เมื่อเห็นหมายเรียก สีหน้าของอวี๋เหวินปิงก็ซีดเผือดทันที เขาคิดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะสืบมาถึงตัวเขาได้เร็วขนาดนี้
“พวกคุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?”
หลังจากผ่านช่วงเวลาสั้นๆ ของความประหลาดใจ อวี๋เหวินปิงก็พูดอย่างโกรธเคือง “หลายวันมานี้ผมยังไม่ได้ออกไปจากตระกูลอวี๋เหวินเลย กล้องวงจรปิดภายในคฤหาสน์สามารถใช้พิสูจน์ได้”
“ผมจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมได้ยังไง?”
กงเจิ้งเอาภาพถ่ายออกมาและพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “คุณรู้จักคนคนนี้ใช่ไหม?”
อวี๋เหวินปิงเลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดด้วยความโมโห “เขาเป็นพนักงานของบริษัทตระกูลอวี๋เหวิน และยังเป็นพนักงานที่ดีที่สุดของผมด้วย เขาชื่อเฉินจื้อ ผมจะไม่รู้จักเขาได้ยังไง?”
“เมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เราพบศพของเขาในแม่น้ำเหล่าหลง และพบว่าเขาโทรหาคุณเป็นสายสุดท้ายจากบันทึกโทรศัพท์ของเขา”
อวี๋เหวินปิงแกล้งทำเป็นตกใจ “คุณว่าอะไรนะ? เขาตายแล้วเหรอ? เขาตายได้ยังไง? เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนเขายังโทรมารายงานผมเรื่องงานอยู่เลย”
“เขาเป็นพนักงานที่ดีที่สุดของผม ทำไมเขาถึงตาย? เรื่องนี้พวกคุณต้องตามหาตัวคนร้ายที่แท้จริงมาให้ได้ ผมจะไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่!”
ท่าทางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของอวี๋เหวินปิง ดูเหมือนว่าจะห่วงใยเฉินจื้อจริงๆ
กงเจิ้งขมวดคิ้ว อวี๋เหวินปิงตอบไม่ตรงคำถามเลย แต่ก็ถือว่าได้ให้คำตอบแก่เขาแล้ว
“คุณตำรวจ คุณคงไม่คิดว่าการตายของเฉินจื้อมีส่วนเกี่ยวข้องกับผมนะ?”
อวี๋เหวินปิงมองกงเจิ้งและพูดขึ้นอีกว่า “ถ้าพวกคุณสงสัยผมเพียงเพราะเขาโทรหาผมเป็นสายสุดท้าย มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
“แม้ว่าจะพาตัวผมไปสอบสวน คุณต้องมีหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐานผมจะไม่ออกไปกับพวกคุณ”
“ตอนนี้พ่อของผมกำลังบาดเจ็บสาหัส ยังคงนอนอยู่ในห้องไอซียู พนักงานที่ดีที่สุดของผมก็มาตายไป ทำไมพวกคุณไม่ไปตามหาตัวฆาตกร แต่กลับวิ่งมาสอบสวนผม?”
“ตอนนี้ผมกำลังจัดการดูแลตระกูลอวี๋เหวินแทนพ่อของผม หากพวกคุณไม่มีหลักฐานและมาพาตัวผมไปแบบนี้ แล้วตระกูลอวี๋เหวินจะทำยังไง?”
“อีกอย่างแล้วเรื่องชื่อเสียงของผมล่ะ? ชื่อเสียงของตระกูลอวี๋เหวินล่ะ? มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะรับผิดชอบไหวนะ”
กงเจิ้งเลิกคิ้วขึ้นและกล่าวอย่างไม่พอใจ “คุณอวี๋เหวิน นี่คุณกำลังปฏิเสธการสอบสวนใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่ว่าผมปฏิเสธการสอบสวน แต่ต้องการให้พวกคุณแสดงหลักฐานออกมา ถ้าไม่มีหลักฐาน ผมอยากจะดูว่าใครจะกล้าพาผมออกไปจากตระกูลอวี๋เหวินแม้แต่ก้าวเดียว?”
ท่าทีของอวี๋เหวินปิงแข็งกร้าวมาก
“ได้ ในเมื่อคุณต้องการหลักฐาน ถ้าอย่างนั้นผมก็จะเอาหลักฐานให้คุณ!”
กงเจิ้งพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาแล้วเปิดคลิปเสียงท่อนหนึ่ง เสียงดังขึ้นมาทันที
“คุณชายปิง ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ ตอนนี้หลายคนกำลังตามหาตัวผมอยู่ ถ้าผมถูกจับ เรื่องราวต่างๆ ของคุณชายปิงจะถูกเปิดเผย คุณต้องหาวิธีช่วยผมนะ!”
“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ผมจะให้คนไปหาคุณ ตอนนี้ต้องส่งตัวคุณออกนอกประเทศไปหลบดูสถานการณ์ก่อน”
“ขอบคุณคุณชายปิง! ขอบคุณคุณชายปิง! ผมอยู่ที่คลังสินค้าหมายเลข 3 แม่น้ำเหล่าหลง”
คลิปเสียงมีเพียงสามท่อน แต่เสียงในท่อนที่สองเป็นของอวี๋เหวินปิง
ส่วนอีกสองท่อนที่เหลือเป็นเสียงของเฉินจื้อ
แม้ว่าการสนทนาจะสั้น แต่ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า เฉินจื้อทำผิดเรื่องใหญ่และกำลังถูกคนจำนวนมากตามล่า
แต่อวี๋เหวินปิงกลับบอกว่า จะส่งเฉินจื้อไปหลบดูสถานการณ์ที่ต่างประเทศ ซึ่งก็เพียงพอที่จะบอกว่า อวี๋เหวินปิงรู้เรื่องความผิดของเฉินจื้อ
อวี๋เหวินปิงก็ตกใจเช่นกัน บทสนทนานี้เป็นการสนทนาครั้งสุดท้ายระหว่างเขากับเฉินจื้อก่อนตาย คิดไม่ถึงว่าจะถูกเฉินจื้อบันทึกไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...