ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 223

บทที่ 223 หัวหน้าที่น่าหมั่นไส้

“ใช่ เฉว่ฉิง รีบพูดเร็ว ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

มีคนถามอย่างสงสัย

เจียงเฉว่ฉิงพยักหน้าเบาๆ ก็ได้เล่าเหตุการณ์โดยละเอียด

เฉินเกอฟังได้อย่างเข้าใจ

ที่แท้ก็คือว่า ไม่นานหลังจากที่ เจียงเฉว่ฉิงเข้าไปในบริษัท หัวหน้าของเธอ ซึ่งก็เป็นรองผู้จัดการแผนกหนึ่ง มักจะรังควานเจียงเฉว่ฉิงเป็นประจำ

ในตอนแรก ยังคงมีความยับยั้งชั่งใจอยู่บ้าง ก็คือจะพูดประมาณว่า อยากจะเชิญเจียงเฉว่ฉิงออกไปทานข้าว

หลังจากที่เจียงเฉว่ฉิงปฏิเสธไปหลายครั้ง ก็รู้สึกเกรงใจที่จะปฏิเสธแล้วจริงๆ จึงออกไปทานข้าวกับเขาครั้งหนึ่ง

ซึ่งก็คือหลังจากครั้งนั้น ไอ้ลามกนี่ ก็กำเริบเสิบสานมากขึ้นเรื่อยๆ

มักจะเรียกเจียงเฉว่ฉิงไปที่ห้องทำงานเป็นประจำ เมื่อก่อนแค่ล่วงเกินทางวาจา ตอนนี้เริ่มลงมือทำแล้ว

ประมาณสองวันก่อนที่จะจัดงานฉลอง รองผู้จัดการแผนกคนนั้น ได้เรียก เจียงเฉว่ฉิงไปอีกครั้ง และคราวนี้ จับต้นขาของเธอโดยตรง

เจียงเฉว่ฉิงจึงตกใจ หยิบน้ำสาดรองผู้จัดการแผนกนั้น

เพราะด้วยเหตุนี้ รองผู้จัดการจึงขู่ว่า จะไล่เธอออกจากบริษัท ไม่ก็ยอมเชื่อฟังเขาดีๆ หรือไม่ก็ออกจากบริษัท ให้เธอคิดเอาเอง

ทุกคนอาจจะไม่รู้ ว่าตามคำบอกเล่าของเจียงเฉว่ฉิงแล้ว รองผู้จัดการแผนกนั้น เป็นรายหัวโล้นแก่ น่าขยะแขยงยิ่งนัก!

ต่อมา เจียงเฉว่ฉิง ก็ได้บอกเรื่องนี้กับลี่เหวินหยาง

ในบรรดาเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมด ก็มีเพียงแค่ลี่เหวินหยางที่มีความสามารถ ที่จะต่อสู้กับรองผู้จัดการคนนั้นได้

“ปัดโธ่ ช่างน่าโมโหนัก อยากทุบตีไอ้เต่าแก่ตัวนั้นให้สาหัสจริงๆเลย กล้าที่จะมารังแกนางฟ้าอย่าง เฉว่ฉิง แบบนี้!”

มีผู้ชายบางคนพูดด้วยความไม่พอใจ

“ใช่เลย เฮ้ย แต่พวกเราผู้หญิง ต้องเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองจริงๆนะ อยู่ข้างนอก มักจะเป็นฝ่ายที่ถูกรังแก ก็เหมือนที่ฉันเพิ่งจะเข้าไปโรงพยาบาลในตอนแรก มีคนที่ไม่รู้จักความสัมพันธ์ของฉัน ก็อยากจะมาขอความต้องการอะไรบางอย่างกับฉัน หลังจากที่เขารู้จักตัวตนฐานะของแฟนฉัน ก็สงบเสงี่ยมแล้ว!”

ลี่หมิงเฉว่ก็ได้พูดขึ้น

“หมิงเฉว่พูดถูก เฉว่ฉิง พูดตามตรง ในตอนนั้นคุณและชือหานสวยที่สุดในชั้นเรียนของเรา คุณดูสิ ตอนนี้ชือหานก็หาแฟนที่มีความสามารถมากขนาดนี้เจอแล้ว คุณก็ควรหาคนที่รักคุณทะนุถนอมคุณแล้ว แค่กๆ ตอนนี้ข้างๆคุณก็มี คนที่เพียบพร้อมแล้ว ต้องรักษาให้ดีนะ!”

หวังรุ่ย พูด

เจียงเฉว่ฉิงหน้าแดงขึ้นอ่อนๆ แล้วก้มหัวลง

“เฉว่ฉิง คุณไม่ต้องกังวล เรื่องนี้หลังจากงานเลี้ยงในวันนี้จบลง ฉันก็ให้คำตอบแก่คุณ ฉันไม่เชื่อแล้วสิ ก็แค่รองผู้จัดการแผนกคนหนึ่งเท่านั้น!”

