บทที่437 ตระกูลหยางตกอยู่ในอันตราย
“มีชีวิตชีวาจังเลย!”
จู่ ๆในเวลานี้ ก็มีเสียงที่ไม่เข้าพวกดังขึ้นมาจากทางด้านนอกของประตู
จากนั้นก็เห็นกลุ่มคนพวกหนึ่ง เดินกร่างเข้ามาอย่างหยิ่งผยอง ภายใต้การนำของคุณชายหนุ่มคนหนึ่ง
“ไม่ได้เชิญพวกคุณ พวกคุณเข้ามาไม่ได้!”
คนรับใช่คนหนึ่งพยายามห้ามพวกเขาตลอด
“หลีกไปให้พ้น!”
คนรับใช้ถูกพวกเขาผลักไปที่ด้านข้างโดยตรง
และในงานเลี้ยงทั้งหมด ก็เงียบสงบลงทันที
“หลงช่าวเหลย?”
ส่วนคุณหญิงขมวดคิ้ว และลุกขึ้นยืนทันที
ทุกคนในตระกูลหยาง ต่างก็ลุกขึ้นยืนกันหมด และมองไปที่หลงช่าวเหลยอย่างเย็นชา
หลงช่าวเหลย คุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลง
ชายคนนี้อายุน้อย ๆ แต่กลับเป็นคนที่หน้าไหว้หลังหลอก และฉายาที่ผู้คนตั้งให้เขาก็คือในอ่อนย่อมมีแข็ง
ซึ่งนอกจากชายชราของตระกูลหลงแล้ว ตอนนี้เขาก็เป็นบุคคลที่สองของตระกูลหลงนั้นเอง
และก็เป็นแกนนำอันดับหนึ่งของตระกูลหลงแห่งเยี่ยนจิงที่ต่อสู้และปราบปรามตระกูลอื่น
ตั้งแต่สี่ปีก่อน หลังจากที่หลงช่าวเหลยกลับมาจากต่างประเทศ ระยะเวลาเพียงแค่สี่ปี ก็ได้ช่วยตระกูลหลงในการผนวกกลุ่มองค์กรธุรกิจบริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็กเกือบร้อยกว่าตระกูลในทุก ๆแห่งแล้ว
และตระกูลหลง ก็ได้รับช่วยเหลือจากเขา และมาถึงจุดสูงสุดอีกครั้งโดยไม่ต้องมีใครสั่นสะเทือน
“เหอะๆ คุณหญิงหยาง แบบนี้ท่านก็ทำไม่ถูกแล้วสิครับ?งานเลี้ยงฉลองที่มีชีวิตชีวาขนาดนี้ แต่ท่านกลับไม่ได้เชิญตระกูลหลงเรา?”
หลงช่าวเหลยยิ้มอย่างเย็นชา
และดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย
“ตระกูลหลงตอนนี้เป็นผู้นำของเยี่ยนจิง ส่วนตระกูลหยางของเราเป็นเพียงแค่วิหารเล็ก ๆ จะอัญเชิญพระองค์ใหญ่อย่างพวกคุณได้อย่างไร!?“
คุณหญิงหันกลับมาเผชิญหน้าและกล่าว
“พูดมาเถอะ คุณชายหลง วันนี้ที่คุณมาที่นี่ต้องการอะไร?เรื่องกู้เงินที่ลูกของเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกคุณ ก็ได้รับการจัดการแล้วไม่ใช่เหรอ?”
คุณหญิงถาม
“แน่นอน อันที่จริงต่อให้พี่หยางคืนช้าสักสองสามวัน ก็ไม่เป็นอะไร เพราะอย่างไรแล้วมิตรภาพระหว่างตระกูลหลงและตระกูลหยางเราก็ดีมาตั้งแต่ยุคสมัยไหนแล้ว!ทางตระกูลหลงของเราก็ไม่ถึงขั้นเอาเรื่องกู้เงินเล็ก ๆแค่นี้มาไว้ในใจเราหรอก!”
“เพียงแต่ว่าครั้งนี้ ก็มาที่นี่เพื่อเรื่องกู้เงินเรื่องอื่นเหมือนกัน และครั้งนี้ ก็ไม่ใช่แค่จำนวนตัวเลขเพียงแค่เล็กน้อย!”
หลงช่าวเหลยยิ้มและกล่าว
“หืม?”
