ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 829

สรุปบท บทที่829 ระดับสุดยอด: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

สรุปตอน บทที่829 ระดับสุดยอด – จากเรื่อง ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! โดย Light-Knight

ตอน บทที่829 ระดับสุดยอด ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! โดยนักเขียน Light-Knight เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่829 ระดับสุดยอด

“ฮู้เวทย์ระดับสุดยอด!”

เหอเฉิงเห็นเช่นนั้น เขาก็อุทานออกมาทันที

แสงสีทองประกาย เมฆสีม่วงปรากฏที่ทิศตะวันออก หมอกสีขาวลอยอ้อยอิ่ง เป็นปรากฏการณ์ที่งดงามมาก

ถูกต้อง ฮู้เวทย์ที่เฉินเกอวาดในครั้งนี้ก็คือฮู้เวทย์ระดับสุดยอดนั้นเอง

“นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”

เกาเล่ที่ยืนอยู่ด้านข้างแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา และตะโกนพูดขึ้นพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง

ต่อให้เขาไม่อยากจะเชื่อมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา

ในเวลานี้เอง กู่โฉวเองก็ตะลึงอย่างมาก และคาดไม่ถึงว่าเฉินเกอจะสามารถสร้างฮู้เวทย์ระดับสุดยอดออกมาได้ เพราะต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่ตัวของเขาเองก็ไม่สามารถสร้างฮู้เวทย์ระดับสุดยอดได้เลย

“คุณ คุณทำได้อย่างไร?”

กู่โฉวรีบถามเฉินเกอทันที

“เรียนท่านปรมาจารย์ ผมสามารถทำได้เพราะการฝึกฝนและสำรวจเรื่อย ๆ และก่อนที่จะมาที่นี่ผมก็วาดลายมังกรทองของฮู้เวทย์ระดับสุดยอดได้สำเร็จแล้ว!”

เฉินเกอรีบตอบกลับกู่โฉวทันที

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเฉินเกอ กู่โฉวก็พยักหน้าด้วยความภาคภูมิใจ

“เหอเฉิง ลูกศิษย์คนนี้ของคุณมีพรสวรรค์มากจริง ๆ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เขาก็คือปรมาจารย์ฮู้ชั้นที่หนึ่งของวิหารฮู้เรา !”

ต่อมากู่โฉวก็ได้กล่าวชื่นชมเฉินเกอต่อเหอเฉิง จากนั้นก็มอบตำแหน่งฉายาให้เขา

ปรมาจารย์ฮู้ชั้นที่หนึ่ง นั้นก็แสดงว่าตอนนี้เฉินเกอถือว่าเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาคนหนึ่งแล้ว และตำแหน่งฉายานี้มีเกียรติและมีค่ามาก และสามารถได้รับตำแหน่งปรมาจารย์ฮู้ชั้นที่หนึ่งในวิหารฮู้ได้นั้น ก็เป็นสัญลักษณ์ฐานะที่สูงฐานะหนึ่งในโลกยู่ด้วย

“ปรมาจารย์ใหญ่ ท่าน…”

ทันทีที่เกาเล่ได้ยิน แน่นอนว่าเขาต้องเป็นคนแรกที่ไม่ยอม จึงรีบเดินออกมาและจะพูดอะไรบางอย่างกับกู่โฉว

แน่นอนว่ากู่โฉวรู้ว่าเกาเล่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ไม่รอให้เขาพูดจบ ก็รีบเอ่ยปากขึ้นมาขัดจังหวะเขาทันที“เกาเล่ ฉันรู้ว่าคุณอยากจะพูดอะไร เรื่องนี้ก็เอาตามนี้เลย เอาล่ะ พวกคุณกลับไปได้แล้ว ฉันยังมีเรื่องต้องทำอีก!”

เกาเล่ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงแค่โกรธอยู่ในใจของเขา และปล่อยให้เรื่องเป็นไปตามนั้น จากนั้นพาลูกศิษย์ของตัวเองเจียงหนันจากไป

ในใจของเหอเฉิงและเฉินเกอสองคนต่างก็รู้สึกดีใจมาก และรู้สึกว่าเกาเล่นั้นมีความขโมยไก่ไม่ได้แถมเสียข้าวหนึ่งกำมือ และยกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นใส่เท้าของตัวเองอีก

หลังจากออกมาจากวิหารฮู้ เหอเฉิงก็ยิ้มพร้อมกล่าวชื่นชมเฉินเกอว่า:“เฉินเกอ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปคุณก็ดำรงตำแหน่งอาจารย์ที่ปรึกษาของวิหารฮู้แล้ว และทางเดินต่อจากนี้เป็นต้นไปคุณต้องพึ่งพาตัวเองแล้ว!”

“อาจารย์ แม้ว่าผมจะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาแล้วก็ตาม แต่ท่านยังคงเป็นอาจารย์ของผมเสมอ!”

เฉินเกอมองไปที่เหอเฉิง และกล่าวด้วยสายตาที่หนักแน่น

ตามคำพูดที่ว่า เป็นครูเพียงวันหนึ่ง ดั่งพ่อลูกกันตลอดชีวิต

ถ้าไม่ใช่เพราะเหอเฉิงยอมรับเขามาเป็นลูกศิษย์ละก็ แล้วเขาจะบรรลุผลและสำเร็จขนาดนี้ได้อย่างไรล่ะ?

