The king of War นิยาย บท 657

“ผมว่าตอนนี้เย่ม่านเจ้าบ้านเย่ ให้ความสำคัญกับลูกเขยแต่งเข้าบ้านอย่างคุณมาก ว่ากันว่าเธอยังแสดงออกต่อหน้าสาธารณชนว่า ในอนาคตจะมอบตระกูลเย่ให้กับพี่สะใภ้

หม่าชาวยิ้มกล่าวว่า “ยังมีตระกูลอวี๋เหวินที่เกรงกลัวคุณไปแล้วอีก ไหนจะตระกูลหวงที่ยอมก้มหัวให้พี่เฉินด้วยเช่นกัน ตอนนี้แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู อย่างน้อยก็มีสามตระกูลเศรษฐีที่ยืนอยู่ข้างคุณ”

“ถ้าตระกูลเฉินสวมรอยตระกูลไช่ จะเป็นตระกูลมหาเศรษฐีที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ถึงตอนนั้นพี่เฉินก็เข้าควบคุมเกือบครึ่งหนึ่งของเมืองเยี่ยนตูแล้ว!”

หยางเฉินยิ้มเจื่อนๆ พลางชำเลืองมองหม่าชาว “ทำไมผมรู้สึกว่า ช่วงนี้ชีวิตคุณดูมีสบายดีจัง พูดเยอะกว่าแต่ก่อนมาก ต้องการให้ผมมอบหมายภารกิจฝึกอบรมเข้มให้คุณไหม?”

ได้ยินดังนั้น หม่าชาวก็มีสีหน้าหวาดกลัว รีบบอกอย่างไว “พี่เฉินอย่าเพิ่งโกรธ!”

แม้ว่าหยางเฉินจะมีความสัมพันธ์อันดีกับหม่าชาวมาก แต่ตอนที่อยู่ในชายแดนเหนือ เขาก็มีชื่อเสียงเป็นครูฝึกปีศาจ การฝึกอบรมเข้มที่เขาบอกสามารถฆ่าคนได้เลย

เฉินอิงเหาและเฉินเห้าฟังอยู่ข้างๆ อย่างสงบ ทั้งสองแอบตกใจไม่น้อย

พวกเขาได้ข้อมูลสำคัญมากมายจากการสนทนาระหว่างหยางเฉินกับหม่าชาว ตระกูลเย่และตระกูลอวี๋เหวินแห่งแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู รวมถึงตระกูลหวง ล้วนหวาดกลัวหยางเฉินอย่างคาดไม่ถึง

โดยเฉพาะตระกูลหวงถึงกับยอมก้มหัวอยู่ใต้บัญชาของหยางเฉิน หากข่าวนี้เปิดเผยออกไป มันอาจจะเป็นการสั่นสะเทือนทั่วทั้งเมืองเยี่ยนตู

ตอนแรกเฉินเห้าและเฉินอิงเหาผู้รับผิดชอบทั้งสองที่ยังกังวลเรื่องตระกูลไช่อยู่ ในเวลานี้นั้นไม่กลัวแล้ว แม้แต่สามในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูยังยืนอยู่ข้างหยางเฉิน แล้วตระกูลที่มีศักยภาพโดยรวมสู้แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูไม่ได้ จะสามารถทำอะไรได้?

“ล้อเล่นก็ส่วนล้อเล่น แต่การฝึกฝนจะน้อยลงไม่ได้ คุณก็รู้ จิ่วโจวนั้นไม่ธรรมดา แล้วยังมีผู้แข็งแกร่งอีกมาก คุณไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ หรือแม้แต่ผมเอง ก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้เหมือนกัน”

ทันใดนั้นหยางเฉินก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

อย่างเช่นจินกางแห่งสมาคมบูโดที่ปะทะกับศัตรูในตระกูลเย่ เขาเป็นหัวหน้าสาขาของสมาคมบูโดในจิ่วโจว แต่ภายในสมาคมบูโดนั้นเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งอันดับสามเท่านั้น

และเมื่อหม่าชาวได้ประมือกับเขา กลับแพ้อย่างคาดไม่ถึงให้กับฝ่ายนั้น แค่คิดก็รู้ว่า ผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งและสองของสมาคมบูโดจะแข็งแกร่งขนาดไหน?

หม่าชาวรีบบอกว่า “พี่เฉิน ตั้งแต่ออกจากชายแดนเหนือ ผมยังไม่เคยหยุดฝึกเลย”

หยางเฉินเหมือนจะรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง จู่ๆ สองตาก็หรี่ลง “บางที วันนี้คุณอาจจะได้โอกาสฝึกมือแล้ว”

ทันทีที่เขาพูดจบ พนักงานของร้านอาหารแซ่เฉินก็มาถึงห้องส่วนตัว พลางกล่าวว่า “ประธานเฉิน คนของตระกูลไช่ขอเข้าพบครับ!”

เฉินเห้าชำเลืองมองหยางเฉินโดยอัตโนมัติ พอเห็นหยางเฉินพยักหน้าให้ เขาจึงออกคำสั่งว่า “ให้เข้ามา!”

“ครับ!”

พนักงานออกไปสักพักก็พาคนเข้ามาในห้องส่วนตัวหลายคน

มากันทั้งหมดห้าคน นอกจากไช่โหย่วเหวยและไช่เหวินที่หยางเฉินเคยเห็นมาก่อน ยังมีชายชราผมหงอกอีกคนหนึ่ง

ส่วนไช่เหวินนั้นถูกชายร่างกำยำสองคนเอาเปลหามเข้ามา หลังจากวางไช่เหวินลงแล้ว ชายร่างกำยำทั้งสองก็หันหลังเดินจากไป

ชัดเจนว่าชายชราคนนี้คือไช่หวง ผู้นำตระกูลไช่

“ท่านก็คือคุณหยางเฉินสินะ?”

ไช่หวงมองไปที่หยางเฉินแล้วถามขึ้น

หยางเฉินมองเขาอย่างไม่แยแสพลางกล่าวว่า “หลานชายของคุณจะทำรุ่มร่ามกับเพื่อนหญิงของผม แถมยังข่มขู่ว่าจะย่ำยีพวกเธอด้วย หลานชายอีกคนของคุณเอาญาติของอิงเหามาข่มขู่เขา ลูกชายของคุณพาคนมาหนึ่งร้อยคน ประกาศศักดาว่าหมัดใครหนักคนนั้นใหญ่ แล้วยังข่มขู่อีกว่าจะหักแขนหักขาผม”

ในเวลานี้ไช่หวงเหงื่อเปียกโชก สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่รุนแรงมากจากตัวหยางเฉิน

เขาเกิดมายาว่า หยางเฉินที่อยู่ตรงหน้า เป็นสิ่งที่ไม่อาจเอาชนะได้เลย

สิ่งที่หยางเฉินพูด ทำให้เขาหวาดกลัวและไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น

“ไอ้เลว ยังไม่คุกเข่าลงขอให้คุณหยางไว้ชีวิตพวกแกอีก?” ไช่หวงตะโกนด้วยความโกรธต่อหน้าผู้คน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War