วันนี้มีตระกูลมหาเศรษฐีมากมายมาให้การช่วยเหลือฉินซี อีกทั้งยังเห็นหยางเฉินต่อสู้กับคนแข็งแกร่งชั้นยอดอีกต่างหาก ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนต่างตกตะลึง
ใบหน้าของอวี๋เหวินเกาหยางนั้นแสดงความเศร้าเสียใจ เมื่อคิดว่าหยางเฉินนั้นเป็นคนของตระกูลอวี๋เหวิน ในใจของเขาก็เป็นทุกข์
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ไล่แม่ของหยางเฉินและหยางเฉินออกจากเมืองเยี่ยนตู
ยังไงซะ เขาก็ทำไปเพื่อปกป้องแม่ของหยางเฉินและหยางเฉินอยู่ดี
เย่ม่านที่ดูเป็นกังวลหยางเฉินมาตลอด ในเวลานี้ดวงตากลับถูกความตกใจเข้ามาแทนที่
แม้ว่าหล่อนจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉินแต่หล่อนก็คิดไม่ถึงว่าความแข็งแกร่งจะมีมากถึงขนาดนี้
ความแข็งแรงที่ชายแข็งแกร่งสองคนได้แสดงออกมานั้นก็ถือว่าได้แซงหน้าคนแข็งแกร่งจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูไปหมดแล้ว
แต่ต่อหน้าของหยางเฉิน ยังไม่ทันที่ชายแข็งแกร่งทั้งสองคนจะได้ลงมือโจมตี แม้แต่เสื้อของหยางเฉินก็ยังไม่ทันได้จับก็ถูกหยางเฉินฆ่าให้เสียแล้ว
“พี่เฉิน วางใจได้เลย พี่สะใภ้หมดสติไปเพราะว่าเธอตกใจกลัวก็เท่านั้น”
เมื่อเห็นหยางเฉินมองไปที่ฉินซีอย่างกังวล หม่าชาวจึงรีบก้าวข้างหน้าเพื่อพูดปลอบในทันที
หยางเฉินพยักหน้า “กลับไปเถอะ!”
ฉินซีไม่ได้เป็นอะไร เธอแค่ตกใจกลัวจนหมดสติไปก็เท่านั้น
เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็เห็นหยางเฉินยืนอยู่ที่ด้านหน้าของเตียงคนไข้ ทันใดนั้นเธอร้องไห้ออกมาราวกับสายฝนและเข้าไปในอ้อมแขนของหยางเฉินพร้อมกับร้องไห้ออกมาเสียงดัง
หยางเฉินกอดภรรยาของตนอย่างเงียบ ๆ แต่เจตนาฆ่าในดวงตาของเขากลับยิ่งแข็งขึ้นทุกที
ครั้งนี้ฉินซีนั้นเกือบจะลำบากเพราะตนแล้ว ตอนนี้แค่คิดก็รู้สึกกลัว
และสรุปได้ว่ามีตระกูลเซวอยู่เบื้องหลังทั้งหมด
มิเช่นนั้น ด้วยกำลังของตระกูลหลีเองคงไม่กล้าทำเช่นนี้แน่ๆ
ตกกลางคืน หยางเฉินได้รับโทรศัพท์จากหม่าชาว
“พี่เฉิน!ไม่พบคนของตระกูลเซวเลยครับ!”
หม่าชาวพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
หยางฉินนั้นคาดเดาผลลัพธ์แบบนี้มาก่อนแล้ว เมืองเยี่ยนตูนั้นมีขนาดใหญ่ ต่อให้เขาจะใช้คนจำนวนมากแค่ไหนแต่ก็ง่ายต่อตัวตนของตระกูลเซวที่จะซ่อนตัวอยู่ในเมืองเยี่ยนตูแห่งนี้
“ดี ฉันรู้แล้ว!”
หยางเฉินพูดเบาๆ
เป็นระยะเวลาสามวันติดที่เมืองเยี่ยนตูมีแต่ความวุ่นวาย
ตระกูลมหาเศรษฐีหลายตระกูลในเมืองเยี่ยนตูต่างพากันหาคนของตระกูลเซวแต่ก็ไม่มีใครพบอะไรสักอย่าง
ที่เขตชานเมืองของเมืองเยี่ยนตู ภายในคฤหาสน์หลังหนึ่ง
เซวหยวนป้าคล้องมือไว้ที่ด้านหลังพร้อมกับเดินไปมาในห้องด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
เขาติดอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาสามวันติด แต่ในตอนนี้แม้แต่ออกจากเมืองเยี่ยนตูเขาก็ไม่สามารถทำได้
สายลับของตระกูลเซวรายงานว่าในตอนนี้เกือบทั้งเมืองของเยี่ยนตูกำลังตามหาคนของตระกูลเซวอยู่
สิ่งนี้ทำให้เซวหยวนป้ารู้สึกอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก เขาเป็นเจ้าชายสามของตระกูลเซวและยังเป็นลูกชายคนโปรดของผู้นำตระกูลเซวอีกต่างหาก มีโอกาสสูงมากที่เขาจะได้สืบทอดบัลลังก์นี้
ด้วยตัวตนเช่นนี้จึงทำให้เขาต้องลำบากอยู่ในเมืองเยี่ยนตูในตอนนี้
“ไอ้ระยำเอ๊ย!”
เซวหยวนป้ากัดฟันพร้อมกับพูดว่า “หยางเฉิน นึกไม่ถึงเลยว่าแกจะกล้ามายุ่งกับตระกูลเซว ไม่รู้ซะแล้วว่าคำว่าตายมันสะกดยังไงสินะ?”
เขาเองก็เพิ่งได้รับข่าวมาว่าอุตสาหกรรมของตระกูลเซวที่อยู่ในเมืองเยี่ยนตูนั้นได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ไม่โดนยึดทรัพย์ บริษัทก็ต้องจะล้มละลายหรือไม่ก็จะโดนคนรับผิดชอบในบริษัทหลบหนีฉ้อโกงเงินไป
“หยางเฉิน ในเมื่อแกรนหาที่ตายก็จะมาโทษฉันไม่ได้นะ!”
ความเย็นยะเยือกแวบผ่านเข้ามาในดวงตาของเซวหยวนป้าจากนั้นก็ได้โทรออกไป “ภายในสามวัน ฉันต้องการเห็นข่าวการล้มละลายของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป!”
เยี่ยนเฉินกรุ๊ป ห้องสำนักงานของประธาน
หยางเฉินนั่งอยู่หน้าโต๊ะ บนโต๊ะมีเอกสารมากมายวางอยู่และในขณะนี้เขากำลังตรวจสอบหาความจริงอยู่
เมื่อเห็นว่าถึงเวลาเลิกงานแล้ว ลั่วปิงจึงรีบเข้ามาที่ห้องทำงานของหยางเฉินอย่างตื่นตระหนก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...