เซี่ยเหอปลอบใจอยู่ตั้งนาน ถึงทำให้อารมณ์ของเสี้ยวเสี้ยวมั่นคงขึ้นมา
“คุณน้าคะ หนูคิดถึงพ่อแม่แล้ว คุณน้าช่วยโทรศัพท์หาพวกเขาให้หนูหน่อย ให้เข้ามารับหนูได้มั้ยคะ?” เสี้ยวเสี้ยวจ้องเซี่ยเหอด้วยดวงตาที่ชุ่มชื้นพลางถามไป
เซี่ยเหอมองเสี้ยวเสี้ยวด้วยท่าทางซับซ้อน แม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมเสี้ยวเสี้ยวถึงได้ถูกพามา กลับจำได้ว่าคนที่เข้ามาส่งเสี้ยวเสี้ยวเคยพูดว่าช่วงเวลาต่อจากนี้ระยะหนึ่ง เสี้ยวเสี้ยวจะใช้ชีวิตด้วยกันกับเธอ
“นายจะทำอะไรกับฉันก็ได้ทั้งนั้น แต่นายจำเป็นต้องส่งเสี้ยวเสี้ยวกลับบ้าน” เซี่ยเหอพูดขึ้นฉับพลัน
กวนเสว่เฟิงหรี่ดวงตาทั้งสองขึ้นเล็กน้อย “ฉันพาเธอมาที่นี่ ไม่ได้แตะต้องเธอมาหนึ่งเดือนเต็มๆ เธอคงไม่ได้คิดจริงๆ หรอกนะว่าฉันกลัวเธอตายอยู่ที่นี่?”
เซี่ยเหอกัดริมฝีปากแดงไว้แน่นไม่พูดจา ในสายตาเต็มไปด้วยความอ้อนวอน
“ในเมื่อฉันพายัยเด็กน้อยคนนี้มาที่นี่แล้ว ย่อมมีเจตนาของฉัน เธออย่าได้คืบจะเอาศอก ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สนใจฆ่าหล่อนก่อน จากนั้นค่อยทำเรื่องอื่นกับเธอต่อ” กวนเสว่เฟิงพูดจายิ้มกริ่ม
เซี่ยเหอรู้ว่าอยากจะทำให้กวนเสว่เฟิงปล่อยเสี้ยวเสี้ยวไปนั้น คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เธอจึงยอมล้มเลิกการขอร้อง
“เสี้ยวเสี้ยว น้ารู้สึกเหนื่อยแล้ว อยากนอนสักหน่อย หนูเล่นอยู่ตรงนี้ไปคนเดียวก่อนนะ รอน้าตื่นมา เดี๋ยวจะมาอยู่เป็นเพื่อนหนู ดีหรือเปล่าเอ่ย?” มือของเซี่ยเหอจับไหล่ของเสี้ยวเสี้ยวไว้เบาๆ พูดด้วยท่าทางอ่อนโยน
ในดวงตาของเสี้ยวเสี้ยวเต็มไปด้วยน้ำตา หล่อนกลัวกวนเสว่เฟิงมาก และไม่ยอมอยู่ตรงนี้เองคนเดียว
“คุณน้าคะ คุณน้ากอดเสี้ยวเสี้ยวนอนด้วยกันได้หรือเปล่าคะ?” เสี้ยวเสี้ยวน้ำตาเปียกชื้นมองทางเซี่ยเหอแล้วพูดขึ้น
เซี่ยเหอพูดอย่างอดทน “ถ้าพวกเราไปนอนกันหมดเลย รออีกเดี๋ยวพ่อกับแม่ของเสี้ยวเสี้ยวมารับเสี้ยวเสี้ยวแล้วหาพวกเราไม่เจอจะทำยังไงกัน?”
“พ่อกับแม่จะมาแล้วเหรอคะ?” ในตาเสี้ยวเสี้ยวเพิ่มประกายแวววาวทันใด
ถึงแม้ว่าเซี่ยเหอจะทนโกหกเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้ แต่เพื่อเสี้ยวเสี้ยวแล้ว กลับต้องพยักหน้ารับ “น้าเปิดการ์ตูนให้หนูไว้ก่อน เสี้ยวเสี้ยวไม่ดื้อ รอพ่อกับแม่อยู่ที่นี่คนเดียวได้หรือเปล่า?”
“ได้ค่ะ!” เสี้ยวเสี้ยวตอบด้วยความดีใจ
หลังจากที่เซี่ยเหอเปิดโทรทัศน์ ถึงตามกวนเสว่เฟิงเข้าไปห้องนอนด้านใน
พึ่งมาถึงที่ห้อง กวนเสว่เฟิงก็ลงไม้ลงมือแบบอดใจไม่ไหว ทันใดนั้นถูกเซี่ยเหอผลักออก
“ทำไม? เธอยังอยากปฏิเสธ?” ในแววตากวนเสว่เฟิงมีความดุดันนิดๆ แวบผ่าน
ในตาของเซี่ยเหอปกคลุมด้วยน้ำตา กัดริมฝีปากไว้ จ้องกวนเสว่เฟิงด้วยสายตาแน่วแน่ “นายไม่ใช่มีความมั่นใจในตัวเอง รับประกันว่าฉันจะหลงรักนายได้ไม่ใช่เหรอ? นายทำแบบนี้ ต่อให้ฉันตาย ก็ไม่มีทางหลงรักนายเด็ดขาด”
“ขอเพียงเป็นผู้หญิงที่ฉันกวนเสว่เฟิงอยากได้ แบบไหนจะไม่มีกัน? เธอเห็นว่าตัวเองสำคัญจริงหรือไง คืนนี้ฉันจะนอนกับเธอ ถ้าเธอกล้าปฏิเสธ ฉันก็กล้าทำให้ยัยเด็กคนนั้นตาย” กวนเสว่เฟิงพูดจาแบบหน้าตาโหดร้าย
“ตึง! ตึง! ตึง!”
