ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 20

หลังจากที่พูดหยอกล้อกันแล้ว ลู่ม่านก็นึกได้ว่าตอนนี้หนาวแล้ว พวกเขายังไม่มีผ้าห่มอุ่นๆเลย

สำหรับความเห็นนี้ เฉินจื่ออานเคารพในการตัดสินใจของลู่ม่าน ดังนั้นลู่ม่านจึงไปซื้อผ้าห่มผ้าไหมนุ่มมา จ่ายไปหนึ่งร้อยแปดสิบเหวิน แล้วยังอยากซื้อเสื้อผ้าอีก แต่พอนึกถึงเฉินหลี่ซื่อ ลู่ม่านรู้สึกว่าช่างเถอะ

ก่อนที่จะแยกบ้านกัน นางจะซื้อของเยอะไม่ได้ ซื้อแต่ของที่จำเป็นก็พอแล้ว

ตอนที่ผ่านร้านอาหาร ลู่ม่านเห็นถั่วเหลือง นางชะโงกหัวเข้าไปดู ถั่วเหลืองกรัมละสามเหวินเลยเหรอ? แพงกว่าข้าวสารอีก

แต่ว่าก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่

เพราะยังไง ยุคสมัยนี้ ประโยชน์ของถั่วเหลืองมีไม่มาก คนที่ปลูกก็มีไม่เยอะ

ลู่ม่านคิดว่า ถ้าอนาคตแยกบ้านกันแล้ว มีที่ดินเป็นของตัวเอง นางอาจจะปลูกมาขายก็ได้ แบบนี้ด้านของต้นทุนอาจจะประหยัดได้เยอะ

แต่ว่า จะได้แยกบ้านกันเมื่อไหร่นะ? ลู่ม่านรู้สึกเหมือนหนทางยังอีกยาวไกลเลย!

ทั้งสองเดินเที่ยวกันอีกสักหน่อย เฉินจื่ออานก็ไปซื้อเชือกมา ลู่ม่านจะพูดอยู่หลายครั้ง นึกถึงเรื่องของเฉินจื่อคัง ทันใดนั้นนางก็พูดว่า “จื่ออาน พวกเราไปเยี่ยมเฉินจื่อคังกันไหม?”

วันก่อน หลังจากที่มาขอเงินที่บ้านแล้ว เฉินจื่อคังก็กลับไปโรงเรียนทันที

“ได้สิ!” เฉินจื่ออานรักน้องชายคนนี้มากอยู่แล้ว และยังอิจฉาที่น้องชายเป็นนักเรียน ดังนั้นพอได้ยินลู่ม่านพูดแบบนี้ เขาก็ดีใจมาก

ตั้งใจซื้อขนมจากในตำบลมา ทั้งสองก็เดินทางไปยังโรงเรียนทันที

ลุงยามที่เฝ้าหน้าประตูบอกว่า ตอนนี้เป็นเวลาเข้าเรียน ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไป เฉินจื่ออานมองลู่ม่าน “เสี่ยวม่าน เจ้าเหนื่อยไหม? ถ้าเหนื่อยล่ะก็ ข้าเอาของลุงเขาช่วยส่งเข้าไปก็ได้นะ”

“ไม่เหนื่อย!” วันนี้ลู่ม่านจะมาหาคำตอบให้ได้ จะต้องรอจนถึงสุดท้ายสิ

“งั้นพวกเราไปรอตรงนั้นกัน” เฉินจื่ออานว่าแล้ว ก็พาลู่ม่านเดินไปรอที่ใต้ต้นไม้

ลู่ม่านหายใจหอบ เห็นเฉินจื่ออานกวาดตามองรอบๆด้วยสายตาที่คาดหวัง นางจึงถามว่า “จื่ออาน เจ้าอยากเรียนหนังสือเหรอ?”

“ไม่หรอก……” เฉินจื่ออานเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ เกาหัวแกรกๆอย่างเขินอาย

“ข้ามองออกนะ” ลู่ม่านพูด

เฉินจื่ออานก็ถึงพูดว่า “ตอนเด็กอยากเรียนหนังสือมาก ตอนนี้คงสายไปแล้วล่ะ……” เขามีครอบครัวแล้ว จะมีโอกาสเรียนหนังสือได้ยังไง?

“ไม่สายนะ!” ลู่ม่านพูด “ที่ที่ข้าอยู่ยังมีคนแก่อายุหกสิบสอบมหาวิทยาลัยอยู่เลย!”

“สอบมหาวิทยาลัยคืออะไรกัน?” เฉินจื่ออานถามอย่างสงสัย

ลู่ม่านอยากจะตบปากตัวเองจริงๆ พูดหลุดปากได้ยังไงกัน นางรีบหาข้ออ้างพูดว่า “ข้าคิดได้เองน่ะ เจ้าดูสิ พวกเราเรียนหนังสือ ก็เรียกว่าการสอบนี่? สอบบัณฑิตชั้นสูงได้ ก็ต้องสอบมหาวิทยาลัยสิ!”

ก็สมเหตุสมผลดี แต่เฉินจื่ออานก็ยังส่ายหัว “ที่นี่พวกเราไม่มีสอบมหาวิทยาลัยนะ แต่สถานการณ์ในครอบครัวเราต่างออกไป”

ตอนที่เฉินจื่ออานพูด แสงนัยน์ตาก็มืดมนลงไปทันที ทันใดนั้นลู่ม่านก็รู้สึกสงสารชายหนุ่มผู้ไร้เดียงสาคนนี้จับใจ

บ้านเฉินจะว่าไปแล้วก็ไม่ได้ยากจนมาก คนทั้งบ้านเหนื่อยแทบตายก็เพื่อฝาแฝดสองคนนั้น ทำไมถึงไม่ยอมให้เฉินจื่ออานเรียนหนังสือ? นางรู้สึกว่าถ้าเฉินจื่ออานได้เรียนหนังสือ จะต้องเก่งกว่าเฉินจื่อคังแน่นอน

นึกถึงตรงนี้ ทันในนั้นนางก็พูดว่า “จื่ออาน ข้าจะสอนเจ้าอ่านหนังสือเอง?”

เฉินจื่ออานอึ้ง กำลังจะพูดอะไร ลุงยามเมื่อกี้ก็ตะโกนเรียก “สองท่านมาหาเฉินจื่อคังใช่หรือไม่? นั่นไง เขากลับมาแล้ว!”

ลู่ม่านเงยหน้ามอง ก็เห็นเฉินจื่อคังเดินเข้ามาจากข้างนอก ยังคงสวมเสื้อคลุมยาวและมัดผมไว้

เฉินจื่ออานเดินเข้าไปหาอย่างดีใจ “จื่อคัง เจ้าออกมาได้ยังไง? ไหนว่ามีเรียนไงล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน