ดวงตาของเซวหยวนจี๋๋ค่อยๆ ลึกล้ำขึ้นมาแล้ว พูดด้วยหน้าตาเคร่งขรึม “ครั้งก่อน ข้างกายเซวหยวนป้ายังมีลั่วเฉิน ผู้แข็งแกร่งลำดับที่สามของตระกูลเซวที่คุณพ่อฉันส่งมาให้อยู่”
“ภายใต้เงื่อนไขที่มีลั่วเฉินอยู่ เซวหยวนป้ายังโดนตามฆ่า ว่ากันว่าแม้แต่เครื่องบินยังไม่กล้านั่ง สุดท้ายถูกบีบไปนั่งรถไฟ แต่ผลปรากฏว่าที่สถานีรถไฟ กลับโดนจับเป็นแล้ว”
บนหน้าผากชายวัยกลางคนผุดเม็ดเหงื่อออกมาจำนวนมาก ยิ่งฟังยิ่งตื่นตกใจ
“ในเมื่อเจ้าชายรองรู้ถึงความไม่ธรรมดาของหยางเฉิน ยังหาเรื่องเขา แบบนี้จะดีเหรอครับ?” ชายวัยกลางคนถามต่อไปอีก
เซวหยวนจี๋๋ตอบว่า “อยากจับแก๊งขโมยต้องจับหัวหน้าก่อน ในเมื่อหยางเฉินมีความสามารถเป็นคิงแห่งเยี่ยนตู อย่างนั้นขอเพียงหลอกใช้เขาทำงานให้ฉัน จากนั้นควบคุมเมืองเยี่ยนตู ก็ง่ายดายมากแล้ว”
“แต่ พวกเราทำแบบนี้ เป็นการล่วงเกินหยางเฉินเข้าแล้ว จะหลอกใช้เขามาทำงานเพื่อพวกเราได้อย่างไรกันครับ?” ชายวัยกลางคนยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ
เซวหยวนจี๋๋พูดจาเยาะเย้ย “นายจะเข้าใจอะไร?”
ทั้งวันหนึ่ง หยางเฉินอยู่ที่เขตก่อสร้างเมืองจิ่วโจว เพียงแต่ยังไม่เห็นเงาของเซวหยวนจี๋๋มาโดยตลอด
ใกล้เวลาเลิกงาน ในที่สุดลั่วปิงก็ถามขึ้นแบบทนไม่ไหว “ท่านประธานครับ เย็นขนาดนี้แล้ว ทำไมเซวหยวนจี๋๋ยังไม่มาอีก? นี่ควรทำอย่างไรครับ?”
“ใครบอกนายว่า เซวหยวนจี๋๋จะมาเขตก่อสร้าง?”
หยางเฉินถามกลับไป
“เอ๋?”
ลั่วปิงมึนงงในทันใด หยางเฉินอยู่ที่เขตก่อสร้างเมืองจิ่วโจวมาทั้งวันเต็มๆ เขาคิดมาตลอดว่าหยางเฉินกำลังรอเซวหยวนจี๋๋มา และผลปรากฏว่าไม่ใช่
เห็นลักษณะที่สงสัยของลั่วปิง หยางเฉินหัวเราะแล้วบอกว่า “เซวหยวนจี๋๋ไม่อาจมาได้ ในสายตาของเขาคนประเภทนี้ มีเพียงคนอื่นไปหาเขาเท่านั้น พวกเขาจะไปหาคนอื่นได้อย่างไร?”
