จากนั้นตามด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของฉินเฟยที่ดังสนั่นไปทั่วคฤหาสน์ตระกูลฉิน
“เสี่ยวเฟย!”
นายท่านฉินตะโกนด้วยความโกรธ และหลินเสว่เหลียนก็ตะโกนอย่างเสียงดังแล้ววิ่งเข้ามาหาฉินเฟยโดยไม่สนอะไรอีก
“ไปให้พ้น!”
หม่าชาวตบหลินเสว่เหลียนจนกระเด็นออกไปและสลบคาที่ทันที
เขายืนอยู่ข้างหยางเฉินด้วยความน่าเกรงขาม และคนของตระกูลฉินก็ไม่กล้าขยับไปไหนอีก
สำหรับ นายท่านฉินแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องโกรธมากขนาดนี้ เพราะเด็กคนหนึ่งที่ถูกเขาไล่ออกจากบ้านและยังเป็นเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานของเขา แต่กลับเหยียบขาฉินเฟยหักต่อหน้าเขา
“หยางเฉิน นายทำแบบนี้นายไม่กลัวคนของตระกูลกวนใช่ไหม?” นายท่านฉินกัดฟันพูด
หยางเฉินหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วมองไปที่ฉินเฟยที่กำลังคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่ “เห็นมั้ย? นี่ก็คือคุณปู่ของคุณ เขาเห็นแก่ศักดิ์ศรีของตนมากกว่า แม้ว่าผมจะฆ่าคุณตอนนี้ แต่เขาก็ไม่ยอมขอร้องเพื่อให้ผมหยุดทำร้ายคุณหรอก”
“หยาง หยางเฉิน ผม ผมขอร้อง ปล่อย ปล่อยผมไปเถอะ”
ฉินเฟยเจ็บจนปากสั่นตัวสั่นและเริ่มพูดไม่ชัดเจนแล้ว
หยางเฉินเห็นถึงความกลัวในแววตาของเขาแล้ว เขาไม่มีทางกล้าต่อกรกับหยางเฉินต่อหน้าอีก แต่ว่า หยางเฉินจะปล่อยเขาไปแบบนี้ได้อย่างไร?
“ถ้าปู่คุณยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตนแล้วมาขอร้องผมให้หยุด บางทีผมอาจจะปล่อยคุณไปก็ได้นะ”
มุมปากของหยางเฉินยกขึ้นและเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มอันน่ากลัวดั่งปีศาจร้ายของเขา เขาแค่อยากรู้ว่านายท่านฉินนั้นมีจิตใจที่แข็งกระด้างมากแค่ไหน
“คุณปู่ครับ คุณปู่รีบขอร้องเขาสิครับ ให้เขาปล่อยผมไป ไม่อย่างนั้นผมคงต้องนอนอยู่บนเตียงทั้งชีวิตแน่เลยครับ คุณปู่ รีบขอร้องเขาสิ!”
ฉินเฟยเจ็บปวดจนเหงื่อท่วมตัวราวกับว่าเพิ่งถูกน้ำสาดใส่
นายท่านฉินเคร่งเครียดและมองไปที่หยางเฉินอย่างไม่กะพริบตา “หยางเฉิน นายอย่ามากเกินไปนะ นายคิดว่านายเป็นใครกันแน่? ทำไมคนอย่างข้าต้องขอร้องนายด้วย?”
“ดูเหมือนว่าในใจของไอ้หมาแก่ คุณไม่มีความสำคัญเท่ากับศักดิ์ศรีของเขาเลยสินะ คุณจะโทษผมไม่ปล่อยคุณไปไม่ได้นะ คุณต้องโทษไอ้หมาแก่ที่ไม่ยอมช่วยคุณมากกว่า”
หยางเฉินพูดอย่างเย้ยหยัน และหลังจากที่เขาพูดจบก็ยกเท้าขึ้นและเหยียบไปที่เข่าอีกข้างของฉินเฟย
“คุณปู่ครับ คุณปู่ช่วย......อ๊าก......”
ฉินเฟยยังไม่ทันพูดจบ ความเจ็บปวดของเข่าอีกข้างที่ถูกเหยียบจนแตกหักก็กลับมาอีกครั้ง และเขาก็ได้แต่ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ณ ขณะนี้เข่าทั้งสองข้างของเขาก็แตกละเอียดไปเรียบร้อย ต่อให้เทวดามาก็ไม่อาจรักษาเขาได้อีก
นับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉินเฟยก็จะกลายเป็นคนพิการอย่างแท้จริง
ซึ่งคราวนี้ฉินเฟยไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดที่รุนแรงนี้ได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงหมดสติไปในที่สุด
“หยางเฉิน!”
นายท่านฉินกัดฟันแน่นๆ จนฟันเกือบหัก
ส่วนคนอื่นๆ ก็เหมือนได้รู้จักหยางเฉินใหม่อีกครั้ง นัยน์ตาของทุกคนก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หลายๆ คนรู้สึกโชคดีมากที่ยืนอยู่ด้านหลังฉินเฟย ไม่อย่างนั้นคนที่ต้องขาหักทั้งสองข้างอาจจะเป็นพวกเขาเองก็ได้
“ถ้าคุณยอมฟังผมแต่แรก แขนขาของฉินเฟยคงไม่ต้องหักหรอก เพราะผมไม่ได้คิดจะทำแบบนี้เหมือนกัน แต่คุณไม่ยอมฟังผมเอง ช่วยไม่ได้ เอาสิ ตอนนี้เข่าทั้งสองข้างของฉินเฟยใช้การไม่ได้อีกแล้ว เขาไม่มีวันได้ลุกขึ้นยืนอีก”
หยางเฉินพูดขึ้นอย่างกะทันหัน “ตอนนี้ ผมจะให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย ขอเพียงคุณยอมทิ้งศักดิ์ศรีของคุณ แล้วขอร้องให้ผมปล่อยฉินเฟยไป ผมอาจจะใจดีแล้วเก็บแขนทั้งสองข้างของเขาไว้”
“เรื่องอะไรที่ข้าจะต้องร้องขอไอ้กระจอกที่ถูกข้าไล่ออกจากตระกูลอย่างนาย? ต่อให้นายฆ่าเสี่ยวเฟยข้าก็ไม่มีวันก้มหัวให้นายหรอก แต่จำไว้ด้วยละกัน นายทำอะไรกับเสี่ยวเฟย เดี๋ยวคนของตระกูลกวนก็จะทำเช่นนั้นกับนายเช่นกัน”
นายท่านฉินไม่ได้ปกปิดความเกลียดชังที่มีต่อหยางเฉินอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...