ในเวลานี้เอง ประตูห้องนอนถูกเคาะดังขึ้นกะทันหัน
กวนเสว่เฟิงขมวดคิ้วแน่น “ยัยเด็กคนนี้ กำลังวอนหาที่ตายเสียจริง”
เขาพูดจบ ไปเปิดประตูด้วยท่าทางโมโหเดือดดาล
“กวนเสว่เฟิง นายอย่าวู่วาม นายอยากได้ฉัน ก็จัดการไปสิ อย่าอารมณ์เสียใส่เสี้ยวเสี้ยว” เซี่ยเหอตกใจในชั่วขณะนั้น ยังคิดว่ากวนเสว่เฟิงอยากไปลงมือกับเสี้ยวเสี้ยว
เธอกำลังจะตามเข้าไปห้ามปราม กวนเสว่เฟิงก็ดึงประตูออกแล้ว
“ปึง!”
กวนเสว่เฟิงเพิ่งดึงประตูออก มองเห็นภาพคนที่คุ้นเคยปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเขา ชั่วขณะนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ
เขายังไม่ทันได้ส่งเสียงออกมา อีกฝ่ายหนึ่งถีบเข้ามาฉับพลัน ร่างกายของเขาลอยไปสูงมาก จากนั้นกระแทกบนโต๊ะกาแฟอย่างแรง ไวน์แดงขวดหนึ่งและแก้วทรงสูงสองสามใบที่วางบนโต๊ะกาแฟหล่นลงพื้น แตกเป็นเสี่ยงๆ
“พวกแกหาที่นี่เจอได้ยังไงกัน?” กวนเสว่เฟิงมองเห็นหม่าชาว สีหน้าตกใจ ถูกถีบที่หน้าอก ไม่รู้ว่ากระดูกซี่โครงหักไปกี่ซี่แล้ว
แต่เวลานี้ความหวาดกลัวในใจของเขากลับมากกว่าความเจ็บปวดบนร่างกายหลายเท่า
เขารู้ดีมากว่าพอเสี้ยวเสี้ยวถูกช่วยไป มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะโดนฆ่าแน่
เซี่ยเหอก็อึ้งค้างเช่นกัน มองหม่าชาวที่มาตรงหน้าของกวนเสว่เฟิงแบบตาค้าง ถีบหน้าอกของเขาไปทีหนึ่ง “ตั้งแต่วินาทีนั้นที่แกพาตัวลูกสาวของเขาไป ก็ลิขิตแล้วว่าแกต้องตายอย่างอนาถมาก”
“พวกแกฆ่าฉันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นตระกูลกวนจะต้องไม่ปล่อยพวกแกไปเด็ดขาด” กวนเสว่เฟิงกำลังสั่นเทาไปทั่วทั้งตัว ก่อนหน้านี้หม่าชาวอยู่ที่หอเหล้าแสงพระจันทร์ ฉากที่ทำลูกน้องสี่คนของเขาตาบอดแบบคล่องแคล่วฉับไวนั้น ยังคงติดตรึงอยู่ในหัวสมองของเขาอย่างลึกซึ้ง
เขาแน่ใจมากว่าหม่าชาวกล้าฆ่าเขาตายจริงๆ
ในเวลานี้เอง เสียงที่เย็นชาเสียงหนึ่งลอยเข้ามาจากห้องรับแขก “ทำให้มันสลบแล้วพาตัวไป!”
“ครับ พี่เฉิน!” หม่าชาวตอบรับด้วยความเคารพ
เซี่ยเหอถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมา ด้านนอกห้องรับแขกยังมีคนอื่น
หม่าชาวเตะออกมาทีหนึ่ง ชั่วพริบตาเดียวกวนเสว่เฟิงก็สลบลงไปเรียบร้อย
ท่ามกลางความตื่นตกใจของเซี่ยเหอ หม่าชาวนำกวนเสว่เฟิงที่หนักแปดสิบเจ็ดกิโลแบกขึ้นไหล่อย่างง่ายดาย จากนั้นเดินไปที่ริมหน้าต่าง แบกคนเอาไว้กระโดดลงไป จากนั้นหายไปในความมืดแล้ว
“พ่อคะ คุณน้ายังอยู่ด้านใน ก่อนหน้านี้เธอเล่นเป็นเพื่อนหนูมาตลอด ตอนนี้พวกเราจะไปแล้ว หนูจะไปบอกลากับคุณน้าสักหน่อยก่อนค่ะ” เสี้ยวเสี้ยวกอดคอของหยางเฉินไว้ พูดจาอ่อนหวาน
สำหรับเมื่อสักครู่นี้เรื่องที่กวนเสว่เฟิงอยากทำอะไรกับเซี่ยเหอ หยางเฉินรู้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ถ้าไม่ใช่กลัวว่าเสี้ยวเสี้ยวจะตกใจ เขาคงปรากฏตัวตั้งนานแล้ว
สำหรับผู้หญิงคนนี้ หยางเฉินรู้สึกซาบซึ้งจากก้นบึ้งหัวใจพอสมควร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...