และเมื่อเหอเฉิงได้ยินคำพูดของเฉินเกอ ในใจของเขาก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างมาก และเขาก็รู้สึกว่าเขารับลูกศิษย์ไม่ผิดเลยจริง ๆ

ไม่นาน เหอเฉิงก็พาเฉินเกอไปรายงานตัวที่วิหารฮู้ และรับตราปรมาจารย์ฮู้ชั้นที่หนึ่ง และแล้วเฉินเกอก็กลายเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาคนหนึ่งของวิหารฮู้

หลังจากเสร็จกิจแล้ว เฉินเกอก็มาที่ตระกูลโจว

เพราะตั้งแต่หลังจากที่โจวโน่มาครั้งก่อน เฉินเกอก็ไม่เคยเห็นโจวโน่มาอีกเลย ไม่รู้ว่าช่วงนี้สาวน้อยคนนี้จะทำอะไรอยู่

และตอนนี้เฉินเกอก็เป็นแขกที่คุ้นเคยและสนิทของตระกูลโจวแล้ว ดังนั้นเวลาที่เขาเข้าออกก็จะไม่มีใครมาห้าม

และเมื่อมาถึงคฤหาสน์ ก็เห็นแค่โจวหยุนซานนั่งคุยอยู่กับพ่อบ้านในห้องโถงด้านใน

“เจ้าบ้านโจว!”

เฉินเกอเดินเข้ามา พร้อมกล่าวทักทายโจวหยุนซานด้วยความเคารพ

“เฉินเกอมาแล้วเหรอ มา เชิญนั่งก่อน คุณฝึกฝนกับอาจารย์เหอเฉิงเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

“เจ้าบ้าน เจ้าบ้าน”

ในเวลานี้เอง คนรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาจากประตูอย่างรีบร้อน และตะโกนบอกโจวหยุนซานอย่างกังวล

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?ถึงได้ตื่นตระหนกตกใจขนาดนี้?”

โจวหยุนซานขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถาม

“คุณหนู คุณหนูใหญ่พวกเขา พวกเขาเกิดอุบัติเหตุที่ภูเขาหลินซาน เมื่อกี้ผมไปด้านนอกและได้ยินว่าภูเขาหลินซานเกิดเรื่องหิมะถล่ม และก้อนหิมะมากมายกลิ้งลงมาจากด้านบนของภูเขาหลินซาน สถานการณ์วิกฤตมาก!”

เจียติงรีบนำข่าวสารที่ตัวเองได้มาเล่าให้โจวหยุนซาน

หลังจากที่โจวหยุนซานได้ยิน เขาก็ตกใจอย่างหนัก

“คุณ คุณอย่าพูดมั่วนะ!”

โจวหยุนซานถามขึ้นด้วยความไม่เชื่อ ต้องรู้ว่าลูกสาวของตัวเองเพิ่งออกไปได้สองสามวัน และการมาของข่าวร้ายนี้ก็ทำให้โจวหยุนซานรับไม่ได้อย่างมาก

ทันทีที่พูดจบ กลุ่มคนที่สวมชุดเกาะก็เดินจากประตูเข้ามาในบ้านตระกูลโจว

คนเหล่านี้เข้ามาในบ้านตระกูลโจวอย่างรวดเร็ว และชายหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นผู้นำสวมเสื้อทหารสีดำอยู่

“สวัสดีครับเจ้าบ้านโจว ฉันชื่อหวางเผิง เป็นหัวหน้าของกลุ่มผู้พิทักษ์โลกยู่ และครั้งนี้ที่มาก็มาเพื่อเรื่องที่เกิดอุบัติเหตุของคุณหนูตระกูลคุณกับหน่วยสำรวจที่อยู่ในภูเขาหลินซาน!”

หวางเผิงเดินเข้ามาที่หน้าของโจวหยุนซาน และมองโจวหยุนซานพร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เข้มงวด

และในครั้งนี้โจวหยุนซานก็รู้แล้วว่า ข่าวสารนี้ไม่ใช่ข่าวเท็จ แต่เกิดเรื่องขึ้นแล้วจริง ๆ

โจวหยุนซานแทบจะยื่นไม่ไหว ยังดีที่มีคนรับใช้คอยพยุงอยู่ด้านหลังของเขา เขาจึงไม่ได้เป็นลมหมดสติไป

ส่วนเฉินเกอที่ยืนอยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าที่เคร่งขรึมอย่างผิดปกติ และรีบหันหลังออกจากตระกูลโจวทันที เขารู้ว่าเขาต้องไปภูเขาหลินซาน เพื่อไปช่วยโจวโน่ออกมาด้วยตัวของเขาเองถึงจะได้

หลังจากออกจากตระกูลโจว เขาก็มุ่งตรงไปยังกลางเมืองตี้ตู แน่นอนว่าก่อนเขาจะออกเดินทางเขาต้องซื้ออุปกรณ์และเสบียงก่อน ไม่เช่นนั้นหากไปเองคนเดียวก็ไม่ต่างอะไรกับไปตาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!