ตอน บทที่ 678 คุยเรื่องเลวร้ายกันอีก จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 678 คุยเรื่องเลวร้ายกันอีก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ฉินซีส่งรูปมาให้หยางเฉินซึ่งมีถึงสิบกว่าใบ แต่ละใบมีเนื้อเรื่องที่เห็นได้ชัดเจนมาก ล้วนเป็นภาพของหยางเฉินอยู่กับซูซาน
ภาพแต่ละภาพก็มีมุมกล้องระดับมืออาชีพ ดูเห็นได้ถึงความสัมพันธ์ที่สนิทสนมของทั้งสอง
นี้ยังไม่ใช่จุดสำคัญ จุดสำคัญยังอยู่ในอีกหลายภาพ มีภาพที่หยางเฉินซบอยู่บนตัวซูซาน ถูกหิ้วปีกเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่ง
ภาพเหล่านี้ เป็นภาพที่ฉินซีส่งเข้ามาเมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมานี้ นอกจากภาพเหล่านี้แล้ว ก็ไม่มีข้อความฝากใด ๆ อีก
หยางเฉินร้อนรนอย่างมากขึ้นมาทันที ก็ไม่สนใจว่าจะเป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว ต่อโทรศัพท์ตรงไปหาฉินซี แต่โทรศัพท์ที่โทรเข้าไปอยู่ในสถานะปิดเครื่อง
เขารีบต่อสายเข้าวีดีโอคอล แต่ยังไม่ทันได้กดเรียกออก ก็มีการแจ้งเตือนมา ฝ่ายตรงข้ามได้บล็อกเขาไปแล้ว
ต่อให้เผชิญหน้ากับกองทัพข้าศึกนับพันนับหมื่น หยางเฉินไม่เคยมีการหวาดหวั่น แต่ตอนนี้ติดต่อโทรศัพท์กับเฉินซีไม่ได้ เฉินซีกลับให้รู้จักถึงความกลัวแล้ว
ตั้งแต่ฉินซีเริ่มส่งรูปภาพเหล่านั้นมา ก็เดาได้เลยว่าฉินซีโกรธอยู่ขนาดไหน ตอนนี้ปิดเครื่องทิ้งอีก ทั้งตัดเส้นทางติดต่อหมด แสดงออกชัดเจนว่าโกรธจัด
“มันเป็นใครกัน?”
หยางเฉินขบฟันพูด
ตอนนี้ติดต่อฉินซีไม่ได้ แน่นอนเพราะหล่อนกำลังโมโหขึ้นสมอง แต่ที่ทำให้หยางเฉินโกรธแค้นนั้น คือใครกันที่แอบถ่ายรูปของเขากับซูซาน?
ครั้งนั้นที่ฉินซีเพิ่งกลับจากเยี่ยนตูมาถึงเจียงโจว เพราะหลังจากหยางเฉินไปที่ตระกูลอวี๋เหวิน รู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกในตระกูลอวี๋เหวิน รู้สึกหดหู่เป็นเอามาก จึงได้ไปที่บาร์เหล้า
แต่คิดยังไงก็ไม่ถึงว่า ตัวเขาเองจะพบเจอซูซานที่นั่นได้ไง ที่สำคัญคือตัวเองเมา สุดท้ายถูกซูซานหามส่งไปที่โรงแรม
มาคิดได้ตอนนี้ ก็ให้รู้สึกเสียใจเป็นนักหนา
“เพราะเมาเหล้าทำให้เสียการจริง ๆ!”หยางเฉินรู้สึกผิดในตัวเองเป็นอย่างมาก
เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วโทรศัพท์ออกไปทันที “จองตั๋วเครื่องบินกลับเจียงโจวเดี๋ยวนี้ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”
พอตัดสายโทรศัพท์ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาอีก
“เสี่ยวยี!”
โทรศัพท์จากเสี่ยวยี หยางเฉินรับขึ้นมาทันทีเดี๋ยวนั้น
“หยางเฉิน คุณมันคนสารเลว ฉันมองคุณผิดไปจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าคุณกับซูซานหญิงแพศยาคนนั้น ไปมั่วเป็นคู่ขากันอยู่ได้จริง ๆ!”
“ตั้งแต่แรกที่เห็นหล่อนควงแขนกับคุณที่เมืองเอก ฉันก็น่าจะไม่เชื่อคุณได้แล้ว!”
“คุณคงคิดว่าเดี๋ยวนี้คุณแน่มากแล้ว ขนาดอยู่ในเยี่ยนตู ก็ไม่มีสักกี่คนที่กล้าไปตอแยกับคุณ คุณเลยคิดรังแกพี่สาวฉันยังไงก็ได้งั้นหรือ?”
