ในไม่ช้า ฉินซีก็ถูกคนนำตัวลงมาจากในรถ
ในเวลานี้ ฉินซีก็ค่อยๆมีสติจากนั้นก็ได้ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมาและพบว่าตนอยู่ในโรงเรียนร้างแห่งหนึ่งจึงรู้สึกตกตะลึงในทันใด
“พี่ลือ หล่อนพาฉันมาที่นี่ทำไมกัน?”
ฉินซีไม่ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ของตนเลยแม้แต่น้อยพร้อมกับมองไปที่พี่ลือด้วยความประหม่าเป็นกังวล
ลือหยิงทำเสียงเยาะเย้ย “ยัยสารเลว เธออย่ามาเรียกฉันว่าพี่สาวเชียวนะ เพราะว่าเธอไม่คู่ควร!”
บึม!
สมองของฉินซีนั้นอื้ออึงไปหมด ได้แต่มองไปที่ลือหยิงด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ
ก่อนหน้านี้ที่ร้านอาหาร ด้วยการแสดงออกของลือหยิงที่ทำตัวเป็นมิตรรวมกับความรู้ของหล่อน มันได้ทำให้ฉินซีรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมากและคิดว่าตนได้เจอพี่สาวที่รู้ใจเสียแล้ว
แต่ตอนนี้ลือหยิงกลับเป็นคนพาเธอมาที่โรงเรียนร้างด้วยตนเองและประเด็นสำคัญเลยก็คือยังมีคนอยู่อีกสามคนที่เธอไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลยสักนิดเดียว
โดยเฉพาะชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าเหี้ยมโหด ดูทนแทบไม่ไหวที่จะกลืนกินฉินซีเข้าไป
ต่อให้ฉินซีจะโง่แค่ไหนก็ต้องตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ตนถูกลักพาตัวมานี่เอง
“พวกแกเป็นใครกัน?พาฉันมาที่นี่ทำไม?”
ฉินซีทำได้เพียงอดทนต่อความกลัวที่อยู่ภายในจิตใจพร้อมกับกัดฟันถามออกมา
“เพี๊ยะ!”
ลือหยิงตบเช้าไปที่ใบหน้าของฉินซีพร้อมกับตะโกนออกมาว่า “หุบปากซะ พูดออกมาแม้แต่คำเดียวฉันจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้เลย!”
ฉินซีตกใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา ความรู้สึกผิดอยู่ภายในใจของเธอ
ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตนที่โง่เกินไป เจอลือหยิงเพียงแค่ครั้งเดียวแต่กลับเชื่อใจอีกฝ่ายไปแล้ว โง่เขลาที่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นพี่สาวที่แสนดี
แต่หากเธอระมัดระวังตัวแม้น้อยนิด เธอก็คงไม่ต้องถูกจับมาอยู่ในที่แห่งนี้
“ผู้นำ หน้าที่ของฉันนั้นสำเร็จแล้ว หากไม่มีเรื่องอะไรอื่นล่ะก็ฉันต้องขอตัวก่อน”
ลือหยิงไม่ต้องการที่จะผูกตนเองกับเรื่องนี้มากนักจึงได้ตัดสินใจจากไป
หลีเจ๋อเหลือบมองไปที่หล่อนเบาๆ “ไปเถอะ”
“ปัง!”
เพียงแต่เมื่อลือหยิงกำลังหันตัวกลับไปนั้นก็ได้มีเสียงปืนดังขึ้นมา ร่างของหล่อนล้มลงกับพื้น
“อ่า…”
ฉินซีเห็นกับตาตัวเองว่าลือหยิงถูกปืนยิงและล้มลงไปกับพื้น เธอตกตะลึงในทันใดและกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
“ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องตาย!”
ดวงตาของหลีเจ๋อเต็มไปด้วยความโหดร้าย ปากกระบอกปืนที่อยู่ในมือของเขานั้นยังมีเขม่าควันอยู่เลย
เซวหยวนป้าได้กำชับงานไว้เป็นพิเศษว่างานนี้จะต้องทำให้สะอาดหมดจน มิเช่นนั้นมันอาจจะทำให้หลีเจ๋อตายได้
“ได้โปรดปล่อยฉันไป ดีไหมคะ?สามีของฉันเป็นประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เขามีเงิน ขอแค่เพียงคุณปล่อยฉันไป อยากได้เงินเท่าไหร่เขาก็จะเต็มใจให้คุณ”
เมื่อฉินซีเห็นว่าหลีเจ๋อมองมาที่ตน เธอจึงรีบพูดออกมาไปอย่างลนลาน
“ฉันรู้ว่าสามีของเธอนั้นเป็นใคร ไม่ต้องมาแนะนำให้ฉันฟังหรอก ฉันจะบอกอะไรเธอให้ว่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอในวันนี้ก็เป็นเพราะสามีเลวระยำของเธอนั่นแหละ!”
หลีเจ๋อกัดฟันพูด “เป็นเขาที่ทำลายตระกูลหลีของฉัน ดังนั้นเขาต้องชดใช้มันด้วยชีวิต!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินซีก็ดูตกใจเป็นอย่างมาก
หลีเจ๋อที่เห็นต่างจึงได้ยิงปืนฆ่าลือหยิงโดยตรง หากวันนี้เขามีเจตนาฆ่าที่รุนแรงต่อหยางเฉินและหากหยางเฉินเข้ามาล่ะก็เกรงว่าคงได้ตายสถานเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ตนอยู่ภายใต้หลีเจ๋อ หากอีกฝ่ายใช้ประโยชน์จากชีวิตตนไปบังคับเขา หยางเฉินคงทำได้แค่เพียงยอมจำนนเท่านั้น
ยิ่งคิดฉินซีก็ยิ่งเป็นกังวล
“อย่างไรก็ตามก่อนที่สามีของเธอจะมา เรามาเล่นเกมกันหน่อยดีกว่า!”
หลีเจ๋อมองไปที่ใบหน้าอันบอบบางของฉินซี มันทำให้รู้สึกได้ถึงความโกรธที่ชั่วร้ายอยู่ภายในใจที่ค่อยๆพุ่งทะยานขึ้นมา ดวงตาแฝงไปด้วยความชั่วร้าย
ด้วยแววตาที่ชั่วร้ายของอีกฝ่าย ฉินซีจึงรู้ได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะทำ ดังนั้นเธอจึงได้แต่หันหลังและรีบวิ่งหนีไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...