“อู๋เทียนโย่วฉันจะเป็นแฟนกับใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!”
เซี่ยเหอพูดด้วยความโมโห “จะว่าไปแล้ว หยางเฉินน่ะเป็นแฟนฉัน ไม่ใช่คนขับรถเถื่อนอย่างที่คุณบอก”
อู๋เทียนโย่วหัวเราะ “เซี่ยเหอ ผมไม่ใช่คนโง่นะ ผมรู้ตั้งนานแล้วว่าคุณมีแฟนหรือเปล่า”
“หนังเรื่องนี้ที่พวกเรากำลังถ่ายกัน ถึงแม้ว่าจะยังถ่ายไม่เสร็จ แต่ก็ได้รับความนิยมสูงมากแล้ว”
“ผมกล้ารับประกันเลยว่า หนังเรื่องนี้จะต้องดังมากแน่ๆ ถึงตอนนั้นค่าตัวของเราจะสูงขึ้นเป็นเท่าตัว”
“คุณคิดว่านักแสดงสาวสวยมากความสามารถที่มีค่าตัวนับร้อยล้านกับไอ้โง่ยาจกที่ขับรถ Passat ราคาสองแสนกว่าจะมาเกี่ยวข้องกันได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินคำพูดของอู๋เทียนโย่วหยางเฉินถึงรู้ว่าทำไมจู่ๆ เซี่ยเหอถึงควักเงินหนึ่งล้านออกมาได้ง่ายดายนัก
ที่แท้ตอนนี้เธอก็เป็นนักแสดงแล้ว
แถมยังได้ถ่ายหนังแล้วเรื่องหนึ่งด้วย แต่ด้วยระดับความสวยอย่างเซี่ยเหอ การได้เป็นดารามันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร
ถ้าอย่างนั้นอู๋เทียนโย่วคนนี้ ก็เป็นนักแสดงเหมือนกันงั้นหรือ?
“ฉันจะคบกับใคร มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยล่ะ?”
เซี่ยเหอโกรธมาก พูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “อย่าว่าแต่หยางเฉินไม่ใช่คนขับรถเถื่อนเลย ต่อให้เขาจะเป็นจริงๆ ฉันก็ไม่รังเกียจเขา”
“อู๋เทียนโย่วฉันจะบอกคุณให้นะ ต่อให้ระหว่างฉันกับหยางเฉินมันเป็นไปไม่ได้ ฉันก็ไม่มีทางคบกับคุณ”
ดวงตาของอู๋เทียนโย่วหรี่ลงเล็กน้อย ทีแรกเขายังสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยเหอกับหยางเฉิน แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเชื่อแล้ว
เพราะนับตั้งแต่เขารู้จักกับเซี่ยเหอมานาน นี่คือครั้งแรกที่เซี่ยเหอโมโหใส่เขา
อีกอย่างพูดแบบนี้เหมือนไม่ให้เกียรติกันเลยสักนิด
การกระทำของเซี่ยเหอเห็นได้ชัดว่าต้องการปกป้องหยางเฉิน ซึ่งทำให้อู๋เทียนโย่วรู้สึกอึดอัดมาก
“เซี่ยเหอ คุณอย่าลืมนะว่าผมเป็นพระเอกของหนังเรื่องนี้ ส่วนคุณน่ะเป็นแค่นางรอง”
“ถ้าทำให้ผมไม่พอใจ ด้วยเส้นสายของผม การเปลี่ยนตัวนางรองที่ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ มันเป็นเรื่องง่ายๆ เลย”
อู๋เทียนโย่วทำหน้าขู่ แววตาเต็มไปด้วยความนึกสนุก
ดวงตาของเซี่ยเหอแดงก่ำ ริมฝีปากแดงเม้มแน่น เธอรู้ว่าสิ่งที่อู๋เทียนโย่วพูดคือความจริง
ถึงอย่างไรหนังเรื่องนี้ก็เพิ่งจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำไปได้ไม่นาน ถึงแม้เธอจะเป็นนางรอง มีบทละครไม่เยอะ ถ้าต้องการจะเปลี่ยนตัวเธอจริงๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
หยางเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูท่าทางคุณจะเส้นใหญ่นะ?”
อู๋เทียนโย่วกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “จะบอกความจริงให้คุณฟังนะ ผมเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในสังกัดซิงเฉินมีเดีย คุณรู้ไหมว่าซิงเฉินมีเดียเป็นกิจการของใคร?”
“นั่นเป็นบริษัทการบันเทิงที่มีชื่อเสียงในประเทศ เป็นกิจการของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู”
“และซุนจื้อเจียวซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของซิงเฉินมีเดีย เป็นทายาทสายตรงของตระกูลซุน เธอเป็นพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของผม”
“แค่ผมพูดประโยคเดียวก็แบนเซี่ยเหอได้แล้ว ตอนนี้คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าผมเส้นใหญ่แค่ไหน?”
หยางเฉินมีสีหน้าตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าทั้งอู๋เทียนโย่วและเซี่ยเหอจะเป็นนักแสดงของซิงเฉินมีเดีย
ส่วนซิงเฉินมีเดีย ก่อนจะถึงวันนี้นั้นเป็นกิจการของตระกูลซุน
แต่ซุนซวี่นั้นไม่สามารถจ่ายเงินชดใช้ได้หนึ่งแสนล้าน ดังนั้นจึงยกซิงเฉินมีเดียให้เขา
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตอนนี้เขาต่างหากที่เป็นประธานของซิงเฉินมีเดีย
พอเห็นหยางเฉินไม่พูดอะไรเลย อู๋เทียนโย่วก็นึกว่าทำให้หยางเฉินกลัวได้สำเร็จ จึงพูดด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง “ไอ้หนุ่ม ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าผมเส้นใหญ่แค่ไหน?”
หยางเฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เส้นใหญ่น่ะใช่ แต่ถ้าเทียบกับผม ยังห่างไกลนัก”
ได้ยินดังนั้นอู๋เทียนโย่วก็ถึงกับอึ้งไป ครู่ใหญ่กว่าจะได้สติ เขาระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างทนไม่ได้
“น่าขำชะมัด เป็นคนขับรถเถื่อนแต่กล้าพูดกับผมแบบนี้ มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งกว่าผมงั้นเหรอ?”
อู๋เทียนโย่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้ความกล้ามาจากเหลียงจิ้งหรูเหรอ? ฮ่าฮ่า ตลกชะมัด!”
“อู๋เทียนโย่วหุบปากซะ! ห้ามมาดูถูกแฟนของฉัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...