ทุกคนในครอบครัวตระกูลฉินต่างก็ต้องตกใจเมื่อเห็นฉินเฟยนอนอยู่ในโลงศพ
นายท่านฉินที่โกรธอยู่กับยิ่งโกรธมากกว่าเดิม “นายทำอะไรกับเสี่ยวเฟย?”
เขามีลูกชายเพียงคนเดียว นั่นก็คือพ่อของฉินเฟย ซึ่งนับตั้งแต่ลูกชายของเขาเสียชีวิต ฉินเฟยก็เป็นทายาทในสายเลือดคนสุดท้ายของเขา
และในวันนี้เขาได้เห็นฉินเฟยนอนอยู่ในโลงศพแบบนี้ ใครๆ ก็นึกภาพออกว่าตอนนี้เขาจะโกรธมากแค่ไหน
หลินเสว่เหลียนน้ำตาไหลรินออกมาและร้องไห้ตะโกนเสียงดังว่า “ไอ้สารเลว ฉันจะฆ่าแก!”
เธอวิ่งเข้าไปหาหยางเฉิน แต่หม่าชาวมาขวางไว้และตะโกนพูดว่า “ไปให้พ้น!”
หม่าชาวได้ติดตามหยางเฉินในสนามรบมานานหลายปี ซึ่งความน่าเกรงขามในตัวของเขานั้นชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นหลินเสว่เหลียนที่ถูกตะคอกใส่ก็ตกใจกลัวจนหยุดอยู่กับที่
“ท่านผู้นำ ท่านต้องขอความเป็นธรรมให้กับเสี่ยวเฟยนะ!” หลินเสว่เหลียนรู้ตัวว่าไม่สามารถทำอะไรหยางเฉินได้ เธอจึงทำได้เพียงพูดกับนายท่านฉินด้วยน้ำตา
นายท่านฉินในเวลานี้รู้สึกโกรธมาก แต่เขายังไม่รู้ว่าฉินเฟยยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว อีกอย่างยอดฝีมืออย่างหม่าชาวก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วย เขาจึงไม่กล้าทำอะไรมากกว่านี้ ได้แค่รอคนของตระกูลกวนมาถึงที่นี่ก่อน
“ไอ้แก่ วันนี้ผมมีสองคำถามจะถามคุณ ถ้าคำตอบคุณทำให้ผมพอใจ ผมอาจจะปล่อยตระกูลฉินของพวกคุณไปได้ แต่ถ้าคำตอบทำให้ผมไม่พอใจ ตระกูลฉินของคุณก็ไม่จำเป็นต้องอยู่อีกต่อไป”
หยางเฉินมือไขว้หลังแล้วพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
คำก็ไอ้แก่ สองคำก็ไอ้แก่ ซึ่งมันก็ทำให้นายท่านฉินโกรธจนสุดจะทนแล้วจริงๆ
แต่ถึงกระนั้น นายท่านฉินก็ยังต้องเก็บอารมณ์โกรธและถามว่า “ข้าตอบคำถามของนายได้ แต่นายต้องบอกมาก่อนว่าเสี่ยวเฟยยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”
“ยังมีชีวิตอยู่เหรอ? เหอะๆ คุณจะประเมินครอบครัวคุณสูงไปแล้ว? มันมีสิทธิ์อะไรที่จะให้ผมเลอะมือไปฆ่ามัน?” หยางเฉินพูดอย่างดูถูก
ถึงแม้จะเป็นการดูถูก แต่สำหรับตระกูลฉินแล้วก็ถือว่าเป็นข่าวดี
“นายอยากรู้อะไร ว่ามา!” นายท่านฉินเอ่ยปากพูด
“เมื่อกี้นี้ ฉินเฟยพาทีมรื้อถอนไปที่บ้านเล็กตระกูลฉิน แล้วพวกเขาก็ทุบบ้านทั้งๆ ที่คนในครอบครัวเรายังอยู่ในบ้าน ผมอยากถามว่ามันเป็นคำสั่งของคุณใช่ไหม?” หยางเฉินถาม
สำหรับหยางเฉินแล้วเรื่องนี้เป็นความผิดที่ให้อภัยไม่ได้จริงๆ เพราะในขณะที่บ้านถูกรื้อถอนนั้น ฉินซีกับเสี้ยวเสี้ยวยังอยู่ในบ้านอยู่เลย ถ้าบ้านถล่มลงมาทับฉินซีกับเสี้ยวเสี้ยวแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น?
นายท่านฉินเลิกคิ้วแล้วตอบ “บ้านหลังนั้นเป็นทรัพย์สินของตระกูลฉินของเรา ในเมื่อครอบครัวของนายถูกไล่ออกจากตระกูลแล้ว แล้วนายมีสิทธิ์อะไรไปพักอาศัยอยู่ที่นั่นอีก?”
