“ด้วยฐานะของนายในตอนนี้ หากคิดจะสืบคงจะง่ายมากใช่มั้ย? นายจะไม่เชื่อฉันก็ได้ แต่นายไปสืบเองได้นี่ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉันและเสี่ยวหย่าด้วย นายไปสืบได้หมดเลย” หยางเฉินกล่าว
“ต่อให้ทุกอย่างที่นายพูดมาเป็นความจริง แต่ตอนนี้เธอก็ยังมีชีวิตอยู่นี่ ไหนจะครอบครัวของเธออีก ที่โดนไล่ออกจากตระกูลซ่งก็เป็นเรื่องจริง!”
โม่ตงซวี่กัดฟันกรอด “ในเมื่อพวกเขาไม่เป็นที่ต้อนรับของตระกูลซ่ง แล้วกล้าดียังไงมาหลอกฉันว่าพี่ชายของเธอมีโอกาสได้เป็นผู้นำตระกูลซ่งคนต่อไป?”
“นายเอาแต่พร่ำบอกว่าเสี่ยวหย่าเป็นคนหลอกให้นายรัก แต่คนที่รักให้คนอื่นรักจริงๆคือไอ้สารเลวอย่างนายต่างหาก”
หยางเฉินพูดอย่างมีน้ำโห “เสี่ยวหย่ารักนายขนาดนั้น นายกลับคบกับเธอเพราะเธอมีฐานะเป็นสายตรงของตระกูลซ่ง หรือว่าในสายตาของนาย มีแต่การช่วยให้นายมีอำนาจเท่านั้นถึงจะเรียกว่าความรักเหรอ?”
“คนที่หลอกให้คนอื่นรักจริงๆคือนาย นายทำลายชีวิตวัยสาวของเสี่ยวหย่าไปถึงสี่ปี และปล่อยให้เธอเจ็บปวดกับการสูญเสียคนรัก จนเธอเป็นโรคซึมเศร้าระยะร้ายแรงนายถึงสองปี!”
ซ่งหวาหย่าน้ำตาไหลนองหน้าไปนานแล้ว ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เธออยากบอกโม่ตงซวี่ แต่เธอไม่ยอมบอก
ต่อให้ตัวเองน้อยใจก็ต้องแบกรับด้วยตัวเอง แอบหาที่ร้องไห้โฮคนเดียวก็ไม่ยอมให้ใครได้เห็นเธอเจ็บปวดเสียใจ
“หยางเฉิน นายหุบปากซะ!”
ซุนเหม่ยจวนพูดโกรธๆ “ทั้งหมดนี้เป็นคำพูดของนายฝ่ายเดียว มีใครรู้บ้างว่าความจริงคืออะไร? ต่อให้ไปสืบจริงๆแล้วจะสืบเจอความจริงเหรอ ใครจะไปรู้ว่าความจริงที่นายพูดถึงจะเป็นสิ่งที่ซ่งหวาหย่าเตรียมการไว้ล่วงหน้าหรือเปล่า”
“ใช่แล้ว ซ้อเหม่ยจวนพูดถูก ฉันสงสัยว่าหยางเฉินและซ่งหวาหย่าจงใจพูดแบบนี้เพื่อให้ตงซวี่และซ้อต้องไม่สบายใจ”
ซางเสี่ยวเซียรีบบอก
หวางหวนก็หัวเราะเย็นๆพลางเอ่ย “ซ่งหวาหย่า เธออย่ามาแกล้งทำตัวเป็นนางเอกเลย ต่อให้เธอและหยางเฉินไม่ใช่สามีภรรยา แต่เพิ่งเคยเจอกันสามครั้งเธอก็สำส่อนแกล้งทำตัวเป็นสามีภรรยากับเขา เธอไม่รู้สึกขยะแขยงบ้างเหรอ?”
หยางซงมองหยางเฉิน เขายิ้มเย็นๆและพูดขึ้น “ไอ้หนุ่ม นายอย่ามาเบี่ยงเบนความสนใจพวกเราด้วยการเปลี่ยนเรื่องดีกว่า ประเด็นที่เราถกกันเมื่อกี้คือให้นายขอโทษตงซวี่ไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่แล้ว ขอโทษซะ”
“รีบขอโทษตงซวี่เดี๋ยวนี้”
“เป็นแค่คนจนบังอาจทำตัวโอหังต่อหน้าตงซวี่ นายเอาอะไรมากร่าง”
คนอื่นพากันเอ่ยปาก
เวลานี้เฉินซิงหรูก็ร้อนใจขึ้นมา เธออยากช่วยซ่งหวาหย่ามาตลอด จึงเอ่ยขึ้น “เสี่ยวหย่ารู้สึกแย่มากพอแล้ว พวกนายเลิกคาดคั้นได้แล้ว”
“เสี่ยวหย่า เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไป หลังจากนี้เธอก็ตั้งใจใช้ชีวิตไป ไม่ต้องคิดอะไรมาก”
ซ่งหวาหย่าเหลือบมองเฉินซิงหรูและตอบ “ขอแค่พวกเขายอมจบเรื่องราว ฉันจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้”
“ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด จะถือสากันได้ยังไง”
“เพื่อนๆ ฉันพูดถูกใช่มั้ย?”
“ให้เสี่ยวหย่ากับหยางเฉินกลับกันก่อนเถอะ พวกนายก็เลิกบีบคั้นพวกเขาได้แล้ว ดีมั้ย”
เฉินซิงหรูรีบบอก
“เธอหุบปากไปเลยนะ”
ซุนเหม่ยจวนพูดด้วยความเกรี้ยวกราด “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาสอดเรื่องของสามีฉัน ถ้าไม่ได้เห็นแก่ที่เธอเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของตงซวี่ เธอคิดว่าวันนี้เธอมีสิทธิ์มาที่นี่เหรอ”
ซางเสี่ยวเซียพูดถากถาง “เฉินซิงหรู เธอเลิกคิดว่าตัวเองสำคัญได้แล้ว ในสายตาพวกเรา เธอก็ไม่ต่างอะไรกับนังชั้นต่ำอย่างซ่งหวาหย่าหรอก”
“ใช่แล้ว ผู้หญิงชั้นต่ำสองคนอยู่ด้วยกัน ต่ำยิ่งกว่าต่ำ ฮ่าๆ” หวางหวนหัวเราะลั่น
หยางซงมองหยางเฉินและพูดด้วยความล้อเลียน “ไอ้หนุ่ม นายอย่าลืมนะว่าที่นี่ที่ไหน คนใหญ่คนโตเบื้องหลังเย่ชั่งเป็นเพื่อนรักของพ่อฉัน ถ้าวันนี้นายไม่ขอโทษ ไม่ต้องให้เราลงมือหรอก เย่ชั่งก็ไม่ปล่อยพวกนายไว้แน่”
หยางเฉินทนไม่ไหวมาสักพักแล้ว เขาหัวเราะเย็นๆ “นายมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าคนใหญ่คนโตเบื้องหลังเย่ชั่งเป็นเพื่อนรักของพ่อนาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...