อ่านสรุป บทที่ 820 อาหลีเสนอความเห็น จาก The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง
บทที่ บทที่ 820 อาหลีเสนอความเห็น คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
หยางเฉินพูดว่า “คุณคิดว่าท่านให้คุณมาเป็นตัวแทนผู้จัดการใหญ่เหรอ?”
ฉินซีงุนงงอยู่เต็มหน้า “แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“คุณคิดว่าท่านไม่รู้สถานะภาพของตระกูลเย่ในปัจจุบันนี้จริง ๆ หรือ?”
“ถ้าหากท่านไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ ท่านคงไม่มีปัญญาสร้างแมมบ้าแดงกรุ๊ปนี้ขึ้นมาได้ ด้วยกำลังของท่านเพียงคนเดียว”
“ท่านมอบให้คุณมาเป็นตัวแทนประธานผู้จัดการใหญ่ เท็จจริงก็คือต้องการฝึกฝนคุณ และให้คุณได้เข้ามารับรู้คุ้นชินกับทุกสิ่งทุกอย่างในแมมบ้าแดงกรุ๊ป รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม ท่านก็จะยกแมมบ้าแดงกรุ๊ปทั้งหมดให้คุณ”
หยางเฉินแรกเริ่มเดิมทีก็ไม่คิดจะบอกเรื่องนี้ให้กับฉินซี แต่เขารู้นิสัยของฉินซีอย่างมาก ๆ ต่อให้หล่อนจะรับรู้คุ้นชินกับแมมบ้าแดงกรุ๊ปยังไงก็แล้วแต่ หล่อนไม่มีทางที่จะยอมรับการยกให้เป็นของกำนัลใด ๆ จากเย่ม่าน
ก็เหมือนกรณีซานเหอกรุ๊ป หยางเฉินได้รับมาจากมือตระกูลฉิน เดิมก็ตั้งใจยกให้ฉินซี แต่หล่อนก็ไม่ยอมที่จะรับไว้เลย เพียงเข้าไปทำงานในซานเหอกรุ๊ปเท่านั้น
แต่ทว่า เย่ม่านยังไม่เข้าใจฉินซีพอ ไม่อย่างนั้นคงไม่วางเกมไว้ง่าย ๆ แบบนี้
และก็จริงอย่างที่ว่า พอได้ยินหยางเฉินพูด ฉินซีก็นิ่งขรึมลงไปทันที สีหน้าออกแววสลดใจ
พักใหญ่ หล่อนจึงได้เอ่ยปากพูด “ฉันคงจะไม่รับแมมบ้าแดงกรุ๊ปแน่นอน”
“นั่นเป็นกิจการที่ท่านทุ่มเททั้งเลือดเนื้อสร้างขึ้นมา ฉันจะไปชุบมือเปิบยึดมาคนเดียวได้ยังไงกัน?”
“ท่านได้ให้ชีวิตฉันมา นั้นก็เป็นสิ่งที่เกินพอแล้ว ถึงแม้ท่านไม่ได้เลี้ยงดูฉันมา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปฏิเสธความเป็นจริงที่ท่านเป็นแม่บังเกิดเกล้าของฉันได้”
ฉินซีพูดต่อด้วยตาที่เริ่มแดง “ฉันพร้อมรับอุ่นไอรักจากท่านได้ และยอมรับความเป็นแม่ของท่าน แต่ไม่สามารถรับของกำนัลใด ๆ จากท่านได้”
หยางเฉินไม่ได้รู้สึกเหนือคาดคิด ผู้หญิงสุดประเสริฐคนนี้ ต้องยอมรับเย่ม่านแน่นอน ปัญหาเพียงเรื่องเวลา
หยางเฉินเอื้อมมือออกไป โอบฉินซีเข้ามาในอ้อมกอด พูดอย่างนุ่มนวล “ก็รู้อยู่ว่าคุณต้องพูดแบบนี้ ผมถึงได้บอกความจริงกับคุณ”
ฉินซีก็ซุกเข้าไปกับอกของหยางเฉิน หลับตาลง กระพริบขนตาที่งอนยาว
ดูเหมือนหล่อนมีความสุขมากกับความอบอุ่นที่ได้รับในขณะนั้น
แสนนาน หล่อนค่อย ๆ ลืมตาทั้งคู่ขึ้น มองหน้ามาดเข้มหนักแน่นที่ชิดใกล้นี้ ในใจเต็มเปี่ยมด้วยความอบอุ่น “ที่รักคะ ขอบคุณมากค่ะ!”
หยางเฉินยิ้มน้อย ๆ “ผมคิดเพียงให้คุณมีชีวิตที่ใช้อย่างมีความสุข ไม่คิดอยากให้คุณต้องมีภาระมาก”
ทั้งสองคลอเคลียกันอยู่ในห้องทำงาน ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉินซีจึงรีบลุกจากอ้อมกอดของหยางเฉินเดินออกมา จัดแจงความเรียบร้อยของเสื้อผ้า
แล้วจึงพูดไปว่า “เข้ามาได้!”
ประตูห้องทำงานเปิดออก เงาร่างที่คุ้นเคยเดินเข้ามา เย่หวาผู้ที่คอยปกป้องเข้าข้างฉินซีมาตลอดนั่นเอง
“ประธานฉินครับ นี่เป็นรายงานสภาพทั่ว ๆ ไปของบริษัทในขณะนี้ และเอกสารความคืบหน้าของโครงการที่เกี่ยวข้อง”
เย่หวาเดินไปที่หน้าโต๊ะทำงาน เอาเอกสารจำนวนหนึ่งวางลงไว้
ฉินซีผงกหัว “ค่ะ ขอบคุณค่ะ!”
