บทที่190ฉันจะกลับบ้าน
ทีมแพทย์กลุ่มนี้ แค่เข้าใจสถานการณ์ธรรมดาๆ ก็เข้าไปในห้องคนไข้
พวกผู้อำนวยการก็ไม่กล้ารบกวน
ต้องรู้ว่า คนในกลุ่มนี้ ล้วนแต่เป็นผู้อาวุโสโดยไม่มีข้อยกเว้น
ผ่านไปสามชั่วโมงเต็มๆ ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้จึงออกมา
แล้วจึงแจ้งทางโรงพยาบาล อาการป่วยของคนไข้ที่แท้จริงได้รับการรักษาแล้ว เหลือแค่ เวลาที่ต้องฟื้นบำรุงอีกนาน
“ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย โปรดอยู่ต่อสักหน่อย ทางนี้มีงานแถลงข่าว!”
ผู้อำนวยการรีบรั้งไว้
แต่คนในทีมแพทย์นี้ ไม่สนใจสักนิด ออกไปจากโรงพยาบาลโดยตรง
“จริงๆ!จริงๆ!ผู้อำนวยการ จากข้อมูลของร่างกายคนไข้ตอนนี้ กลายเป็นปกติหมดแล้ว!”
เวลานี้พวกคุณหมอก็ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉินเสี้ยงหนานกับฉินหยาสองพ่อลูกว่าดีใจมากแค่ไหน
“ลี่เยว่ ขอบคุณคุณมากจริงๆนะ รอพ่อคุณกลับประเทศ ผมจะขอบคุณพ่อคุณอย่างดี!”
ฉินเสี้ยงหนานพูดอย่างประทับใจ
“แค่กๆ คุณเกรงใจไปแล้วลุงฉิน!”
ลี่เยว่ได้ยินคำชมของทุกคนก็รู้สึกดีอย่างมาก แต่ในใจอีกด้านก็รู้สึกสงสัย
บัดซบ คนมีชื่อเสียงด้านการแพทย์มากมายเมื่อกี้นี้ คือพ่อเรียกมาจริงๆเหรอ?
พูดตามจริง ลี่เยว่เองก็ไม่เชื่อ ตอนนี้หาเวลาไปโทรหาพ่อที่ห้องน้ำ
“พ่อ คนพวกนั้นพ่อเรียกมาเหรอ?”
“อ๋า?คนพวกไหน?”
“ก็คุณอีดี๋คุณหมอที่มี่ชื่อเสียงในต่างประเทศกับแพทย์แผนจีนจาวชิงที่มีชื่อเสียงของประเทศจีนไง?”
“อะไรนะ พ่อจะรู้จักคนยอดเยี่ยมขนาดนั้นได้ไง!ส่วนหมอที่พ่อเรียก ที่ไปได้ก็เป็นแค่แพทย์แผนจีนธรรมดาๆกลุ่มหนึ่งของประเทศเราเท่านั้น สุดท้ายผู้เชี่ยวชาญในประเทศก็วินิจฉัยผลอะไรออกมาไม่ได้ ดังนั้นลูกอย่าคาดหวังมากไป!”
ได้ยินประโยคนี้ ลี่เยว่จึงมีสีหน้าผิดหวัง
คิดว่าเป็นพ่อที่เรียกมาจริงๆ อย่างนั้นตัวเองก็จะตอแหลได้
แต่ไม่ใช่พ่อ อย่างนั้นใครเรียกมาล่ะ?
ตัดทางโรงพยาบาลกับตระกูลคุณลุงฉินได้เลย เพราะว่าจากการแสดงสีหน้าของพวกเขาก็มองออก ว่าพวกเขาประหลาดใจมาก
ส่วนรูมเมทของฉินหยา ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่มีเหตุผลที่จะเก็บไว้เป็นความลับไม่พูดออกมา
อย่างนั้นจะเป็นใครได้อีกล่ะ?
ลี่เยว่เดินออกมาด้วยใจที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“คุณชายลี่คุณชายลี่!รอคุณตั้งนาน ลุงฉินบอกว่า เดี๋ยวจะให้เสี่ยวหยาเชิญพวกเราไปทานข้าว!”
