หยางซงส่ายหัว “ตระกูลเฉินเป็นแค่ตระกูลเล็กๆที่มาจากต่างถิ่น หลายเดือนมานี้โลดแล่นอยู่ในประเทศเราสุดๆ ไปทั่วทุกอุตสาหกรรม เริ่มสร้างรากฐานในเยี่ยนตูตั้งแต่หลายเดือนก่อน”
“เพียงแต่ทำอะไรกันเงียบเชียบมาตลอด ไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้นหรอก ทว่าเมื่อคืนนี้ได้ข่าวว่าตระกูลไช่มีเรื่องกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง”
“วันนี้ ธุรกิจทุกอย่างของตระกูลไช่จึงมีตระกูลเฉินเป็นผู้ดูแล”
“มีแต่คนบอกว่าที่จริงตระกูลเฉินเป็นเพียงตระกูลรับจ้าง เบื้องหลังพวกเขามีคนใหญ่คนโตอีกคน แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็ไม่กล้ามีเรื่องด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางซง ทุกคนตะลึงกันหมด
“ฉันเคยได้ยินเรื่องของตระกูลไช่อยู่บ้าง ได้ข่าวว่านอกจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูแล้ว ก็มีตระกูลไช่นี่แหละที่แข็งแกร่งที่สุดในเยี่ยนตู แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูยังไม่กล้าแหยมกับตระกูลไช่”
“คิดไม่ถึงว่าภายในค่ำคืนเดียว ธุรกิจตระกูลไช่ก็เปลี่ยนเจ้าของแล้ว ดูท่าคนที่อยู่เบื้องหลังตระกูลเฉินไม่ธรรมดาจริงๆ”
โม่ตงซวี่พยักหน้าพลางเอ่ย
“เพราะฉะนั้น วันนี้ต้องขอให้ตงซวี่และอาซ้อลดตัวลงเล็กน้อยด้วยการอยู่ที่นี่ เราอย่ามีเรื่องกันจะดีกว่า” หยางซงกล่าว
และในตอนนั้นเอง จู่ๆประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก ชายวัยกลางคนในชุดสูทคนหนึ่งเดินเข้ามา
ตรงหน้าอกของชายวัยกลางคนมีป้ายบอกตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป
“คุณหยาง ห้องราชาถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เชิญท่านและแขกผู้มีเกียรติทุกท่านย้ายไปที่ห้องราชาตอนนี้ได้เลยครับ ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าคุณหยางพาเพื่อนมาด้วย ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
ผู้จัดการทั่วไปท่าทางอ่อนน้อมและพูดโดยหันไปทางหยางเฉิน
วินาทีที่ผู้จัดการทั่วไปของเย่ชั่งมองหยางเฉิน ทุกคนอึ้งกันหมด
เมื่อกี้หยางซงเพิ่งบอกว่า ห้องราชาเก็บไว้ให้แขกผู้มีเกียรติสูงสุดของเย่ชั่ง แต่ตอนนี้ผู้จัดการทั่วไปของที่นี่กลับเชิญพวกเขาไปที่ห้องราชา
หยางเฉินเป็นแค่คนจนๆไม่ใช่เหรอ
ทำไมอยู่ๆถึงกลายเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุดของเย่ชั่งล่ะ
หยางเฉินอดขมวดคิ้วไม่ได้ เมื่อกี้ตอนที่สาวสวยรับแขกหน้าประตูบอกเขาว่าเตรียมห้องราชาไว้แล้ว เขาได้แสดงเจตจำนงค์ชัดเจนแล้วว่าตัวเองมากับเพื่อน
ในขณะที่ทุกคนอึ้งกันหมด ทันใดนั้นหยางซงก็เดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง “ผู้จัดการหวัง ไม่เห็นต้องเกรงใจกันขนาดนี้เลย”
ผู้จัดการหวังมองหยางซงด้วยท่าทีงงงวย แต่พอนึกได้ว่าหยางซงเป็นเพื่อนของหยางเฉิน เขาทำได้แค่ยิ้มรับ “เช่นนั้นขอเชิญทุกท่านตามผมไปที่ห้องราชาตอนนี้เลยนะครับ”
“ได้สิ นำทางไปเลย”
หยางซงพูดพลางหัวเราะลั่น
ทุกคนอยู่ในสภาพงงงวยและตามผู้จัดการหวังไปที่ห้องราชา เพิ่งเข้ามาในห้อง แต่ละคนต่างตะลึงกับการตกแต่งภายใน
ภายในห้องส่วนตัวอันกว้างขวาง กำแพงรอบๆประดับประดาด้วยภาพวาดจริงของศิลปินเลื่องชื่อ การตกแต่งหรูหราสุดๆ แม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องส่วนตัวยังเป็นไม้ฟีบี้เจิ้งแนน
“ลาฟิเต้ปีแปดสองขวดนี้ถือว่าเป็นของขวัญพบหน้านะครับคุณหยาง”
“ผู้จัดการหวังสั่งให้เด็กนำลาฟิเต้มาให้สองขวด ก่อนจะถอยออกไปด้วยท่าทีระมัดระวัง”
“หยางซง นายกลายเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุดของเย่ชั่งตั้งแต่เมื่อไหร่”
ซางเสี่ยวเซียอีกด้านพลันถามขึ้นด้วยหน้าตาตะลึง
“ใช่แล้ว คิดไม่ถึงจริงๆเลยว่าหยางซงต่างหากคือคนที่ซ่อนเขี้ยวเล็บได้เนียนที่สุด” หวางหวนก็เอ่ยขึ้นยิ้มๆ
จริงๆแล้วหยางซงงงมาก จนบัดนี้เขายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าคนใหญ่คนโตเบื้องหลังตระกูลเฉินสนิทกับพวกเขาตระกูลหยางมาก?
แต่ในห้องส่วนตัวนี้มีเขาคนเดียวที่แซ่หยาง เมื่อกี้ผู้จัดการหวังของเย่ชั่งเรียกเขาว่าคุณหยางด้วย ต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลหยางอย่างแน่นอน
ส่วนหยางเฉินโดนเขาเมินไปนานแล้ว คนอื่นๆก็ไม่คิดว่าคุณหยางที่ผู้จัดการหวังพูดถึงคือหยางเฉิน
แม้แต่โม่ตงซวี่ยังเข้าใจว่าตระกูลหยางคบค้ากับคนใหญ่คนโต จึงพูดพร้อมรอยยิ้มกว้าง “หยางซง นายนี่พรางตัวซะเนียนเลยนะ ทีแรกฉันว่าจะเป็นคนเลี้ยงพวกนาย ตอนนี้ดูท่าไม่เหลือโอกาสเสียเงินแล้วสินะ”
“ฮ่าๆๆ……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...