ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 846

สรุปบท บทที่ 846 ผลวิหายสะ: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 846 ผลวิหายสะ – ตอนที่ต้องอ่านของ ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

ตอนนี้ของ ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 846 ผลวิหายสะ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 846 ผลวิหายสะ

“ผลไม้อันนี้คือผลวิหายสะ เป็นผลทิพย์ชนิดหนึ่ง!”

จากนั้นผู้หญิงใส่มงกุฎก็เอ่ยปากอธิบายให้เฉินเกอฟัง

ผลวิหายสะคือผลทิพย์ที่ออกทุกหนึ่งร้อยปีในแผ่นดินหลิงคง สามารถใช้บำรุงร่างกายให้มีพลังเพิ่มขึ้นและรักษาอาการบาดเจ็บ และเป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตยาในแผ่นดินหลิงคง

“แต่ว่าทำไมมันถึงอยากกินผลวิหายสะล่ะครับ?ผมป้อนเนื้อให้มัน มันก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิดเดียว”เฉินเกอจ้องมองผู้หญิงใส่มงกุฎพลางถามอย่างสงสัย

“คิกคิก!”

ผู้หญิงใส่มงกุฎหัวเราะเบาๆ

“มังกรเขียวตัวน้อยนี้เป็นหนึ่งในสัตว์อสูรเทพของแผ่นดินหลิงคง คุณน่าจะได้ตอนที่เข้าท้าทายแดนลี้ลับใช่ไหม?อาหารของมันไม่ใช่จำพวกสัตว์ แต่เป็นผลวิหายสะอันนี้!”

เวลาต่อมา ผู้หญิงใส่มงกุฎได้อธิบายต่อให้เฉินเกอฟังอย่างมีความอดทน

บัดนี้เฉินเกอได้ฟัง จึงเข้าใจอย่างที่แท้เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง

“มังกรเขียวตัวน้อยนี้เลือกคุณเป็นเจ้านาย แสดงว่าคุณเป็นคนที่ไม่ธรรมดา หวังว่าคุณจะฝึกฝนมันเป็นอย่างดี ในภายภาคหน้ามันจะมีผลดีกับคุณอย่างไม่คาดคิดเลย!”ผู้หญิงที่ใส่มงกุฎพูดเตือนหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง

จุดนี้ถึงผู้หญิงใส่มงกุฎจะไม่พูด เขาก็ต้องฝึกฝนมังกรเขียวตัวน้อยนี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว

พูดจบ ผู้หญิงที่ใส่มงกุฎก็สะบัดมือ ทำให้ผลวิหายสะนับร้อยผลได้มาอยู่ตรงหน้าของเฉินเกอ

เมื่อเฉินเกอเห็นก็รู้สึกตกตะลึง ไม่เข้าใจความหมายของผู้หญิงใส่มงกุฎ

“ท่าน อันนี้คือ?”

“คุณมีวาสนากันฉัน มังกรเขียวตัวน้อยต้องการผลวิหายสะเป็นอาหาร ดังนั้นผลวิหายสะก็ถือว่ามอบให้คุณก็แล้วกัน!”ผู้หญิงใส่มงกุฎพูดอย่างยิ้มแย้ม

พูดจบ ผู้หญิงที่ใส่มงกุฎก็รีบบินเหาะจากไป

เมื่อเห็นผู้หญิงใส่มงกุฎจากไป เฉินเกอจึงคอยตอบสนองออกมาจากความมึนงง รีบนำผลวิหายสะเก็บไว้ในแหวนเก็บของของตนทันที

เมื่อจัดการเสร็จทุกอย่างแล้ว เฉินเกอจึงพามังกรเขียวตัวน้อยออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้

บัดนี้มังกรเขียวตัวน้อยกินอิ่มหนำสำราญเต็มที่แล้ว จึงได้นอนกรนเสียงดังอยู่ในแหวนเก็บของ

“เฮ้อ เจ้าตัวน้อยเอ๋ย คนก่อเรื่องเป็นแก แต่คนคอยเช็ดก้นคือฉัน ตอนนี้แกกลับนอนอย่างไร้กังวล ไม่รู้จริงๆว่าแกเป็นเจ้านายหรือผมเป็นเจ้านายกันแน่!”