“คุณหมายความว่า การที่ฉินเฟยสั่งให้รถขุดพังบ้านโดยที่ยังมีคนอยู่ในบ้านนั้น เป็นคำสั่งของคุณใช่ไหม?” หยางเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย
นายท่านฉินรู้สึกว่าลางสังหรณ์เริ่มไม่ดีเข้าแล้ว เพราะไม่ว่าจะอยู่ในบ้านของตระกูลกวนเมื่อคืนนี้ หรือว่าตอนนี้ วาจาและท่าทีของหยางเฉินนั้นแข็งกร้าวมาก ซึ่งถ้าเทียบกับหยางเฉินในห้าปีก่อนนั้นเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย
“ข้าก็แค่สั่งให้เขาไล่พวกนายออกจากบ้าน แล้วให้เขารื้อบ้านนั้นทิ้ง ก็แค่นั้น” นายท่านฉินตอบอย่างตรงไปตรงมา
หลังจากที่นายท่านฉินตอบคำถามเสร็จ เขาก็รู้สึกว่ากลิ่นอายแห่งการฆ่าของหยางเฉินที่มีต่อเขานั้นลดลงไปไม่น้อย
“คำถามที่สอง โลงศพพวกนี้ฉินเฟยเป็นคนส่งไปด้วย แถมยังบอกว่าได้เตรียมโลงศพใบเล็กให้กับลูกสาวผมด้วย อีกอย่างมันบอกเองว่าคุณเป็นคนสั่งมา แล้วคุณจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง?” หยางเฉินถามอีกครั้ง
“สารเลว!”
ครั้งนี้นายท่านฉินเองก็รู้สึกโกรธด้วยเช่นกัน “ข้าขอให้มันทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เรื่องนี้ข้าไม่รู้เรื่องด้วย”
หลังจากพูดจบ สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินเสว่เหลียน “ว่ามา เรื่องนี้เป็นฝีมือเธอใช่ไหม?”
นับตั้งแต่ฉินเฟยได้รับตำแหน่งผู้สืบสกุลของตระกูลฉิน หลินเสว่เหลียนก็วางตัวเย่อหยิ่งในครอบครัวนี้ และยังเป็นผู้บงการเรื่องต่างๆ อยู่เบื้องหลังของฉินเฟยอีกด้วย
ซึ่งเรื่องนี้นายท่านฉินก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่ามันจะบานปลายขนาดนี้
หลินเสว่เหลียนตกใจจนทำตัวไม่ถูก “พรึ่บ” เธอคุกเข่าลงต่อหน้านายท่านฉินและรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ท่านผู้นำคะ เรื่องนี้หนูไม่รู้เรื่องจริงๆ นะ! หยางเฉินก็แค่ไอ้กระจอกที่ถูกขับไล่ออกจากครอบครัว แล้วจะไปเชื่อคำพูดมันได้ยังไง? เผลอๆ โลงศพพวกนี้มันเป็นคนจัดหามาเอง เพื่อจะสร้างเรื่องมากล่าวหาเสี่ยวเฟยก็ได้นะ”
เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกผิด ถึงได้คุกเข่าลงแบบนี้ หยางเฉินได้แต่หรี่ตามองเธอ เพราะไม่ว่าจะเป็นความคิดของเธอหรือไม่ หยางเฉินก็จะลงโทษฉินเฟยกับผู้หญิงคนนี้ให้สาสม
นายท่านฉินเริ่มรู้สึกลำบากใจ เขารู้จักคนอย่างหลินเสว่เหลียนดี นับตั้งแต่หลินเสว่เหลียนคุกเข่าลงเขาก็รู้ความจริงในเรื่องนี้แล้ว
แต่นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายของตระกูลฉินของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ทำอะไรกับหลินเสว่เหลียนต่อหน้าสาธารณะอยู่แล้ว
“หยางเฉิน ข้าตอบคำถามทั้งสองข้อของนายไปแล้ว อีกอย่าง ต่อให้เสี่ยวเฟยทำอะไรกับพวกนายก็ตาม แต่พวกนายก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ? แล้วนายคิดจะเอายังไงอีก?” นายท่านฉินพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“โครม!”
หยางเฉินเตะออกไปด้วยความแรง จนโลงศพโลงหนึ่งแตกเป็นเสี่ยงๆ
ทุกคนต่างก็ตกใจอีกครั้ง
“คุณบอกว่าบ้านเล็กตระกูลฉินเป็นทรัพย์สินของครอบครัวตระกูลฉิน และบอกว่าคุณจะเอามันกลับ ผมไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่หลานชายคุณรื้อถอนบ้านโดยที่ครอบครัวผมยังอยู่ข้างใน แล้วคุณยังมีหน้ามาถามผมว่าผมจะยังไงงั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...