“หยางเฉิน ฉันเสียใจจริง ๆ ที่เทิดทูนคุณ มองคุณเป็นไอดอลในการเลือกคู่ของตัวเอง คิดไม่ถึงว่าคุณนั้นก็พวกผู้ชายสารเลวที่เอาผู้หญิงมั่วไปหมด”
หยางเฉินไม่มีโอกาสได้ชี้แจงใด ๆ เลย ฉินอีหลับหูหลับตาด่าใส่เอาใส่เอา จบแล้วก็ตัดสายโทรศัพท์
“ฮัลโหล โหล โหล!”
หยางเฉินตะโกนไปหลายคำ ได้ยินแต่สัญญาณสายไม่ว่างในโทรศัพท์ ไม่มีเสียงตอบรับของฉินยี
เขาแม้จะโกรธแค้นคนที่เล่นงานเขาข้างหลัง แต่ก็อยากรู้ว่าใครกันแน่ที่จ้องเล่นงานเขา แต่ก็ต้องยอมรับว่าร้อนใจไปตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะดับไฟโกรธของฉินซีได้ยังไง
เขาก็จึงได้พยายามต่อโทรศัพท์ไปให้ฉินยีอยู่อีกหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ถูกฉินยีตัดสาย
ติดต่อกันห้าหกครั้งที่ฉินยีตัดสาย สุดท้ายในครั้งสุดท้ายนี้ฉินยีก็ได้รับสาย “หยางเฉิน คุณรู้ไหมว่าพี่สาวฉันตอนนี้ทุกข์ระทมขนาดไหน?”
“เธอนั่งร้องไห้มาเป็นชั่วโมงแล้ว ร้องจนตาบวมแล้ว”
ฉินซียิ้มแห้ง ๆ พูดว่า “ซูซานเป็นเพื่อนซี้ของพี่ เขากับหยางเฉินก็สนิทกันมากอยู่แล้ว พวกเขาไม่มีทางทรยศฉันอยู่แล้ว”
“ส่วนที่เธอห่วงว่าหยางเฉินจะถูกพวกตระกูลมหาเศรษฐีทั้งหลายนั้นแย่งเอาไปเป็นเขย จริง ๆ แล้วยิ่งไม่มีอะไรต้องคิดมาก ถ้าหยางเฉินเป็นคนมีความคิดเป็นแบบนั้น ป่านนี้น่ากลัวไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นนานแล้วมั่ง?”
“ห้าปีที่ผ่านมา ฉันใช้ชีวิตที่ลำบากมาก แต่เขาจะอยู่ได้อย่างดีหรือ?เชื่อว่าก็ไม่ดีแน่!”
“หากไม่ใช่ได้ทุ่มเทลงทุนด้วยเลือดเนื้อ มีหรือจะได้รับผลอย่างทุกวันนี้?ฉันเชื่อใจเขา!”
ฉินซีพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
“ฉันก็รู้ว่าเขาไม่ทรยศพี่แน่ แต่ใครจะรับประกันได้ว่า จะไม่มีผู้หญิงอื่นใช้เล่ห์เพทุบายกับเขา?”
ฉินยีปริปากพูด “พี่ลองคิดดู ไอ้ตัวนิรนามที่ส่งรูปภาพมาให้พี่นั่น มันจะเป็นใคร? แล้วมุ่งหวังอะไร?”
“นี่มันต้องเป็นผู้หญิงที่อยากได้ตัวหยางเฉินชัด ๆ เพื่อหวังให้พวกพี่แตกกัน จึงเจาะจงส่งภาพพวกนี้มาให้”
“ฉันยังคิดว่า ภาพพวกนี้ ก็นังซูซานนั่นแหละกำกับเองแสดงเอง หล่อนคิดจะแย่งหยางเฉินไปจากพี่!”
ฉินซีพูดด้วยสีหน้าเสียไม่ได้ “เสี่ยวอี ซูซานเป็นเพื่อนซี้ของพี่นะ หล่อนเป็นคนยังไง พี่รู้ดี หล่อนไม่มีทางจะทำเรื่องแบบนี้แน่นอน เธอไม่ต้องคิดมากไปเลย”
“นี่ก็แค่เพียงฉันเดาเองไม่ได้รึ?”
ฉินยีค้อนใส่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมามอง พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เจ้าสารเลวหยางเฉินนี่ ดันปิดโทรศัพท์ไม่ยอมติดต่อกับฉันเลยรึ?”
“ผู้ชาย มันไม่มีดีสักคนจริง ๆ ไม่ทันไรก็ปล่อยเรื่องทิ้ง เจ้าหยางเฉิน ฉันขอประณามแก!”
ฉินยีพูดเสียงฮึดฮัด
ยังนั่งหงุดหงิดร้อนใจอยู่ที่เยี่ยนตู หยางเฉินจู่ ๆ ก็จามออกมา “ใครกำลังนินทาข้าอยู่(วะ)?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...