เห็นมังกรเขียวตัวน้อยหลับสนิท ทันใดนั้นเฉินเกอจึงพูดอย่างหมดหนทาง

แต่เฉินเกอก็ทำอะไรมังกรเขียวตัวน้อยนี้ไม่ได้ ใครใช้ให้มันเป็นสัตว์เลี้ยงของตนล่ะ สัตว์เลี้ยงของตน ตนจึงต้องตามใจและทะนุถนอมเป็นอย่างดีนั่นเอง

หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ เห็นโจวโน่กับหลินจื่อหลันรออยู่นอกรั้วกำแพงตั้งนานแล้ว

เห็นเฉินเกอกลับมาอย่างปลอดภัย ทั้งสองจึงได้เบาใจลง กลัวเหลือเกินว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับเฉินเกอ

“เฉินเกอ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?ไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม?”โจวโน่เดินเข้าไปหา สังเกตดูอย่างละเอียดพลางถามเฉินเกออย่างเป็นห่วง

เฉินเกอส่ายหัวเล็กน้อย ตอบว่า“ไม่เป็นอะไร เป็นการเข้าใจผิดเฉยๆ!”

ได้ยินอย่างนี้แล้ว โจวโน่กับหลินจื่อหลันก็วางใจ ถ้าเฉินเกอเป็นอะไรขึ้นมา พวกเขาสองคนจะต้องเสียใจและเจ็บปวดแน่ๆ

“ใช่แล้ว โจวโน่ หลินจื่อหลัน พวกเรามาที่แผ่นดินหลิงคงเพื่อวัตถุประสงค์อะไรกันแน่?”

จากนั้นเฉินเกอก็ถามพวกเขาสองคนอย่างสงสัย

พูดตามความเป็นจริง เฉินเกอไม่รู้เลยว่ามาแผ่นดินหลิงคงเพื่อจะทำอะไร ไม่มีแนวทางเลยสักนิดเดียว

“หา?คุณเฉินไม่รู้ว่ามาแผ่นดินหลิงคงเพื่ออะไร?”

หลินจื่อหลันได้ยินก็ถามเฉินเกอด้วยความสงสัย และมีสีหน้าที่ประหลาดใจ

“ไม่รู้ หรือพวกคุณรู้?”

เฉินเกอถามในขณะที่ขมวดคิ้ว

หลินจื่อหลันกับโจวโน่ประสานตากันแวบหนึ่ง จากนั้นทั้งสองก็พยักหน้าพร้อมกัน

บ่ายสามโมง

ที่สถานศึกษาหลิงคงในแผ่นดินหลิงคง

บัดนี้ที่หน้าประตูสถานศึกษาหลินคงมีคนรวมตัวกันอย่างล้นหลาม ซึ่งมีมากถึงพันกว่าคน

ถึงแม้จะผ่านด่านท้าทายในแดนมายาในขั้นแรกมาได้ แต่ยังคงเหลือคนเป็นจำนวนมากที่มาสมัครเข้าสถานศึกษาหลิงคงแห่งนี้

แต่ละครั้งสถานศึกษาหลิงคงจะรับคนเพียงแค่สองร้อยคนเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าต้องคัดคนออกจากพันกว่าคนเหลือเพียงแค่สองร้อยคน ช่างเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดมากทีเดียว

เฉินเกอสามคนมาถึงสถานศึกษาหลิงคงแล้ว

“เห็นทีปีนี้จะมีคนมาร่วมเยอะมาก!”

เห็นมีคนมากมายเหลือคณานับอย่างนี้ โจวโน่จึงอดถอนหายใจไม่ได้

“ติ๊ง!”

เพิ่งพูดจบก็ได้ยินเสียงระฆังดังอย่างกึกก้อง ซึ่งเป็นเสียงที่ส่งมาจากสถานศึกษาหลิงคงนั้นเอง

เพี้ยงเพี้ยงเพี้ยง!

หลังจากที่เสียงระฆังดังขึ้น ทันใดนั้นหน้าประตูก็ได้ปรากฏเงาของคนสี่คนขึ้นมา

สี่คนนี้เป็นยามเฝ้าของสถานศึกษาหลิงคง เฝ้ารักษาความปลอดภัยของสถานศึกษาโดยเฉพาะ และฝีมือของแต่ละคนก็อยู่ในขอบเขตเจินเสิน เป็นที่น่าเกรงขามเลยทีเดียว

การปรากฏตัวของยามทั้งสี่คน ทำให้ทุกคนในสถานที่ต่างเงียบสงบลง

ราศีที่ทรงพลังได้สยบจิตใจของทุกคน ทำให้ทุกคนรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างได้กดทับอยู่ในอก

ไม่เว้นแม้กระทั่งพวกเฉินเกอสามคน ถึงแม้เฉินเกอจะเปิดการรับรู้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อต้องเผชิญกับคนเก่งในขอบเขตเจินเสิน

เฉินเกอก็ยังรู้สึกต้านทานไม่ไหวเล็กน้อย เนื่องจากมีความแตกต่างของพลังวิชา ดูเหมือนว่าสถานศึกษาหลิงคงมีคนแกร่งเป็นจำนวนมาก ไม่เสียแรงที่เป็นถึงสถานศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินหลิงคงเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!