้งไปชั่วครู่ “เรียกคน? คุณหยางต้องการกี่คนครับ?”
หยางเฉินพูดไม่ออก ถ้าจะให้เรียกคนมาจริงๆ เขาก็คงไม่ให้คนนับพันกลับไป
หม่าชาวทนดูต่อไปไม่ได้จึงยิ้มอย่างเบิกบานใจ “พี่เฉินบอกให้คุณเรียกคนกุมอำนาจของตระกูลเฉินมา ไม่อย่างนั้น คุณสามารถเป็นตัวแทนตระกูลเฉินรับช่วงต่อจากตระกูลไช่ได้ไหมล่ะ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของหม่าชาว เฉินอิงเหาถึงรู้สึกตัว เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณปู่ของผมยกตำแหน่งผู้นำให้พ่อของผมแล้ว เมื่อกี้ผมได้แจ้งให้เขารู้แล้ว เขาน่าจะใกล้ถึงแล้ว”
น้ำเสียงจบลง ก็มีเสียงคนเคาะประตูห้องอาหารส่วนตัว
หลังจากเฉินอิงเหาเปิดประตูก็เห็นร่างชายวัยกลางคนกำลังยืนอยู่หน้าประตู นั่นก็คือเฉินเห้าลูกชายของเฉินซิงไห่
“ป๊า! ”เฉินอิงเหาเรียกแล้วรีบหลีกทางให้
“คุณหยาง!”
หลังจากเฉินเห้ามาถึงด้านหน้าของหยางเฉิน เขาก็พูดขึ้นด้วยความเคารพ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...