และในตอนนั้นเอง ประตูของห้องส่วนตัวถูกเปิดออกจากด้านนอก ชายวัยกลางคนในชุดสูทคนหนึ่งเดินเข้ามา ด้านหลังมีคนหนุ่มที่ใส่ชุดสูทเหมือนกันคนหนึ่ง
และด้านหลังพวกเขามีผู้จัดการหวังที่ก่อนหน้านี้เอาเหล้ามาให้อยู่ด้วย
ทว่า ผู้จัดการหวังในตอนนี้หน้าตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ฮ่าๆ ผู้จัดการหวังมาแล้ว เรื่องสนุกจะเริ่มแล้ว” หยางซงหัวเราะลั่นพลางกล่าว
“ผู้จัดการหวัง คุณรีบบอกไอ้คนจนจอมเก๊กนี่หน่อว่าคุณหยางคือคนไหนกันแน่”
หยางซงเป็นฝ่ายเดินไปอยู่ตรงหน้าผู้จัดการหวังและถามด้วยรอยยิ้ม
“เพียะ!”
ผู้จัดการหวังตบไปที่หน้าของหยางซงอย่างแรง เขาพูดด้วยความโกรธจัด “แกเป็นใครวะ ไอ้โง่ที่ไหนเนี่ย บังอาจด่าคุณหยางว่าไอ้คนจน?”
“ผู้จัดการหวัง คุณตบผิดคนแล้ว ผมคือหยางซง ลูกชายของหยางเหว่ยแห่งตระกูลหยาง ในหมู่เพื่อนร่วมรุ่นมีผมคนเดียวที่แซ่หยางนะครับ”
หยางซงโดนตบจนมึนไปหมด มือหนึ่งเขากุมหน้า อีกมือชี้หยางเฉินและพูดกับผู้จัดการหวัง “ไอ้คนจนนี่บอกว่าเขาต่างหากคือคุณหยาง แถมยังพูดอย่างวางท่าว่าคนใหญ่คนโตที่อยู่เบื้องหลังเย่ชั่งก็คือเขาเอง”
“ไสหัวไปซะ!”
ผู้จัดการหวังถีบหยางซงออกและเดินมาอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน เขาคุกเข่าลงพื้นดัง “ตุ้บ” พูดด้วยหน้าตาผวา “คุณหยาง ขอโทษนะครับ ผมไม่น่าเปิดเผยตัวตนของคุณเลย ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตผมนะครับ ผมสำนึกแล้วจริงๆ”
นาทีนั้น ที่ตรงนี้เงียบสงัด ทุกคนดวงตาเบิกกว้างและจ้องหยางเฉินเขม็ง
ผู้จัดการหวังของเย่ชั่งอันเลื่องชื่อกลับคุกเข่าอยู่แทบเท้าหยางเฉิน เพื่อร้องขอชีวิต?
แถมยังบอกว่าเขาเปิดเผยตัวตนของหยางเฉิน?
หรือว่าที่ก่อนหน้านี้ผู้จัดการหวังเชิญพวกเขามาที่ห้องราชาและนำไวน์ชั้นสูงมาให้สองขวดนั้นเพราะหยางเฉิน?
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็หมายความว่าหยางเฉินคือคนใหญ่คนโตที่อยู่เบื้องหลังเย่ชั่งน่ะสิ
“ตุ้บ!”
หลังจากนั้น เฉินเห้าและเฉินอิงเหาก็คุกเข่าลงกับพื้น พร้อมพูดด้วยสีหน้าแตกตื่น “คุณหยาง พวกเราดูแลไม่ได้เรื่องเองครับ ถึงได้เกิดเรื่องที่เปิดเผยตัวตนของคุณ คุณหยางโปรดลงโทษด้วยครับ!”
“ต่อให้ฆ่าผม ผมก็จะไม่ว่าอะไรเลยครับ ขอเพียงคุณหยางให้โอกาสตระกูลเฉินอีกครั้ง” เฉินเห้าแสดงเจตนา
เฉินอิงเหาก็รีบบอก “คุณหยางครับ ถ้าจะฆ่าคุณฆ่าผมเถอะครับ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผม”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเห้าและเฉินอิงเหา ทั้งหมดถึงสังเกตเห็นสองคนนี้
นึกไปถึงเมื่อกี้ ผู้จัดการหวังตามสองคนนี้เข้ามา เฉินเห้าแทนตัวเองว่าคนตระกูลเฉิน และวันนี้ตระกูลที่เข้ามาแทนตระกูลไช่ก็คือตระกูลเฉิน
นาทีนี้ พวกเพื่อนร่วมรุ่นของซ่งหวาหย่าต่างแข็งทื่ออยู่ที่เดิม
โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงคำพูดดูถูกเหยียดหยามที่พวกเขาพูดกับหยางเฉินและซ่งหวาหย่า บัดนี้พวกเขารู้สึกหนาวเหน็บถึงกระดูก ขาสั่นไปหมด
หยางเฉินเอ่ยเรียบๆ “พวกนายไม่ได้ทำอะไรผิด ลุกขึ้นเถอะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน พวกเฉินเห้าต่างรู้สึกเหมือนฝันไป ทีแรกพวกเขาคิดว่าหยางเฉินจะบันดาลโทสะเพราะเรื่องนี้ และไม่ให้ตระกูลเฉินแทนที่ตระกูลไช่อีกต่อไป คิดไม่ถึงว่าหยางเฉินไม่มีทีท่าจะตำหนิพวกเขาเลย
“ขอบคุณคุณหยางครับ ขอบคุณคุณหยาง”
เฉินเห้ารีบกล่าวขอบคุณและเป็นคนแรกที่ลุกขึ้น จากนั้นเฉินอิงเห้าก็ลุกตาม
ผู้จัดการหวังลุกขึ้นคนสุดท้าย เขายืนอยู่ด้านหลังเฉินเห้าและเฉินอิงเหาด้วยท่าทีระมัดระวัง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
“เสี่ยวหย่า หยางเฉินเป็นคนใหญ่คนโตเบื้องหลังเย่ชั่งจริงๆเหรอ”
เฉินซิงหรูถามด้วยสีหน้าตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...