The king of War นิยาย บท 743

สรุปบท บทที่ 743 เกิดเรื่องแล้ว: The king of War

สรุปเนื้อหา บทที่ 743 เกิดเรื่องแล้ว – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บท บทที่ 743 เกิดเรื่องแล้ว ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ลั่วปิงแค่โทรศัพท์กริ๊งเดียว ไม่นาน ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา

“ท่านกรรมการจิน แย่แล้วครับ เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ!”

สีหน้าของบริหารระดับสูงตื่นตระหนก พูดเสียงดังด้วยความตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

ท่านกรรมการจินมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนักจึงรีบถามขึ้นว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? รีบบอกฉันมา!”

“ประธานหลิว ประธานฉี ประธานเฟิ๊ง และผู้จัดการลูกน้องของพวกเขาต่างพากันลาออกแล้วครับ นี่คือจดหมายลาออกของพวกเขาครับ!”

ผู้บริหารระดับสูงยื่นจดหมายลาออกปึกเล็กส่งให้ท่านกรรมการจิน

เมื่อท่านกรรมการจินเห็นจดหมายลาออกมากมายขนาดนี้ เขาทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรงด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ

เพราะว่าผู้บริหารของบริษัทที่ลาออกทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นคนที่กุมความลับของบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลง ยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา

สามารถพูดได้ว่า ถ้าไม่มีผู้บริหารระดับสูงเหล่านี้ก็ไม่มีบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงในวันนี้

ราคาหุ้นของบริษัทดิ่งลงเพราะเจตนาร้าย บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงก็ยังพอจะมีทางรอด แต่การขาดบุคลากรที่มีความสามารถเหล่านี้นั้นสำคัญที่สุด นี่ถือได้ว่าเป็นการสิ้นสุดของบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงอย่างแท้จริง

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลง และผู้บริหารระดับสูงหลายคนก็มาลาออกกะทันหันแบบนี้ บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลง ยังจะรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างไร?

“เพราะแก!”

ท่านกรรมการจินลุกขึ้นทันใด ชี้นิ้วไปที่หยางเฉิน พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือแกเหรอ?”

“ดูเหมือนว่าท่านกรรมการจินจะยังไม่เชื่อ?”

หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นให้ฉันทำมากกว่านี้ให้คุณดูไหม?”

ลั่วปิงหัวเราะเยาะเย้ยแล้วพูดว่า “จินจื้อเผิง ผมแนะนำให้คุณรีบยกบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลง ให้โดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้น บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงจะต้องล้มละลายแน่ และคุณในฐานะประธานกรรมการก็ต้องเผชิญกับหนี้ก้อนโตเช่นกัน”

“พวกแกมีเจตนาร้ายทำให้ราคาหุ้นของบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงดิ่งลง มันจะมากเกินไปแล้ว ฉันจะฟ้องพวกแก!”

จินจื้อเผิงแผดเสียงด้วยความโกรธ

“มากไปเหรอ?”

หยางเฉินหัวเราะเยาะ “ตอนที่คุณทำลายความร่วมมือกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเพียงฝ่ายเดียว ทำไมถึงไม่รู้ว่านั่นมันก็มากเกินไปล่ะ?”

“ตอนนี้พูดกับผมว่ามันมากเกินไป? คุณเนี่ยนะ มันคู่ควรเหรอ?”

“ในเมื่อคุณอยากจะฟ้องพวกเรา งั้นก็ไปฟ้องสิ ผมก็อยากเห็นเหมือนกันว่าภายในสามวันคุณจะทำอะไรพวกเราได้?”

พูดจบ หยางเฉินก็ยืนขึ้น “พวกเรากลับ!”

ลั่วปิงเหลือบมองจินจื้อเผิงอย่างเย็นชาและเย้ยหยัน “ท่านกรรมการจิน ผมจะรอข่าวตลาดหุ้นเปิดพรุ่งนี้เช้าและหุ้นของบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงร่วงลงจนถึงขีดสุด!”

มองหยางเฉินและลั่วปิงที่เดินจากไป ใบหน้าของจินจื้อเผิงเต็มไปด้วยความโกรธ

ไม่นาน เขาก็โทรศัพท์ “ประธานเซว เกิดเรื่องขึ้นกับบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงแล้ว คุณจะไม่ยุ่งไม่ได้นะ!”

“ไอ้คนไร้ประโยชน์!”

อีกฝ่ายส่งเสียงเย้ยหยัน “แค่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปยังจัดการไม่ได้ แล้วคุณจะคู่ควรที่จะมาติดตามตระกูลเซวเหรอ?”