ลี่เหวินหยางพูดอย่างน่าเกรงขาม

“เหวินหยาง ฉันแค่อยากให้คุณขู่ให้เขากลัวหน่อยก็พอแล้ว! คุณอย่าทำอย่างอื่นนะ!” เจียงเฉว่ฉิงพูดอย่างยังคงรู้สึกกังวล

“ไม่ต้องห่วง! ฉันรู้ดีแก่ใจ!”

“ฮ่าๆๆ ถ้าพูดถึงทำให้คนหวาดกลัว เจียงเฉว่ฉิง ฉันแนะนำตัวเลือกให้กับคุณคนหนึ่ง หาเฉินเกอของเราสิ ไอ้หมอนี่ สนิทกับหลิงลี้มากเลยนะ!”

ในขณะนี้ลี่เชามองไปที่เฉินเกอ พูดหัวเราะเยาะ

ทุกคนก็หัวเราะทั้งหมด

คุณดูเฉินเกอสิ ยากนะที่จะเจอคนที่เข้ากันได้ดี และมีความสามารถด้วย แต่สุดท้ายแล้ว คนคนนั้นก็ยังดิ่งลงมา

สำหรับ เจียงเฉว่ฉิงนั้น มองไปที่เฉินเกอแวบเดียว ก็หันหัวกลับมาทันที พูดคุยกับลี่เหวินหยางแล้ว

นี่ชัดเจนมากอยู่แล้ว

แม้ว่าในสมัยเรียน เจียงเฉว่ฉิงจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเฉินเกอ แม้กระทั่งเพื่อเฉินเกอแล้ว ยังเคยทะเลาะกับลี่เหวินหยางอย่างรุนแรง

แต่ในตอนนี้หละ เห็นได้ชัดว่า เจียงเฉว่ฉิงและ ลี่เหวินหยางจะสนิทมากกว่า

เพราะยังไงแล้วลี่เหวินหยางก็ถือว่ามีอนาคตมากที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมชั้น ทรัพยากรต่างๆบนตัวของเขา ก็มากกว่าคนอื่นๆด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เฉินเกอเลย

เฉินเกอก็สามารถเข้าใจถึงสิ่งนี้ได้

เพราะหลังจากได้เผชิญกับสังคมภายนอก คนส่วนใหญ่จะค้นพบมากขึ้นเรื่อยๆว่า ทุนทรัพย์มีความสำคัญมากกว่ามิตรภาพยิ่งนัก

แม้ว่าเพื่อนที่ตัวเองคิดว่าสนิท จู่ๆก็มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับคนที่รังแกตัวเอง จะรู้สึกอึดอัดในใจเล็กน้อย

แต่เฉินเกอก็ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อเห็นว่าทุกคนได้เปลี่ยนหัวข้อมาที่ตัวเอง แล้วหัวเราะเยาะ

เฉินเกอเลยหาข้ออ้าง และไปเข้าห้องน้ำเลย

ในตอนที่เข้าห้องน้ำเสร็จกำลังล้างมือ เจียงเฉว่ฉิงก็ออกมาจากห้องน้ำผู้หญิงพอดี

เห็นได้ชัดว่าห่างจากเฉินเกอไม่นาน แล้วมาพร้อมกัน

ในการเจอกันครั้งนี้ สีหน้าของเฉินเกอและ เจียงเฉว่ฉิง ต่างก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“เฉินเกอ ไม่ทันได้คุยดีๆกับนายเลย ตอนนี้นายเป็นยังไงบ้าง?”

เจียงเฉว่ฉิงเพื่อซ่อนความเก้อเขิน ยิ้มพูดอย่างสดใส

เพราะยังไงแล้ว เธอก็รู้ความสัมพันธ์ในสมัยก่อนของตัวเองกับเฉินเกอ ความขัดแย้งระหว่างเฉินเกอและลี่เหวินหยางเธอก็เข้าใจดีอยู่แล้ว

แต่ในตอนนี้ ตัวเองกลับหันไปใกล้ชิดกับลี่เหวินหยางไม่ว่าใครก็ตามก็จะรู้สึกอึดอัด

“ก็ยังดี!” เฉินเกอหยิบกระดาษทิชชูออกมาเช็ดมือ

“ได้ยินมาว่า นายยังหางานไม่ได้หรอ? อนาคตนายมีแผนอะไร?”

