The king of War นิยาย บท 95

พอได้ยินคำพูดของฉินซี หยางเฉินก็รู้ได้ว่า เธอได้ตื่นรู้เข้าใจทุกอย่างแล้ว

ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาก็จะไปจัดการได้อย่างสบายใจ

“คุณวางใจเถอะ ผมจะไม่ทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย”

หยางเฉินพูดด้วยใบหน้ามจริงจัง แล้วก็หันไปมองมุมบ้านชั้นสองที่ถูกทำลายไป แล้วก็หยิบกุญแจยื่นให้ฉินซี “ถ้ายังอยู่บ้านหลังนี้ต่อ ก็จะเป็นอันตรายเอาได้สักวัน วันนี้คุณกับเสี่ยวยีก็ไม่ต้องทำงานแล้ว เก็บข้าวของ แล้วไปอยู่กับผมเลย!”

ฉินซีกำลังจะปฏิเสธ หยางเฉินก็พูดอีกว่า “พวกเราก็เป็นสามีภรรยากัน คุณกับผมไม่มีอะไรที่ต้องเกรงใจกัน ถือเสียว่าทำเพื่อเสี้ยวเสี้ยว ไปอยู่ที่นั่นกับผมเถอะ!”

ครั้งนี้ ฉินซ๊ไม่ได้ปฏิเสธอีก หยางเฉินขับรถPhaeton ออกไปจากบ้านเล็กตระกูลฉิน

“พี่คะ พี่เขยจะให้เราย้ายบ้านใช่ไหมคะ? เขาซื้อบ้านหลังใหม่แล้วหรือคะ?” ฉินยีถามอย่างสงสัย

ฉินซีพยักหน้า “พวกเราอย่าสร้างปัญหาเพิ่มให้เขาเลย รีบไปเก็บของ แล้วก็ย้ายไปอยู่กับเขาที่นั่นเถอะ!”

พอหลังจากโจวยู่ชุ่ยได้ยินว่าฉินซีพูดว่าจะย้ายบ้าน ก็โมโหขึ้นมา “พวกเราอยู่ที่นี่มาทั้งชีวิต จะย้ายได้อย่างไร? แถมยังย้ายไปอยู่บ้านของหยางเฉินอีก กระจอกอย่างนั้น จะซื้อบ้านแบบไหนกัน? จะย้ายพวกแกก็ย้ายไปเลย แม่ไม่ไปหรอก”

ฉินซีก็ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา “ในเมื่อแม่ไม่ไป งั้นพวกหนูก็ไม่สนใจแล้วนะคะ เสี่ยวยี พวกเรารีบไปเก็บของ ที่คฤหาสน์ของหยางเฉินมีทุกอย่าง เก็บแค่เสื้อผ้าก็พอ”

“พี่เขยซื้อคฤหาสน์เลยหรือคะ!” ฉินยีตกใจ

ฉินซ๊ก็พยักหน้า “อืม คฤหาสน์ใหญ่พอตัวเลยล่ะ ข้างในมีทุกอย่าง นอกจากของมีค่าแล้วก็เสื้อผ้าที่ใส่ ข้าวของอื่นๆ ไม่ต้องย้ายไปหรอก”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูไปเก็บของเลย” ฉินยีพูดอย่างดีใจ

ตอนที่สองพี่น้องกำลังคุยกัน โจวยู่ชุ่ยก็มาแอบฟัง เดิมทีไม่อยากจะย้ายบ้านไป แต่พอได้ยินฉินซีบอกว่าบ้านที่จะย้ายไป เป็นคฤหาสน์ เธอก็ดีใจขึ้นมาทันที

สองพี่น้องยังไม่ทันได้เข้าไปยังห้องของตัวเองเลย โจวยู่ชุ่ยก็รีบวิ่งเข้าห้องตัวเองไปทันที

ฉินซีเคยไปยอดเมฆาและก็รู้ว่าที่นั่นมีทุกอย่าง แค่จัดเตรียมเสื้อผ้าของตนเองและเสี้ยวเสี้ยวก็พอ กระเป๋าเดียวก็พอแล้ว

ฉินยีก็ไม่มีข้าวของอะไรที่ต้องเก็บมากนัก ตอนที่สองพี่น้องกำลังเก็บข้าวของกันเสร็จ แล้วมาถึงที่ห้องโถงนั้น โจวยู่ชุ่ยก็เก็บข้าวของมาเสร็จแล้ว2กระเป๋า

“แม่คะ ทำไมเก็บของด้วยล่ะคะ? แม่จะกลับไปอยู่บ้านคุณยายหรือคะ?” ฉินยีแกล้งประชด

โจวยู่ชุ่ยก็ไม่รู้สึกเคอะเขินอะไร ยิ้มๆ พูดว่า “แม่ก็มีลูกสาวอย่างพวกแกแค่2คน ก็ต้องไปอยู่กับพวกแกน่ะสิ จะให้ไปที่ไหนได้ล่ะ!”

ฝากระโปรงหลังของรถMaserati ใส่กระเป๋าไม่หมด กระเป๋าสองใบของโจวยู่ชุ่ยก็ถูกใส่ไว้ในที่นั่งเบาะหลัง พยายามยัดจนเต็มรถ

ฉินยีเป็นคนขับรถ แล้วก็ขับมุ่งหน้าไปทางยอดเมฆาอย่างช้าๆ

“พี่คะ อย่าบอกนะว่า คฤหาสน์ของพี่เขยอยู่ที่หมู่บ้านวิลล่าหยุนสุ่ยเยวี่ยน?” ตามที่ฉินซีบอกเส้นทางมา ฉินยีก็เริ่มตกใจขึ้นเรื่อยๆ

“ขับไปตามที่พี่บอกก็พอแล้ว ไม่ผิดหรอก” ฉินซีพูด

โจวยู่ชุ่ยก็หัวเราะเสียงเย็น “หยุนสุ่ยเยวี่ยนเป็นโครงการหมู่บ้านที่ดีที่สุดของเจียงโจว วิลล่าของตระกูลสี่พรรคแห่งเจียงโจวล้วนอยู่ที่นั่น ไอ้หมอนั่นจะมีปัญญาไปซื้อคฤหาสน์ที่หยุนสุ่ยเยวี่ยนได้อย่างไรกัน?”

ฉินซ๊ขมวดคิ้ว “แม่อย่าพูดว่าเขาแบบนั้นได้ไหมคะ? เขาเป็นคนอย่างไร แม่ไม่รู้หรอกค่ะ”

ฉินยีก็พูดว่า “วันนี้พี่เขยทำกับฉินเฟยไปอย่างไร แม่ก็เห็น ความอดทนของคนมันมีจำกัดนะคะ แม่ไปเรียกเขาว่า คนไม่เอาไหน ทุกวันๆ สักวันเขาโมโหขึ้นมา แล้วจะไล่แม่ออกไปจากบ้าน แม่อย่ามาร้องไห้แล้วกัน”

“ทำไมพวกแกพูดกับฉันแบบนี้? ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็เป็นแม่ของพวกแก ก็มาพูดแบบนี้เพื่อช่วยคนนอกอย่างนั้นหรือ มีลูกที่ไหนเขาพูดกับแม่แบบนี้กัน?” โจวยู่ชุ่ยก็ไม่พอใจขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War