เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า หยางเฉินค้นหาทีละตู้จริงๆ
เพียงแต่ เฉียนเปียวจะมองหยางเฉินแวบหนึ่งอยู่ไม่ขาดสาย
ในขณะเดียวกัน ภายในคฤหาสน์หรูแห่งหนึ่งที่เมืองเยี่ยนตู เซวหยวนจี๋กำลังมองทางหน้าจอโทรทัศน์ด้วยท่าทางหยอกเย้า
ส่วนภาพเหตุการณ์ที่อยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ก็คือท่าเรือ เขตชานเมืองทิศเหนือ ล้วนเป็นตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด
หยางเฉินกำลังค้นหาไปทีละตู้ หน้าตาเต็มไปด้วยความกังวลใจ
“ฮาๆ เธอเห็นแล้วรึยัง? สามีเธอกำลังตามหาเธออยู่ ที่นี่มีตู้คอนเทนเนอร์หนึ่งแสนกว่าตู้ จากระดับความเร็วของสามีเธอ ค้นหาตู้คอนเทนเนอร์ครบหนึ่งแสน เกรงว่าฟ้าคงสว่างแล้ว”
เซวหยวนจี๋หันหน้ามองทางผู้หญิงอายุน้อยที่อยู่บนโซฟาด้านข้าง หัวเราะหึๆ พูดว่า “เธอว่า รอหลังจากเขาหาทุกตู้คอนเทนเนอร์ แล้วฉันค่อยบอกเขาว่า เธออยู่ในมือฉัน เขาจะโมโหแทบบ้ารึเปล่า?”
“แกมันสารเลว! ไร้ยางอาย!”
ในดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยน้ำตา ตาแดงก่ำตะคอกใส่ “ดีที่สุดแกปล่อยฉันไป ไม่อย่างนั้นแกจะต้องเสียใจแน่!”
หญิงสาวไม่ใช่ใครอื่น คือฉินซีที่หยางเฉินพยายามตามหา
เพียงแค่ แม้แต่หยางเฉินก็คงนึกไม่ถึงว่า ฉินซีจะถูกพามาอยู่ข้างกายของเซวหยวนจี๋แล้ว
“แม่หนูนี่แสบน่าดู ฉันชอบ! ถ้าไม่ใช่ว่าเธอยังมีประโยชน์ต่อฉัน เธอคงนอนอยู่บนเตียงแล้ว”
เซวหยวนจี๋ยิ้มกริ่มบอกไป
ฉินซีสั่นเทาไปทั่วทั้งตัว นั่งตัวตรงโดยจิตใต้สำนึก
เธอมองความเร่าร้อนในสายตาของเซวหยวนจี๋ออก
“ทำไมแกต้องทรมานหยางเฉินแบบนี้?”
ฉินซีกัดฟันถามขึ้นกะทันหัน
ถึงแม้เธอจะถูกคนของเซวหยวนจี๋พาตัวเข้ามา เพียงแต่อยู่บนรถอยากจะหักพวงมาลัย กลับถูกตีจนสลบไป
หลังจากนั้น เธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด
เธอมีความรู้สึกว่า เซวหยวนจี๋ไม่ได้อยากจะทำอะไรเธอกับหยางเฉินจริงๆ แต่ว่ามีวัตถุประสงค์ที่ไม่อาจบอกใครได้อยู่
เซวหยวนจี๋ยิ้มกริ่มจ้องฉินซีพลันถามว่า “เธอกำลังคิดว่า ทำไมฉันถึงต้องทำแบบนี้?”
ฉินซีเพียงแค่ทำหน้าโกรธเคือง และไม่ได้ตอบกลับ
“เฉินอู่ นายมาบอกคุณฉินทีสิ ทำไมฉันถึงต้องทำแบบนี้?”
ทันใดนั้นเซวหยวนจี๋บอกกับชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง
เฉินอู่อายุประมาณสี่สิบปี สวมชุดสูทตัวหนึ่ง ใส่แว่นตากรอบทองไว้ แสงไฟที่สาดส่องผ่านเลนส์แว่น เห็นได้ชัดว่าทำให้เขาดูเหมือนเจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อนอยู่บ้าง
เขาดันแว่นตาแล้ว หัวเราะพลางบอกว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ เจ้าชายรองน่าจะอยากจะทำให้หยางเฉินเชื่อง?”
เซวหยวนจี๋ไม่ได้ตอบ เพียงแค่ทำหน้าอมยิ้มเล็กน้อย จากนั้นยกแก้วชาขึ้น ดื่มไปอึกเล็กๆ ด้วยท่าทางพึงพอใจ
เฉินอู่พูดต่อไปว่า “ครั้งแรกที่เจ้าชายรองส่งคนไปเขตก่อสร้างเมืองจิ่วโจว เริ่มชนสิ่งก่อสร้างส่วนหนึ่งจนพัง จากนั้นก็วางแผนแล้ว”
“ครั้งแรกชนอาคารจนพัง เพื่อกระตุ้นไฟโกรธของหยางเฉินขึ้น ให้เขาเสียการควบคุมสติ”
“ครั้งที่สองคือเมื่อเย็น ได้ซื้อตัวผู้ส่งของของโครงการเมืองจิ่วโจวไว้ ชนอาคารของเมืองจิ่วโจวอีกครั้ง เพื่อล่อเสือออกจากถ้ำ”
“ถ้าหยางเฉินไม่รีบไปที่เขตก่อสร้าง กุ่นเจี้ยนโฉวจะมีโอกาสพาตัวคุณฉินมาได้อย่างไร?”
ฉินซีทำหน้าตกใจ นึกไม่ถึงว่า วันนี้จะเกิดเรื่องมากขนาดนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นการจัดฉากพุ่งเป้าไปยังหยางเฉิน
“เอาตัวฉันมาที่นี่ สำหรับพวกแกแล้ว จะมีความหมายอะไร?”
ฉินซีสอบถาม
เฉินอู่หัวเราะแล้ว “ผู้ชายคนหนึ่งที่เพื่อคุณแล้ว สามารถเปลี่ยนจากสวะคนหนึ่งเติบโตมาถึงขั้นนี้แบบปัจจุบันนี้ได้ ก็สามารถอธิบายได้แล้วว่า คุณมีความสำคัญต่อผู้ชายคนนี้”
“ขอเพียงคุณเกิดเรื่องขึ้น เขาจะต้องขาดสติเป็นแน่ ซึ่งความจริงได้พิสูจน์แล้วว่า ผู้ชายคนนี้ ขาดสติเพราะคุณจริงๆ ด้วย”
ฉินซีสั่นไปทั้งตัว แม้แต่ตัวเธอเอง ยังไม่ได้สำนึกถึงเลยว่า ในสายตาหยางเฉิน ตนเองจะสำคัญขนาดนี้
ตาทั้งสองของเธอแดงก่ำ ดวงตาเปียกชื้นแล้ว
“คุณฉิน คุณนี่ทำให้คนอิจฉาเสียจริงเลย ครอบครองผู้ชายที่รักคุณมากขนาดนี้ไว้ ถ้าเรื่องราวระหว่างพวกคุณเผยแพร่ออกไป เกรงว่าผู้หญิงบนโลกนี้ ล้วนจะอิจฉาคุณแทบแย่เลยล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...