เห็นฉินซีไม่ได้พูดอะไรต่อ เย่หวาเลยให้รู้สึกเก้อเขิน เขาค่อย ๆ เหลือบมองหยางเฉินที่นั่งอยู่ที่โซฟาข้าง ๆ ทำท่าจะพูดแต่ก็ชะงักไว้
“วางใจเถอะ แมมบ้าแดงกรุ๊ปยังเป็นของท่านเจ้าบ้านตระกูลเย่ ตะกี้นี้ข้าเพียงแค่เล่นละครคู่กับท่านเจ้าบ้านตระกูลเย่เท่านั้นแหละ”
หยางเฉินหน้ายังไม่ได้เงยขึ้นมอง ก็เดาได้ว่าเย่หวาคิดจะพูดอะไร
ได้ยินดังนั้น เย่หวาค่อยรู้สึกหายใจโล่งขึ้น พูดด้วยสีหน้าเขิน ๆ ว่า “เป็นอย่างนั้นเองหรือครับ ท่านประธานฉินกับคุณหยางทำงานของท่านไปก่อนนะครับ ผมก็ขอตัวไปทำงานของผมก่อน”
พูดจบ เย่หวาก็ออกจากห้องไป
ในขณะเดียวกันนั้น ที่บ้านตระกูลเย่
ภายในคฤหาสน์หรู เย่ชังนั่งอยู่ที่โซฟา สีหน้าอึมครึมน่ากลัว
ด้านข้าง ๆ ยังมีพวกญาติ ๆ หลายคนที่ถูกตะเพิดออกมาจากแมมบ้าแดงกรุ๊ปด้วยกัน
“นางแพศยาเย่ม่าน คิดไม่ถึงว่ามันจะขายกิจการแมมบ้าแดงกรุ๊ปออกไปในราคาขี้ ๆ !”
เย่ชังขบเขี้ยวกัดฟันพูด
“ผู้หญิงคนนี้ เล่ห์เหลี่ยมลึกล้ำเอาเรื่อง หล่อนน่าจะต้องคาดเดาไว้ได้ก่อนแล้ว ว่าพวกเราจะทำแบบนี้ ถึงได้มีการจัดการไปก่อน”
ได้ยินที่อาหลีแจงมาให้ฟัง แววตาเย่ชังสาดประกายคมเฉียบ
ภายในคฤหาสน์หรู ล้วนเป็นคนสายเดียวกันกับเย่ชัง ต่างคนต่างมีความเชื่อใจกันอยู่ ไม่ว่าใครที่เป็นคนในสายเดียวกันเองนี้ได้เป็นผู้นำตระกูล สำหรับพวกเขาแล้ว ล้วนเป็นเรื่องที่ดี
ฉะนั้นเย่ชังจึงไม่มีอะไรจะต้องกังวล ประกายคมเฉียบในแววตาจึงได้กระพริบ “ในเมื่อทุกคนมีความเห็นพ้องต้องกัน เวลานี้เป็นฤกษ์งามยามดี จะปล่อยพลาดไปไม่ได้”
“ดูวันฤกษ์ไม่สู้เจอวันประจวบเหมาะ เดี๋ยวข้าจะรายงานกับเฉาซื่อกรุ๊ปแล้ว เราก็ลงมือปฏิบัติการ!”
ทุกคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด แม้ว่าทุกคนมุ่งหวังให้เย่ชังขึ้นนั่งตำแหน่ง แต่นี่เป็นเรื่องใหญ่ จะให้มีเสียงเล็ดลอดออกไปไม่ได้ มิฉะนั้น จะมีผลรุนแรงเอามาก
เย่ชังจัดแจงต่อโทรศัพท์ออกไปทันที และติดต่อฝั่งตรงข้ามได้อย่างรวดเร็ว “มีอะไร?”
ง่าย ๆ แค่สามคำ ดูเหมือนพูดมากจะสิ้นเปลืองคำ อีกทั้งฝั่งตรงข้ามยังใช้อุปกรณ์แปลงเสียง ชัดเจนว่ากลัวจะถูกเย่ชังบันทึกเสียงเก็บหลักฐาน
เย่ชังก็ไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดหมาย เพียงเอ่ยปากพูดว่า “ประธานหวง ที่ท่านเคยรับปากผมไว้ เพียงถ้าผมได้เป็นผู้นำตระกูลเย่ เฉาซื่อกรุ๊ปก็จะเข้าร่วมกับตระกูลเย่ เรื่องนี้ยังนับเป็นข้อตกลงกันอยู่ไหม?”
“แกลงมือเต็มที่ไปเลย!”
ประธานหวงพูดเหมือนกลัวดอกพิกุลร่วง ยังคงพูดออกมาห้วน ๆ
“ขอบคุณครับท่านประธาน!”
แม้เป็นการโต้ตอบกันไม่กี่คำ แต่มันทำให้เย่ชังมีความรู้สึกเหมือนได้รับยาระงับประสาท เดิมทียังรู้สึกไหวหวั่นในการที่จะตัดสินใจ มาตอนนี้ใจมั่นคงไม่มีใดเปรียบ
หลังจากตัดสายโทรศัพท์ เย่ชังกวาดตามองยังทุกคน พูดอย่างหนักแน่นสุด ๆ “ตอนนี้ พวกเรามาวางแผนกันให้ดี เตรียมพร้อมลงมือได้ทันที”
“ก่อนจะลงมือ ข้ามีข้อเสนอแนะข้อหนึ่ง”
ในขณะนั้นเอง อาหลีพูดขึ้นมาทันควัน
“อาหลี ว่ามาเลย!”
เย่ชังรีบพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...