หยางเฉินหมดคำจะพูดจริงๆ ส่ายหน้าอย่างจำใจ “ฉันบอกแล้วว่าไม่รับก็คือไม่รับ เธอไปเถอะ!”
“ฉันไม่ไป!”
กวนเย่วรีบส่ายหน้าทันที “ถ้าฉันไปแล้ว คุณจะรับฉันเป็นศิษย์ไหม?”
“อาจารย์คะ ท่านรับฉันไว้เถอะค่ะ ไม่ว่าเป็นการฝึกต่อสู้หรือว่าปรนนิบัติรับใช้ ขอเพียงเป็นคำสั่งของท่าน ให้ฉันทำอะไร ฉันยินยอมทั้งหมดค่ะ”
พูดจบ กวนเย่วตั้งใจทำท่าทางขวยอาย ก้มหน้าลงเล็กน้อย
หยางเฉินตกตะลึงพรึงเพริด หญิงสาวคนนี้พูดถึงฝีมือการแสดงก็มีอยู่จริง พูดถึงหน้าตาก็สวยจริง ไม่ไปเป็นนักแสดง คงน่าเสียดายจริงๆ แล้ว
“เธอคงยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยมั้ง?”
หยางเฉินถามขึ้นกะทันหัน
กวนเย่วมองตาค้อนทีหนึ่ง “อาจารย์คะ ปีนี้คนอื่นเขายี่สิบเอ็ดปีแล้ว ฉันเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง เรียนจบมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุสิบเก้าแล้วค่ะ ท่านอย่าดูถูกคนอื่นนะคะ”
“เรียบจบแล้วก็ดี ฉันว่าเธอสนใจด้านการแสดงขนาดนี้ ในมือฉันมีบริษัทการบันเทิงอยู่ จะส่งเธอไปถ่ายละครที่กองละครบริษัท”
หยางเฉินพูดแบบหน้าตาไร้ความรู้สึก “จากฝีมือการแสดงขั้นสูงของเธอ ต้องดังไปทั่วจิ่วโจวได้แน่ ฉันจะติดต่อไปเดี๋ยวนี้ ให้คนพาเธอเข้าไป”
พูดจบ หยางเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นอยากต่อสายอย่างคาดไม่ถึง
กวนเย่วขยับเท้า รีบพุ่งไปที่หน้าโต๊ะทำงาน ดึงสายโทรศัพท์ทิ้งแล้ว
“อาจารย์คะ ฉันมาไหว้ครูเรียนวิชาจริงๆ นะ ท่านไล่ฉันไปกองละครได้อย่างไรกัน?”
กวนเย่วทำท่าทางร้องไห้สะอึกสะอื้น ตาแดงๆ พูดว่า “ท่านดูสิคะฉันน่ารักขนาดนี้ เชื่อฟังขนาดนี้ ถ้าไปที่กองละครแล้ว ผู้กำกับอยากรังแกฉันจะทำอย่างไรคะ?”
“ท่านทนให้เด็กสาวอย่างฉันที่น่ารักขนาดนี้ถูกรังแกได้จริงเหรอคะ?”
“อาจารย์คะ ฉันอยากมาขอให้ท่านเป็นอาจารย์จริงๆ ท่านทำให้ฉันสมหวังเถอะนะคะ!”
หยางเฉินไม่รู้ว่าควรร้องไห้หรือหัวเราะดี นี่คืออยากบีบให้เขารับเป็นศิษย์เหรอ?
“ไม่รับ!”
หยางเฉินส่ายหน้า จากนั้นหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาแล้ว อ่านไปด้วยพูดไปด้วยว่า “ฉันจะทำงานแล้ว เธอตามสบายแล้วกัน!”
กวนเย่วนึกอะไรออก รีบมาที่ด้านหลังของหยางเฉิน ใช้มือทั้งสองนวดบนไหล่ของหยางเฉินขึ้นมาแล้ว
“อาจารย์คะ ท่านทำงานเถอะค่ะ ไม่ต้องสนใจฉัน ฉันจะนวดไหล่ให้ท่านสักหน่อย”
กวนเย่วหัวเราะหึๆ บอกไป จากนั้นไม่พูดอะไรสักประโยคเดียวจริงๆ
หยางเฉินอยากหัวเราะ แต่ไม่ได้หัวเราะออกมา และไม่ห้ามปราม ปล่อยกวนเย่วนวดไหล่ให้ตนเองไป
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า เดิมทีหยางเฉินคิดว่า กวนเย่วจะยืนหยัดได้ไม่นานเท่าไร แต่ที่ทำให้เขาตกใจคือ ผ่านไปยี่สิบนาทีเต็มๆ กวนเย่วยังช่วยหยางเฉินนวดไหล่อยู่
ไม่ต้องพูดถึงว่า วิธีการนวดของกวนเย่วยอดเยี่ยมมาก หยางเฉินรู้สึกสบายตัวมาก ถ้าไม่ใช่ยังมีงานต้องทำ เขาคงหลับไปแล้ว
“พอแล้ว ฉันต้องออกไปข้างนอกสักหน่อย”
หยางเฉินเอ่ยปากทันใด
“อาจารย์คะ ท่านอยากไปที่ไหน? ฉันจะไปเป็นเพื่อนท่านค่ะ”
กวนเย่วรีบวิ่งมาด้านหน้าหยางเฉิน พูดด้วยหน้าตารอคอย
หยางเฉินรู้ถึงความไร้เหตุผลของหญิงสาวคนนี้ และไม่ได้ห้าม จากนั้นหมุนตัวออกไป
หลังเดินออกจากห้องทำงาน ผู้คนมากมายมองเห็นกวนเย่วที่ตามอยู่ด้านหลังหยางเฉิน ล้วนทำหน้าประหลาดใจ ท่านประธานมีผู้ติดตามเพิ่มมาอีกคนตั้งแต่เมื่อไร?
“หยางเฉิน หล่อนคือใคร?”
หยางเฉินเพิ่งเดินออกจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเสียงหนึ่ง ดังขึ้นด้านหลังหยางเฉินอย่างฉับพลัน
มองเห็นลักษณะท่าทางที่โกรธเคืองของฉินยี หยางเฉินก็รู้ว่าฉินยีเข้าใจผิดแล้ว จึงรีบอธิบายว่า “เสี่ยวยี เธออย่าเข้าใจผิด หล่อนก็แค่คนไร้เหตุผลที่......”
หยางเฉินยังไม่ทันพูดจบ กวนเย่วก็วิ่งมาตรงหน้าฉินยีแล้ว จ้องฉินยีในระยะใกล้ จากนั้นพูดแบบหน้าตาดีใจว่า “ท่านจะต้องเป็นอาจารย์หญิงแน่เลย? ช่างงดงามเสียเหลือเกินค่ะ ท่านได้แต่งงานกับอาจารย์ของฉัน ยังเป็นเหมือนดอกไม้งามเสียบบนขี้วัวเสียจริงค่ะ” (เปรียบเทียบเหมือนหญิงสาวผู้งดงามโดดเด่นได้แต่งงานกับสามีที่อัปลักษณ์)
“ใช่แล้ว ฉันเกือบลืมแนะนำตัวเองไปเลย อาจารย์หญิงสวัสดีค่ะ ฉันชื่อกวนเย่ว เป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของอาจารย์ค่ะ ต่อไปมีอะไรอยากสั่ง ท่านสั่งได้ตามสบายเลยนะคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...