พวกจ้าวถงถงต่างพูดอย่างดีใจ
ตอนนี้ฉินหยาไม่เป็นไรแล้ว พวกเธอเป็นเพื่อนก็ดีใจแน่นอน
“โอเค!ผมก็ไม่ได้ออกแรงอะไรมากนัก ก็แค่เรียกหมอพวกนี้มาเฉยๆ!”
ลี่เยว่พูด
ยังไงซะตอนนี้ก็ต่างคิดว่าเป็นตัวเอง อีกอย่างฉินหยาปฏิบัติต่อตัวเอง ก็ดีขึ้นอย่างชัดเจนด้วย
ดังนั้นตอนนี้ลี่เยว่ก็ต้องอดทนเก็บไว้แล้วไม่พูดออกมา จะเอาความจริงพูดออกมาไม่ได้เด็ดขาด
อีกอย่างตอนนี้ก็เป็นเวลาที่จะจีบฉินหยาได้อย่างดีที่สุด
ทุกคนพูดไปยิ้มแย้มไป
ในห้องคนไข้
ฉินหยาก็ไม่อยากรบกวนแม่ที่เพิ่งหลับไป ถูกฉินเสี้ยงหนานเรียกไปข้างๆ
“เสี่ยวหยาจ๊ะ พ่อว่าลูกเย็นชากับลี่เยว่มากไปแล้ว มองออกนะ ว่าเขาเหมือนจะชอบลูกมาก!พวกลูกก็ใกล้จะเรียนจบพอดี พื้นเพครอบครัวของลี่เยว่ก็ดีด้วย แล้วตอนนี้ยังมาช่วยพวกเราอย่างใหญ่โต ……”
“พ่อ พ่อพูดอะไรน่ะ!”
ฉินหยาก็จับแต่งเส้นผมแล้วพูด
“สรุป ต่อไปลูกต้องดีกับลี่เยว่ขึ้นหน่อย!เขาจะได้ไม่เสียประโยชน์ช่วยเราใหญ่โตขนาดนี้!”ฉินเสี้ยงหนานพูด
“แต่ว่าพ่อ พ่อไม่รู้สึกแปลกๆเหรอ?”ฉินหยาคิดถึงเรื่องเมื่อกี้นี้ อดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย
“แปลกอะไร?”
“ความแข็งแรงของตระกูลลี่เยว่ พ่อก็รู้ดี พูดตรงๆนะ หมอพวกนั้นที่เพิ่งมาช่วยแม่ ดูเหมือนจะเป็นหมอที่เก่งกาจมีชื่อเสียงในด้านการแพทย์ทั้งหมด แต่ว่า พวกเขาไม่รับเงินเลย และก็ไม่คุยอะไรกับพวกเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาไม่รู้จักลี่เยว่เลย!”
“ความรู้สึกที่พวกเขาให้ฉัน ก็เหมือนกับแค่ภารกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งเสร็จเท่านั้น และถูกเชิญมาดูอาการป่วยของแม่โดยเฉพาะ!”
ฉินหยาพูด
ฉินเสี้ยงหนานพยักหน้า:“ที่ลูกพูดพวกนี้ พ่อก็รู้สึกแปลก แต่นอกจากลี่เยว่จะโทรหาพ่อเขาให้เรียกหมอมาแล้ว ก็ไม่มีใครมาช่วยตระกูลเรานี่ ส่วนทางเยี่ยนจิง ก็ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้!”
“อีกอย่างลี่เยว่ไม่ใช่ว่าโทรไปยืนยันกับพ่อเขาแล้วเหรอ อาจจะเกี่ยวข้องกับพ่อของเขาที่ต่างประเทศก็ได้ เสี่ยวหยา ลูกก็อย่าคิดมากนัก!”
จากคำปลอบใจของฉินเสี้ยงหนาน ฉินหยาก็ออกไปกินข้าวกับพวกลี่เยว่ด้วยกัน
“เสี่ยวหยา วันนี้ก่อนฉันมาเจอเฉินเกอด้วย!”
กินข้าวไป จ้าวถงถงก็พูดไป
พอได้ยินชื่อของเฉินเกอ ฉินหยาก็ตะลึงก่อน จากนั้น ที่ใบหน้าก็ปรากฏความรู้สึกที่พูดไม่ออก
เหมือนว่า จะน่าผิดหวังมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!