คุณหญิงขมวดคิ้ว
และเมื่อคำพูดนี้ออกมา ลูกชายและลูกสาวของคุณหญิง รวมทั้งสมาชิกในตระกูลทั้งหลาย ก็อดไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกประหม่า
“ไอ้คนนามสกุลหลง คุณหมายความว่าอย่างไร?พวกเรามีการกู้เงินจริง ๆ แต่ส่วนใหญ่ต่างก็กู้ผ่านประธานจาง ประธานเหมียว และประธานลี่พวกเขา……”
หยางยู่ถิงกล่าวด้วยความโกรธ
“เหอะๆ เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ว่าท่านประธานเหล่านี้ได้ทำข้อตกลงบางอย่างกับพวกเราแล้วเมื่อไม่นานมานี้ และความร่วมมือด้านการกู้เงินของพวกคุณกับพวกเขา ได้ถูกโอนมาที่มือของตระกูลหลงเราแล้ว!”
“ฉันคำนวณดูแล้ว ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ตระกูลหยางของพวกคุณ และผู้รับผิดชอบของหลายบริษัท ต้องสูญเสียเงินจำนวนมากจากประธานมากกว่า30ท่าน จุ๊จุ๊จุ๊ รวมๆแล้วก็หลายหมื่นล้าน และยังไม่รวมที่ประทับตราธนาคารนะ!”
หลงช่าวเหลยยิ้มและกล่าว
“คุณ……คุณอย่าพูดมั่วนะ ตระกูลหยางของเราเป็นตระกูลใหญ่และธุรกิจใหญ่ เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีเงินกู้เยอะขนาดนี้?”
เมื่อคุณหญิงได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเธอก็ซีดทันที
คำพูดเหล่านี้ของหลงช่าวเหลย สื่อความหมายออกมาอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
และถ้าหากว่าเขากดดันเงินกู้ในระยะเวลาอันสั้นล่ะก็ ตระกูลหยางไม่มีเวลาหาเงินเยอะขนาดนี้มาได้แน่นอน
ทำได้เพียงแค่จำนองพื้นที่ขนาดใหญ่เท่านั้น
และเมื่อถึงเวลานี้ เพียงแค่ส่วนเล็กที่สุดก็สามารถส่งผลกระทบให้สถานการณ์ทั้งหมดได้ และทางด้านธนาคารก็จะกดดันตามอย่างแน่นอน
ถ้าถึงขั้นนั้นจริง ๆล่ะก็ ตระกูลหยางไม่ใช่แค่ล้มละลายง่ายๆอย่างเดียวแล้ว
“เหอะๆ อันนี้ต้องถามลูกชายและลูกสาวพวกนี้ของท่านแล้ว!”
หลงช่าวเหลยหัวเราะอย่างเย็นชา
“พวกคุณ……พูดสิ!”
คุณหญิงเคาะไม้เท้าของเธออย่างรุนแรง
หยางยู่ถิงและโกวหรูพวกเขาต่างก็ตกตะลึงจนกลืนน้ำลาย และไม่กล้าพูดอะไร
“เหอะๆ ไม่มีคนพูดเหรอ?ถ้าอย่างนั้นฉันเล่าให้คุณฟังก็ได้!”
หลงช่าวเหลยยิ้มและส่ายหัวอย่างขมขื่นแล้วกล่าว:
“ลักษณะที่โดดเด่นของตระกูลหยางนั้น แตกต่างกันซะจริง ๆ ลูกชายและลูกสาวต่างก็แยกอำนาจ และสุดท้ายก็มีแต่คนที่สามารถนำพากำไลมาให้ตระกูลเยอะที่สุดก็สามารถสืบทอดตำแหน่งของตระกูลหยางได้แล้วใช่หรือเปล่า?เหอะๆ นับๆแล้ว เริ่มตั้งแต่ลูกชายคนโตของพวกคุณ ไม่ว่าใครก็ไม่ยอมเอาเงินของตัวเองไปลงทุน และต่างก็ทำเรื่องกู้เงินในนามของตระกูลหยางพวกคุณแทน!”
“ฉันพูดถูกหรือเปล่า?”
หลงช่าวเหลยกล่าว
คุณหญิงโกรธมาก
และเพิ่งจะรู้ขึ้นมาทันทีว่า ทำไมตอนที่จัดงานฉลองวันเกิดของตัวเอง ลูกชายคนโตหยางยู่ถิงถึงบอกว่าให้รีบติดต่อเรื่องกู้เงินเพื่อมาแก้ไขเรื่องปัญหาของกองทุน
ที่แท้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นบรรทัดฐานของพวกเขามาโดยตลอด
“ประธานเหมียว ประธานลี่ พวกคุณโอนย้ายสิทธิ์ให้กับตระกูลหลง ทำไมไม่บอกกับเราสักคำ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!