“ความหมายของท่านประธานคือ ท่านจะไปหาเขาด้วยตัวเอง?” ลั่วปิงถามต่อ
หยางเฉินส่ายหน้า และไม่ได้อธิบาย แต่สั่งไปว่า “ถ้าเขตก่อสร้างเกิดเรื่องขึ้นอีก ให้ทุกคนระวังอันตรายไว้ก็พอ ไม่ต้องปะทะอะไรกับอีกฝ่าย นายแค่ต้องรายงานความเสียหายของเมืองจิ่วโจวกับฉัน”
“ต่อให้ทั้งเมืองจิ่วโจวโดนพังจนราบแล้ว ขอเพียงคนของพวกเราไม่เป็นไร งั้นก็ไม่ถือว่ามีเรื่องอะไร”
พูดจบ หยางเฉินหมุนตัวออกไป
ชั่วขณะนั้นลั่วปิงยิ่งงุนงง วันนี้เกิดความเสียหายต่อเขตก่อสร้างไปอย่างน้อยพันล้าน ทำไมดูเหมือนว่าหยางเฉินจะไม่ร้อนใจสักนิด?
เขาติดตามหยางเฉินเป็นเวลานานแล้วเช่นกัน กลับไม่เคยเจอช่วงเวลาที่หยางเฉินล้มเหลวมาก่อน
เพียงแต่ ถึงเป็นเช่นนี้ เขายังเป็นห่วงเอามากๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งศัตรูในครั้งนี้ไม่เหมือนกับสมัยก่อน การมีอยู่อันแข็งแกร่งที่ต่อให้เป็นแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ก็ล่วงเกินไม่ได้เช่นกัน
ทั้งวันหนึ่งเต็มๆ เขาจิตใจสับสนวุ่นวาย มักรู้สึกว่าวันนี้จะมีเรื่องราวเกิดขึ้น
“ฉันคิดเหลวไหลอะไรอยู่ล่ะ?”
ทันใดนั้นลั่วปิงส่ายหน้า พูดด้วยสีหน้าแน่วแน่ “ฉันควรเชื่อใจท่านประธาน ในเมื่อเขามีคำสั่งออกมาแล้ว งั้นฉันไปทำตามคำสั่งเขาก็พอ”
“ความปลอดภัย! ความปลอดภัย! ความปลอดภัย! เรื่องสำคัญย้ำสามรอบ!”
หลังจากลั่วปิงเตือนสติตนเองอยู่สักครู่ จากนั้นรีบกลับไปเขตก่อสร้างทันที เขาคิดจะคุมงานด้วยตนเอง
อีกด้านหนึ่ง เซวหยวนป้ากำลังรอหยางเฉินไปหาเรื่องเซวหยวนจี๋๋มาตลอด แต่ว่ารอมาทั้งวันแล้ว ก็ยังไม่ได้รับข่าวคราวใดๆ
“ยังไม่มีข่าวอะไรอีกเหรอ?”
เซวหยวนป้าเรียกที่ปรึกษาเริ่นเจี้ยนหรงเข้ามาแล้ว ถามอย่างร้อนใจ
เริ่นเจี้ยนหรงส่ายหน้า “เมื่อสักครู่นี้ ผู้สอดแนมที่แทรกตัวอยู่ในเขตก่อสร้างเมืองจิ่วโจวส่งข่าวมาว่า หยางเฉินอยู่ที่เขตก่อสร้างทั้งวันเต็มๆ เพิ่งออกไปเมื่อกี้ครับ”
เซวหยวนป้าขมวดคิ้วขึ้นมา “ไม่น่าจะใช่นะ หยางเฉินไม่ใช่คนที่ยอมเสียเปรียบแบบนี้ เซวหยวนจี๋๋เกือบพังเมืองจิ่วโจวราบเป็นหน้ากลอง เขาไม่มีปฏิกิริยาสักนิดได้ยังไง?”
เริ่นเจี้ยนหรงบอกอีกว่า “ตอนนี้ทุกอย่างของเขตก่อสร้างเมืองจิ่วโจวกลับสู่สภาพปกติแล้วครับ ว่ากันว่าหยางเฉินสั่งไว้ว่า สิ่งก่อสร้างทั้งหมดที่ได้รับความเสียหาย ให้รื้อสร้างใหม่หมดเลยครับ”
“ครั้งนี้ เดาว่าคงทำให้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปเสียหายอย่างน้อยพันล้านครับ โดยเฉพาะยังไม่รวมความเสียหายที่ดำเนินการก่อสร้างล่าช้าไปด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...