บทที่ 491 เหตุร้าย
“นี่……อ๋อ ฉันถือโอกาสตอนที่เขาจับเธอไว้ จากนั้นก็กระโดดลงไปยังด้านล่างของเนินเขา แล้วค่อยลอบเข้าจากทางด้านหลัง”
เฉินเกอเล่า
“โอ้ว ดูไม่ออกเลยนะ ว่านายจะฉลาดขนาดนี้”
ยู่จินเซียงพูดด้วยความแปลกใจ
เฉินเกอได้แต่ส่ายหน้า และก็ไม่ได้พูดแต่อย่างใด
และเมื่อมาถึงตีนเขาแล้ว
เฉินเกอก็พบว่า ยังมีรถหรูอีกคัน ที่กำลังขับมาที่นี่ด้วยความเร็ว
และได้ล้อมพื้นที่ดังกล่าวไว้
“พระเจ้า นี่มันรถพ่อฉันนี่ ต้องเป็นหนิงหนิงที่บอกกับพ่อฉันแน่เลย ซวยแล้ว”
ยู่จินเซียงพูดขึ้นด้วยความหวาดกลัว
“คุณหนูรอง คุณ……คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
และในขณะนั้น ชายวัยกลางคนก็ได้ส่งเสียงถามออกมาจากรถ
“ฮืม พวกนายหากมาช้าอีกนิดเดียว งั้นคงจะไม่ได้เจอฉันแล้ว”
ยู่จินเซียงพูดขึ้น
“หนิงหนิงเป็นคนบอกผมว่า คุณน่าจะมีอันตราย ผมเลยรีบนำคนมาช่วย คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ”
ที่จริง เมื่อสักครู่มีผู้ชายหลายคนเข้ามาหาหลี่หนิงหนิง พอพูดคุยกันไปมา เลยรู้ว่าไม่ใช่ลูกค้าประจำที่มาใช้บริการที่นี่ และก็เพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรกด้วย เขานั้นรวยมาก วันนี้เลยเช่าเหมาสนามแข่งทั้งวันเลย
เมื่อหลี่หนิงหนิงได้ยินดังนั้น เลยเกิดความระแวงภายในใจขึ้น
เพราะหากว่าถ้ารวยขนาดนี้ เขาคงไม่ขับรถยี่ห้อธรรมดา ๆ แน่
หากเกิดปัญหาขึ้นจริง ๆ คงจะไม่ดีแน่
ดังนั้นหลี่หนิงหนิงเลยได้บอกเรื่องนี้กับบพ่อของตัวเอง
“ที่ฉันเดาไว้ไม่มีผิดเลย จินเซียง เธอได้รับอันตรายตรงไหนไหม แล้วรถของเธอล่ะ”
หลี่หนิงหนิงถามด้วยความเป็นห่วง
ครั้นแล้ว ยู่จินเซียงก็เลยได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง
แต่ว่าความจริง คือเธอเป็นตัวล่อ เพื่อดึงดูดความสนใจของทั้งสองคนนั้น และเฉินเกอจะได้มีโอกาสในการจัดการกับสองคนนั้น
ลี่โป๋นิ่งเงียบ ไม่พูดอะไร ทันใดก็ได้สั่งกับลูกน้องไป
ในเวลาเดียวกันนั้น ก็ได้ล้อมสันเขาปาปู้ไว้ เพื่อที่จะได้ตรวจสอบความเรียบร้อย
“คนนี้คือ อาจารย์เฉินใช่ไหม คุณคือผู้ที่มีพระคุณต่อตระกูลยู่ขอบคุณคุณมากที่ได้ช่วยคุณหนูรองเอาไว้ รอให้ผมพาคุณหนูรองกลับไปพบนายท่านก่อนนะครับ เดี๋ยวจะมีของกำนัลตอบแทนให้อย่างงาม”
ลี่โป๋พยักหน้าและยิ้มให้เฉินเกอ
“ไม่ต้องหรอกครับ จินเซียงก็เป็นนักเรียนของผมเหมือนกัน”
“เกรงใจไปแล้วครับ เอาอย่างนี้นะครับ อาจารย์เฉิน เดี๋ยวผมจะให้คนขับรถส่งคุณกลับโรงเรียนไปก่อน”
