หยางเฉินพูดว่า “คุณคิดว่าท่านให้คุณมาเป็นตัวแทนผู้จัดการใหญ่เหรอ?”
ฉินซีงุนงงอยู่เต็มหน้า “แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“คุณคิดว่าท่านไม่รู้สถานะภาพของตระกูลเย่ในปัจจุบันนี้จริง ๆ หรือ?”
“ถ้าหากท่านไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ ท่านคงไม่มีปัญญาสร้างแมมบ้าแดงกรุ๊ปนี้ขึ้นมาได้ ด้วยกำลังของท่านเพียงคนเดียว”
“ท่านมอบให้คุณมาเป็นตัวแทนประธานผู้จัดการใหญ่ เท็จจริงก็คือต้องการฝึกฝนคุณ และให้คุณได้เข้ามารับรู้คุ้นชินกับทุกสิ่งทุกอย่างในแมมบ้าแดงกรุ๊ป รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม ท่านก็จะยกแมมบ้าแดงกรุ๊ปทั้งหมดให้คุณ”
หยางเฉินแรกเริ่มเดิมทีก็ไม่คิดจะบอกเรื่องนี้ให้กับฉินซี แต่เขารู้นิสัยของฉินซีอย่างมาก ๆ ต่อให้หล่อนจะรับรู้คุ้นชินกับแมมบ้าแดงกรุ๊ปยังไงก็แล้วแต่ หล่อนไม่มีทางที่จะยอมรับการยกให้เป็นของกำนัลใด ๆ จากเย่ม่าน
ก็เหมือนกรณีซานเหอกรุ๊ป หยางเฉินได้รับมาจากมือตระกูลฉิน เดิมก็ตั้งใจยกให้ฉินซี แต่หล่อนก็ไม่ยอมที่จะรับไว้เลย เพียงเข้าไปทำงานในซานเหอกรุ๊ปเท่านั้น
แต่ทว่า เย่ม่านยังไม่เข้าใจฉินซีพอ ไม่อย่างนั้นคงไม่วางเกมไว้ง่าย ๆ แบบนี้
และก็จริงอย่างที่ว่า พอได้ยินหยางเฉินพูด ฉินซีก็นิ่งขรึมลงไปทันที สีหน้าออกแววสลดใจ
พักใหญ่ หล่อนจึงได้เอ่ยปากพูด “ฉันคงจะไม่รับแมมบ้าแดงกรุ๊ปแน่นอน”
“นั่นเป็นกิจการที่ท่านทุ่มเททั้งเลือดเนื้อสร้างขึ้นมา ฉันจะไปชุบมือเปิบยึดมาคนเดียวได้ยังไงกัน?”
“ท่านได้ให้ชีวิตฉันมา นั้นก็เป็นสิ่งที่เกินพอแล้ว ถึงแม้ท่านไม่ได้เลี้ยงดูฉันมา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปฏิเสธความเป็นจริงที่ท่านเป็นแม่บังเกิดเกล้าของฉันได้”
ฉินซีพูดต่อด้วยตาที่เริ่มแดง “ฉันพร้อมรับอุ่นไอรักจากท่านได้ และยอมรับความเป็นแม่ของท่าน แต่ไม่สามารถรับของกำนัลใด ๆ จากท่านได้”
หยางเฉินไม่ได้รู้สึกเหนือคาดคิด ผู้หญิงสุดประเสริฐคนนี้ ต้องยอมรับเย่ม่านแน่นอน ปัญหาเพียงเรื่องเวลา
หยางเฉินเอื้อมมือออกไป โอบฉินซีเข้ามาในอ้อมกอด พูดอย่างนุ่มนวล “ก็รู้อยู่ว่าคุณต้องพูดแบบนี้ ผมถึงได้บอกความจริงกับคุณ”
ฉินซีก็ซุกเข้าไปกับอกของหยางเฉิน หลับตาลง กระพริบขนตาที่งอนยาว
ดูเหมือนหล่อนมีความสุขมากกับความอบอุ่นที่ได้รับในขณะนั้น
แสนนาน หล่อนค่อย ๆ ลืมตาทั้งคู่ขึ้น มองหน้ามาดเข้มหนักแน่นที่ชิดใกล้นี้ ในใจเต็มเปี่ยมด้วยความอบอุ่น “ที่รักคะ ขอบคุณมากค่ะ!”
หยางเฉินยิ้มน้อย ๆ “ผมคิดเพียงให้คุณมีชีวิตที่ใช้อย่างมีความสุข ไม่คิดอยากให้คุณต้องมีภาระมาก”
ทั้งสองคลอเคลียกันอยู่ในห้องทำงาน ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉินซีจึงรีบลุกจากอ้อมกอดของหยางเฉินเดินออกมา จัดแจงความเรียบร้อยของเสื้อผ้า
แล้วจึงพูดไปว่า “เข้ามาได้!”
ประตูห้องทำงานเปิดออก เงาร่างที่คุ้นเคยเดินเข้ามา เย่หวาผู้ที่คอยปกป้องเข้าข้างฉินซีมาตลอดนั่นเอง
“ประธานฉินครับ นี่เป็นรายงานสภาพทั่ว ๆ ไปของบริษัทในขณะนี้ และเอกสารความคืบหน้าของโครงการที่เกี่ยวข้อง”
เย่หวาเดินไปที่หน้าโต๊ะทำงาน เอาเอกสารจำนวนหนึ่งวางลงไว้
ฉินซีผงกหัว “ค่ะ ขอบคุณค่ะ!”
เห็นฉินซีไม่ได้พูดอะไรต่อ เย่หวาเลยให้รู้สึกเก้อเขิน เขาค่อย ๆ เหลือบมองหยางเฉินที่นั่งอยู่ที่โซฟาข้าง ๆ ทำท่าจะพูดแต่ก็ชะงักไว้
“วางใจเถอะ แมมบ้าแดงกรุ๊ปยังเป็นของท่านเจ้าบ้านตระกูลเย่ ตะกี้นี้ข้าเพียงแค่เล่นละครคู่กับท่านเจ้าบ้านตระกูลเย่เท่านั้นแหละ”
หยางเฉินหน้ายังไม่ได้เงยขึ้นมอง ก็เดาได้ว่าเย่หวาคิดจะพูดอะไร
ได้ยินดังนั้น เย่หวาค่อยรู้สึกหายใจโล่งขึ้น พูดด้วยสีหน้าเขิน ๆ ว่า “เป็นอย่างนั้นเองหรือครับ ท่านประธานฉินกับคุณหยางทำงานของท่านไปก่อนนะครับ ผมก็ขอตัวไปทำงานของผมก่อน”
พูดจบ เย่หวาก็ออกจากห้องไป
ในขณะเดียวกันนั้น ที่บ้านตระกูลเย่
ภายในคฤหาสน์หรู เย่ชังนั่งอยู่ที่โซฟา สีหน้าอึมครึมน่ากลัว
ด้านข้าง ๆ ยังมีพวกญาติ ๆ หลายคนที่ถูกตะเพิดออกมาจากแมมบ้าแดงกรุ๊ปด้วยกัน
“นางแพศยาเย่ม่าน คิดไม่ถึงว่ามันจะขายกิจการแมมบ้าแดงกรุ๊ปออกไปในราคาขี้ ๆ !”
เย่ชังขบเขี้ยวกัดฟันพูด
“ผู้หญิงคนนี้ เล่ห์เหลี่ยมลึกล้ำเอาเรื่อง หล่อนน่าจะต้องคาดเดาไว้ได้ก่อนแล้ว ว่าพวกเราจะทำแบบนี้ ถึงได้มีการจัดการไปก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...