ใบหน้าของจินจื้อเผิงเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธ แต่ก็รู้ฐานะของอีกฝ่ายดีจึงทำได้เพียงระงับความโกรธเอาไว้

“สบายใจได้ มีฉันอยู่ บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงไม่เป็นอะไรแน่!”

หลังจากเงียบไปนาน อีกฝ่ายก็พูดขึ้นทันใด

ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของจินจื้อเผิงก็เต็มไปด้วยความดีใจและรีบพูดขึ้นว่า “ขอบคุณประธานเซว!ขอบคุณประธานเซว!”

อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินและลั่วปิงออกจากบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงไปแล้ว

“ท่านประธานครับ ท่านคิดว่าจินจื้อเผิงจะยอมยกบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงให้พวกเราไหมครับ?”

ลั่วปิงถามขึ้นระหว่างเดินทางกลับ

“บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงทั้งหมดมูลค่ากว่าสามแสนล้าน ไม่ถึงสองวันก็สูญเสียไปกว่าสองแสนล้าน คุณบอกผมที ผมจะเอาอะไรมาทานไหว?”

น้ำเสียงของจินจื้อเผิงไม่ดีนัก ไม่ใช่ไม่กลัวตระกูลเซวแต่เขาถูกบีบให้ร้อนใจ

“ไอ้สารเลว! แกกล้าใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับฉันเหรอ?แกอยากตายหรือไง ?”

ประธานเซวตะโกนขึ้นทันใด

เมื่อได้ยินเสียงอำมหิตของประธานเซว จินจื้อเผิงถึงได้สติราวกับตื่นจากความฝัน อีกฝ่ายคือ ตระกูลเซวหนึ่งในตระกูลเดอะคิงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นบุคคลตัวเล็กๆ ในตระกูลเซว แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้ตำหนิเขาได้

“ประธานเซว ขอโทษครับ!ผมขอโทษ! ผมก็ร้อนใจ อย่าได้ถือสาผมเลยครับ!” จินจื้อเผิงรีบพูดขอโทษ

ประธานเซวพูดอย่างเย็นชา “คุณไม่ต้องกังวลไป คุณแค่ต้องสู้กับเยี่ยนเฉินกรุ๊ปอย่างสุดกำลัง แค่ต้องทำให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปพังไม่เป็นท่า ตระกูลเซวจะชดใช้ให้เป็นสองเท่าที่บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงสูญเสียไป”

จินจื้อเผิงรีบพูดว่า “ขอบคุณครับประธานเซว!ขอบคุณครับประธานเซว!”

หลังจากวางโทรศัพท์ ใบหน้าของจินจื้อเผิงเต็มไปด้วยความโกรธ เขาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะอย่างแรงและแผดเสียงพูดด้วยความโกรธ “ตระกูลเซว คิดว่าฉันโง่หรือไง ?”

“บริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงยังไงก็ทนได้ไม่ถึงสามวัน เมื่อบริษัทวัสดุก่อสร้างเจิ๊นหลงต้องล้มละลายจริงๆ ตระกูลเซวยังจะมองมาที่ฉันไหม ?”

จินจื้อเผิงไม่ใช่คนโง่ แต่เป็นคนที่ฉลาดมาก ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจความร้ายกาจที่แฝงอยู่

“ท่านกรรมการจิน แย่แล้วครับ!แย่แล้วครับ! ผู้อำนวยการหลิวโมโหแล้วครับ เขายื่นจดหมายจากสำนักงานทนายความในนามธนาคารเยี่ยนตู กำหนดให้พวกเราจ่ายหนี้คืนเมื่อวานนี้ ตอนนี้ไม่ได้คืนแม้แต่หยวนเดียว บอกว่าจะยื่นเรื่องระงับบัญชีบริษัทเราครับ”

ในเวลานี้เอง ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว

ตอนนี้เองที่จินจื้อเผิงถึงได้ตระหนักว่า ตระกูลเซวไม่สามารถพึ่งพาได้ ไม่เช่นนั้น ก็คงสามารถจัดการธนาคารเยี่ยนตูได้แล้ว

“ใช่แล้ว นามบัตร!”

จู่ๆ เขาก็นึกได้ ก่อนที่หยางเฉินจะกลับไปเมื่อวานนี้ เขาจงใจทิ้งนามบัตรไว้ แต่เขาทิ้งถังขยะไปแล้ว

เขารีบคว่ำถังขยะลงบนพื้นควานหานามบัตรของหยางเฉินในกองขยะนั้นด้วยตัวเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War