“ฉันยังรู้ว่า ตอนที่พวกเธอออกจากบ้านหลังนั้น เธออายุเพียงสิบเอ็ดขวบ แต่เธอกับพี่ชาย โดนพวกค้ามนุษย์ลักพาตัวไปที่สถานีรถไฟ”
“หลังจากนั้นพี่ชายเธอหนีออกมาได้ อยากช่วยเธอออกมา แต่เขาอายุเพียงสิบสามขวบ จึงไม่สามารถทำได้”
“และในตอนนั้น เธอโดนพวกค้ามนุษย์ขาย ให้กับบ้านพ่อแม่บุญธรรมของเธอในตอนนี้”
“สิบสองปีที่อยู่ในบ้านพ่อแม่บุญธรรม พวกเขากดขี่ข่มเหงเธอไม่หยุด ตั้งแต่ตอนประถม พวกเขาก็ไม่ให้เธอไปเรียน เธอต้องเก็บเศษของในกองขยะไป เรียนไป จึงผ่านพ้นช่วงประถม มัธยมต้นและมัธยมปลายมาได้”
“จนกระทั่งช่วงมหาวิทยาลัย เธอจึงมีเวลาทำงานพาร์ทไทม์ แต่ทุกเดือน ต้องเอาเงินส่วนใหญ่ ที่ได้จากการทำงานพาร์ทไทม์อย่างยากลำบาก ส่งกลับไปที่บ้านพ่อแม่บุญธรรม”
“แม้ว่าเธอจบมหาวิทยาลัยแล้ว พ่อแม่บุญธรรมยังไม่หยุดกดขี่รังแกเธอ จนกระทั่งทุกวันนี้”
ตอนหยางเฉินพูดแต่ละเรื่องออกมา หมีเสวี่ยอึ้งไปทันที
“พี่หยางรู้หมดแล้วเหรอ”
พูดจบ หมีเสวี่ยสีหน้าเจ็บปวด ดวงตาแดงก่ำ กัดริมฝีปากแน่น เพื่อไม่ให้น้ำตาตัวเองไหลออกมา
หยางเฉินพยักหน้า “ฉันรู้หมดแล้ว สำหรับสิ่งที่เธอพบเจอมา ฉันรู้สึกเจ็บปวดใจมากจริงๆ”
หมีเสวี่ยไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าเงียบ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอเงยหน้ามองหยางเฉิน จู่ๆ ก็หัวเราะเยาะตัวเอง “ดังนั้น การที่พี่ช่วยฉัน อันที่จริงเพราะเห็นใจฉันใช่ไหม”
หยางเฉินรีบส่ายหน้า “จะเป็นงั้นได้ไง”
แม้หยางเฉินปฏิเสธ แต่เห็นได้ชัดว่า หมีเสวี่ยยังไม่เชื่อ
“พี่หยาง ฉันขอไปห้องน้ำสักครู่”
หมีเสวี่ยพูดจบ ก็หันหลังวิ่งออกไป
ในห้องอาหารมีห้องน้ำ ตอนนี้ หมีเสวี่ยไม่สามารถกลั้นน้ำตาตัวเองได้ และไม่อยากให้หยางเฉินเห็น ดังนั้นจึงวิ่งไปข้างนอก
ขณะนั้น อาหารยกมาเสิร์ฟอย่างต่อเนื่อง
มองอาหารอันโอชะเต็มโต๊ะ แต่หยางเฉินกลับไม่อยากอาหารสักนิด เขาทุกข์ใจจนพูดไม่ออก
หมีเสวี่ยเป็นน้องสาวแท้ๆ ของหม่าชาว หลายปีมานี้ เจอความลำบากมากมายขนาดนี้ เขาเป็นพี่น้องที่ดีกับหม่าชาว ในสายตาของเขา หมีเสวี่ยก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาเหมือนกัน
น้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง รับความลำบากมาหลายปี คนเป็นพี่ชาย จะไม่ทุกข์ใจได้อย่างไร
ผ่านไปประมาณสิบนาที หมีเสวี่ยจึงกลับมาที่ห้องอาหาร
ถึงใบหน้าไม่มีน้ำตา แต่ตาบวมแดงจนเห็นอย่างชัดเจน เบ้าตาเปียกชื้น เห็นได้ชัดว่าเพิ่งร้องไห้มา
“พี่หยาง ขอโทษที่ให้รอนาน!”
หมีเสวี่ยพูดอย่างมีมารยาท
หยางเฉินส่ายหน้า “ค่อยพูดกัน ทานข้าวเถอะ เดี๋ยวเย็นหมด”
พูดพลาง หยางเฉินหยิบถ้วยเล็กๆ วางตรงหน้า หมีเสวี่ย
เมื่อ หมีเสวี่ยเห็นในถ้วยเล็กๆ เป็นกุ้งที่แกะเปลือกแล้ว จู่ๆ ดวงตาแดงขึ้นอีก น้ำตาไหลนองหน้า เหมือนเขื่อนแตก
“เสียวเสวี่ย อย่าร้องสิ พี่หยางพูดอะไรผิดอีกหรือเปล่า”
เห็น หมีเสวี่ยร้องไห้สะอึกสะอื้น จู่ๆ หยางเฉินร้อนใจขึ้นมา
หมีเสวี่ยส่ายหน้าเบาๆ หยิบทิชชูเช็ดน้ำตาบนหน้า มองหยางเฉินและยิ้มอย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงเอ่ยว่า “พี่หยางไม่ได้พูดอะไรผิด แค่ฉันโตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนดีกับฉันขนาดนี้ ฉันซาบซึ้งใจ”
พูดพลาง เธอคีบเนื้อกุ้งขึ้นมาทาน
น้ำตาที่เพิ่งเช็ดไปจนหมด กลับไหลออกมาอีกครั้ง
เธอร้องไห้ไป กินกุ้งที่หยางเฉินแกะเปลือกให้ไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...