“ได้ครับ”
ครั้นแล้ว ลี่โป๋ก็ให้คนขับรถทั้งขบวน ขับรถไปส่งเฉินเกอและนักเรียนของเขากลับโรงเรียน
พอลงจากรถ เฉินเกอก็ให้นักเรียนกลับไปยังห้องเรียน แล้วตัวเองก็เตรียมตัวกลับไปห้องพักอาจารย์
“เกิดเรื่องขึ้นเหรอ”
คิดไม่ถึงว่าพอกลับมาถึง จะได้ยินข่าวอย่างนี้
อาจารย์ที่ห้องพักอาจารย์ กำลังวิ่งออกไปข้างนอก
“เกิดอะไรขึ้นหรอ”
เฉินเกอยื่นมือออกไปขวางตัวอาจารย์คนหนึ่งเอาไว้
“ไม่อยากจะพูดเลย น่าจะเป็นอาจารย์ เฉินเมิ่งกับอาจารย์หยูเจียงมั้ง เพราะว่าทั้งสองห้องนั้น กำลังเรียนด้วยกันอยู่ดี ๆ นักเรียนห้องของอาจารย์ เฉินเมิ่งคนหนึ่งชอบอวดและเบ่ง และเมื่อสักครู่นี้เป็นช่วงพักเบรก เลยได้ออกไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นจึงได้ทะเลาะกับนักเรียนชายหลาย ๆ ของอีกห้องหนึ่ง ไม่รู้ว่าใครหาเรื่องใครก่อน แต่สุดท้ายก็ได้วางมวยใส่กัน”
“ตีนักเรียนห้องของอาจารย์เฉินเมิ่ง อาการหนักไม่เบาเลย”
“เรื่องแบบนี้ก็จะเป็นประมาณนี้แหละ เดี๋ยวรอให้โรงเรียนเป็นคนจัดการ แต่ว่า อาจารย์หยูเจียงรู้สึกโกรธแทนนักเรียนห้องอาจารย์ เฉินเมิ่ง เลยเรียกเด็กนักเรียนชายเหล่านั้นไปพบ จากนั้น ก็อบรมสั่งสอนกันยกใหญ่ แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพราะอาจารย์หยูเจียงนั้นเป็นคนอารมณ์ร้อน จึงได้ตีนักเรียนชายเหล่านั้นไป”
อาจารย์คนนั้นได้พูดขึ้น
“อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ตีนักเรียน ไม่ใช่เรื่องดีจริง ๆ”
เฉินเกอพูดขึ้นพร้อมส่ายหน้า
ดูออกเลยว่า อาจารย์หยูเจียงคงจะรู้สึกผิดต่ออาจารย์เฉินเมิ่ง
“เฮ้ย หากเป็นแค่แบบนั้นมันจะดีมากเลย อาจารย์เฉิน คุณรู้ไหมว่า นักเรียนที่อาจารย์หยูเจียงนั้นตี เป็นใครไหม”
“เป็นใครหรอ”
“เขาเป็นลูกชายเศรษฐีคนหนึ่งในเทียนเฉิง และเศรษฐีคนนี้ยังเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ดีมาก ๆ กับพวกที่มีอิทธิพลด้านมืดในเทียนเฉิง หากว่า นักเรียนคนนั้น เรียกคนมา คงจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่”
เมื่อพูดจบ อาจารย์ผู้หญิงคนนั้น ก็ได้วิ่งไปดุ
เมื่อเห็นอาจารย์เกือบทุกคนวิ่งไปยังทางนั้น
เฉินเกอคิด พอดีเลยว่าตัวเองก็กำลังจะไปห้องเรียน จึงได้เดินไปดูด้วย
ในเวลานั้น ทางเดินของตึกสาขาชีววิทยา ก็มีผู้คนยืนมุงดูกันเต็มไปหมด
ผู้คนยืนล้อมดูกันแน่นขนัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!