เจียงเฉว่ฉิงถาม

“ฉันอยากลองลุยดู”

เฉินเกอกพูดตามความเป็นจริง

เจียงเฉว่ฉิง ขมวดคิ้วเล็กน้อยและยิ้มจางๆ ส่ายหัวแล้วพูดว่า “เฉินเกอ คำแนะนำของฉันก็คือ นายหางานหนึ่งดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงานแบบไหนก็ได้ นายก็รู้ดี นายกับคนอื่นไม่เหมือนกัน!”

“หรือไม่ก็ นายสามารถแสดงความไมตรีต่อ เหวินหยางตอนนี้เขาก่อตั้งบริษัทของตัวเองแล้ว และในบริษัทก็ขาดพนักงานด้วย หากนายมีความคิด ฉันสามารถคุยกับ เหวินหยางให้นายได้ ให้นายไปทำงานใน บริษัทของเขา!”

“เดือนหนึ่งจ่ายเงินเดือนให้นายสองพันหยวนก็ดีนะ!”

เจียงเฉว่ฉิง เกี้ยวกล่อม

“ขอบคุณนะ แต่ว่าฉันไม่อยากไป!” เฉินเกอหัวเราะ

“เห้ย เฉินเกอ ฉันรู้ว่าสมัยมัธยมปลาย เหวินหยางเคยทำร้ายนายอย่างหนัก แต่ตอนนั้นเหวินหยางก็ใจร้อนเกินไป ดังนั้นจึงสามารถที่จะเข้าใจได้! และลองนึกดูว่า ถ้าตอนนี้นายฟังที่เหวินหยางพูด ให้เขาลอกการบ้าน เขาก็จะไม่ทำร้ายนายแล้วไม่ใช่หรือ ไม่แน่ว่าถึงตอนนี้หลังจากที่นายเรียนจบ เขาอาจจะยื่นมือช่วยนายก็ได้!”

เฉินเกอพูดขึ้น

“อืมๆ ที่จริงเรื่องนั้นฉันก็ไม่เคยใส่ใจเลย! ใช่แล้ว เรื่องรองผู้จัดการแผนกของคุณ คุณก็อย่าคิดมากใส่ใจมากเกินไป คุณสามารถร้องเรียนกับผู้จัดการของพวกคุณโดยตรง หรือผู้บริหารระดับสูงที่ถูกส่งไปบริหารในบริษัทของพวกคุณ พวกเขาจะต้องแก้ไขอย่างจริงจังแน่นอน!”

ระดับผู้จัดการ แม้แต่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ล้วนเป็นสมาชิกดั้งเดิมของบริษัทการค้าจินหลิงกรุ๊ปในตอนแรก ดังนั้นความสามารถและคุณสมบัติของพวกเขา เฉินเกอจึงรู้ดี

จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน

เฉินเกอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้บอกกับเจียงเฉว่ฉิง

เจียงเฉว่ฉิงกับได้มองเฉินเกอ และยิ้มอย่างขมขื่นส่ายหัวเบาๆ “สิ่งเหล่านี้ในการทำงานนายไม่เข้าใจ เห้ย เรื่องนี้นายก็ไม่ต้องกังวลแล้ว ขอบคุณนะ เฉินเกอ!”

เจียงเฉว่ฉิงพูดจบก็โบกมือให้เฉินเกอ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเดินออกไปเลย

ทำให้เฉินเกอรู้สึกว่า เจียงเฉว่ฉิงมีความไม่คุ้นเคยเล็กน้อย

มันไม่คุ้นเคย เหมือนกับตอนที่ตัวเองเพิ่งเห็นหลี่ชือหาน

เห้ย ในเวลาเดียวกันที่รู้สึกใจหดหู่ เฉินเกอก็ได้ออกไป

แต่เพิ่งออกไป

ก็ได้เห็นเจียงเฉว่ฉิงถูกชายวัยกลางคนคนหนึ่งขวางเอาไว้ ชายวัยกลางคนคนนั้นพยายามจะไปดึงมือของเจียงเฉว่ฉิง

“คุณกำลังทำอะไร ผู้จัดการจ้าว!”

เจียงเฉว่ฉิง พูดในขณะที่หลบออก

“ฮ่าๆ เสี่ยวฉิงไม่คิดว่ากินข้าวที่นี่ ยังสามารถได้พบกับคุณ คุณก็มากินที่นี่หรอ มาๆๆ ไปดื่มสักสองสามแก้วกับฉัน แนะนำเพื่อนร่วมงานสองสามคนในบริษัทให้คุณรู้จักพอดี!”

ผู้จัดการจ้าวจ้องมองเสี่ยวฉิงด้วยแววตาเจ้าเล่ห์

“มาเถอะๆ อย่าซุกซน ยังซุกซนอีก ฉันจะโกรธแล้วนะ?”

“ปล่อยเธอ!”

และในเวลานี้ ทันใดนั้นก็มีเสียงตะคอกด้วยความโกรธ......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!