หยางเฉินกำลังอยู่ในห้องทำงานเพียงคนเดียว ไม่นานลั่วปิงก็วิ่งเข้ามา
“ท่านประธาน ผมจัดการเรื่องต่างๆ เรียบร้อยแล้วครับ หลังจากที่เรื่องอื้อฉาวของผู้กำกับหวางและอู๋เทียนโย่วถูกเปิดเผย พวกเขาก็ถูกแบล็กลิสต์ไปทั่วประเทศ”
ลั่วปิงพูดว่า “ไม่เพียงแค่นั้น ทีมงานเทพสงครามผู้ชนะก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เรียบร้อยแล้วครับ นอกจาก ศิลปินหน้าใหม่เซี่ยเหอ นักแสดงอื่นๆ ล้วนแล้วแต่เป็นดาราดังครับ”
“เพราะเรื่องอื้อฉาวของผู้กำกับหวางและอู๋เทียนโย่ว ทำให้เทพสงครามผู้ชนะยิ่งฮิตขึ้นไปอีกครับ ตอนนี้ผู้ชมจำนวนมากตั้งหน้าตั้งตารอละครเรื่องนี้เป็นอย่างมากครับ”
“อีกทั้งการเข้าร่วมของ หยวนหย่าฉีและดาราดังหลายคนก็ทำให้ละครเรื่องนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ละครเรื่องนี้ถูกชาวเน็ตขนานนามว่าเป็นเว็บซีรีส์ประวัติศาสตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดครับ”
หยางเฉินกลับไม่แปลกใจเลย พยักหน้าและพูดว่า “ดีแล้ว งั้นต่อไปงานหลักของคุณก็คือการกลับไปดูแลโครงการเมืองจิ่วโจวต่อ”
ลั่วปิงรีบพยักหน้า “ท่านประธานสบายใจได้ ผมได้จัดการงานทั้งหมดที่อยู่ในมือเรียบร้อยแล้วครับ และจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะกินจะนอนผมก็จะอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้างเฝ้าดูโครงการเมืองจิ่วโจวทั้งหมดด้วยตัวเอง”
หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ต้องการให้โครงการเมืองจิ่วโจวตกเป็นเป้าหมายของผู้ที่สนใจ และเขาไม่ได้อยากให้ให้ลั่วปิงอาศัยอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้าง
ลั่วปิงยังไงก็เป็นผู้จัดการใหญ่ที่มีเงินเดือนทั้งปีกว่าสิบล้านหยวน จะไปนอนที่ไซต์งานก่อสร้างได้ยังไง?
“ผู้จัดใหญ่ลั่ว คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ แค่ให้คนที่ไว้ใจได้หนึ่งคนไปเฝ้าดูก็พอแล้ว”
หยางเฉินพูดขึ้น
ลั่วปิงรีบพูดว่า “ท่านประธานไม่ต้องห่วง ผมสบายดีครับ อีกอย่างผมไปไซต์งานก่อสร้างก็ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเรื่องไซต์งานอย่างเดียวเท่านั้น ผมก็แค่ย้ายห้องทำงานไปที่เมืองจิ่วโจวก่อนล่วงหน้าเท่านั้นครับ”
“หลังจากที่เมืองจิ่วโจวสร้างเสร็จ พวกเราสำนักงานใหญ่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ต้องย้ายไปที่นั่นแน่ๆ ก็ถือซะว่าผมไปทำความคุ้นเคยกับบรรยากาศสำนักงานใหม่ล่วงหน้า”
หลังจากฟังลั่วปิงพูด หยางเฉินก็เข้าใจว่านี่ลั่วปิงไม่ได้ทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่นี่เป็นการเตรียมการที่ดีที่สุด
“ก็ได้ ในเมื่อคุณวางแผนทั้งหมดเอาไว้แล้ว ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าดีใจและโล่งใจ
“ขอบคุณนะครับท่านประธาน! ”
ลั่วปิงรีบพูดขึ้น
เขากำลังจะออกไป แต่จู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงรีบพูดว่า “ท่านประธานครับ ประธานฉินไม่ได้ไปแมมบ้าแดงกรุ๊ปวันนี้เหรอครับ? ผมคิดว่า ท่านประธานน่าจะต้องไปช่วยประธานฉินนะครับ”
หยางเฉินอึ้งไปชั่วครู่ ประธานฉินที่ลั่วปิงพูดถึงคือฉินซี
“คุณหมายถึง เสี่ยวซีไปรับตำแหน่งรักษาการแทนผู้จัดการใหญ่จะเกิดเรื่องขึ้นเหรอ?”
หยางเฉินขมวดคิ้วถามขึ้น
ลั่วปิงพยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ถึงแม้ว่า แมมบ้าแดงกรุ๊ปจะเป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดยผู้นำตระกูลเย่ แต่แท้จริงแล้ว แมมบ้าแดงกรุ๊ปกลับถูกคนในตระกูลแทรกซึมมาเป็นเวลานานแล้วครับ”
“ตอนนี้ผู้นำเย่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล การแย่งชิงอำนาจภายในตระกูลเย่และทรัพย์สินนับแสนล้านของแมมบ้าแดง ดังนั้น จึงกลายเป็นสถานที่แข่งขันแย่งชิงอำนาจกันของตระกูลเย่ครับ”
“เดิมที ญาติพี่น้องของตระกูลเย่ต่างก็แย่งชิงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของแมมบ้าแดงกรุ๊ป ตอนนี้จู่ๆ ก็มีประธานฉินเข้ามา พวกเขาต้องไม่ให้ความร่วมมือแน่นอนครับ”
เดิมทีหยางเฉินไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ตอนนี้ได้ยินที่ลั่วปิงพูด เขาถึงได้ตระหนักว่าฉินซีกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่
“แน่นอนว่า จู่ๆ ผมก็คิดถึงเรื่องนี้ได้และก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ท่านประธานตัดสินใจแล้วกันครับว่าจะทำอย่างไร”
ลั่วปิงพูดอย่างระมัดระวัง “ท่านประธานครับ ถ้าหากว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“อืม ไปเถอะ! ”
หยางเฉินพูดขึ้น
หลังจากลั่วปิงไปแล้ว เหลือเพียงหยางเฉินอยู่ในห้องทำงาน เขานั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน สีหน้าจริงจัง
เย่ม่านไม่เข้าใจสถานการณ์ตระกูลเย่มากนัก ให้ฉินซีไปแมมบ้าแดง นอกจากอยากจะให้ฉินซีทำความคุ้นเคยก่อนล่วงหน้า และรับช่วงต่อแมมบ้าแดงหลังจากนี้ และเธอยังอยากให้ฉินซีมีประสบการณ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...