ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 848

สรุปบท บทที่848 การประลองฝีมือ: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

สรุปเนื้อหา บทที่848 การประลองฝีมือ – ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! โดย Light-Knight

บท บทที่848 การประลองฝีมือ ของ ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Light-Knight อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่848 การประลองฝีมือ

“ผมชื่อเฉินเกอ!”

เฉินเกอก็แนะนำตัวอย่างสุภาพกับเกาจื่อเฉิง

“คุณเฉิน เมื่อกี้ยอดเยี่ยมมาก!”

เกาจื่อเฉิงพูดชื่นชมเฉินเกออีกหนึ่งประโยค

“ฮ่าๆ ที่ไหนกัน แค่เห็นว่าอยุติธรรมเท่านั้นเอง!”

เฉินเกอยิ้มตอบอย่างเรียบๆ

เมื่อมองดูจ้าวหยินอีกที ก็พบว่าจ้าวหยินได้หายตัวไปกับสายลมเมื่อไหร่แล้ว

แต่เฉินเกอก็ไม่ได้สนใจจ้าวหยินอีกต่อไป เพราะยังอย่างจ้าวหยินยังมีอยู่อีกมากมาย เขาไม่สามารถสั่งสอนหมดได้

“คุณเฉิน สนใจจะเป็นเพื่อนกันไหม?”

จากนั้นเกาจื่อเฉิงก็เสนออยากรู้จักกับเฉินเกอ

เฉินเกอได้ยินก็ไม่มีปัญหาอะไร พยักหน้าตอบรับทันควัน

ไม่นาน การประลองคัดเลือกก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

เฉินเกอกับหลินจื่อหลันและเกาจื่อเฉิงไม่ได้รีบร้อนจะไปประลอง แต่คอยสังเกตดูอยู่ด้านล่าง

สำนวนสุภาษิตได้กล่าวไว้ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

เฉินเกอยืนสังเกตดูอยู่ด้านล่างว่าคนที่สถานศึกษาส่งมาจะมีความสามารถขนาดไหน จะได้คิดหาวิธีการรับมือถูก

ในใจของเฉินเกอไม่ได้คิดว่าควรรับสามกระบวนท่าอย่างไร แต่คือการเอาชนะอีกฝ่าย อย่างนี้ถึงจะสมกับเป็นผู้แกร่งกล้า

สามกระบวนท่า ช่างดูถูกกันจริงๆ

มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีครามกำลังเดินขึ้นไป ในมือได้ถือพัดไว้เล่มหนึ่ง ดูแล้วท่าทางสง่าผ่าเผยยิ่งนัก

เฉินเกอเห็นแล้วก็รู้สึกอยากจะหัวเราะออกมา คนพวกนี้เป็นใครกัน เด็กกะโปโลก็สามารถมาร่วมคัดเลือกได้ด้วยเหรอ ช่างขวางหูขวางตาเหลือเกิน

“ตง!”

จากนั้นเสียงฉิ่งดังขึ้น การประลองยกแรกเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

คนสวมเสื้อคลุมสีครามได้กระโจมเข้าหานักทดสอบยุทธ์ทันที โดยสะบัดพัดในมือออกไป

“โครม!”

วินาทีต่อมาคนสวมเสื้อคลุมสีครามก็ถูกนักทดสอบยุทธ์ถีบตกลงจากเวที

“แพ้ คนต่อไป!”

หยุนคงไม่มองแม้แต่แวบเดียวก็เอ่ยปากพูดออกมา

เมื่อเห็นภาพนี้ คนที่อยู่ด้านล่างต่างเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา ไม่มีใครคิดถึงว่านักทดสอบยุทธ์จะเก่งกาจถึงเพียงนี้

ส่วนเฉินเกอมองแล้วก็ไม่วิเศษวิโสอะไร เพียงแต่คนสวมเสื้อคลุมสีครามอ่อนหัดเอง จึงได้ถูกจัดการด้วยกระบวนท่าเดียว

ท่าเดียวก็รับไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีช็อตเด็ดให้ดูแล้วสิ

และในเวลาต่อมามีคนจำนวนมากขึ้นไปไม่ขาดสาย แต่ต่างถูกจัดการแค่กระบวนท่าเดียวกันหมด

ครึ่งชั่วยามผ่านไป มีเพียงหนึ่งคนที่รับได้หนึ่งกระบวนท่า โดยผ่านการคัดเลือกเข้าห้องระดับต้น ส่วนคนอื่นที่เข้าประลองที่เหลือต่างล้มคลานไปกองกับพื้นอย่างน่าเวทนา

หยุนคงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ อดไม่ได้ที่จะเริ่มส่ายหัวขึ้นมา รู้สึกผิดหวังต่อการคัดเลือกครั้งนี้มาก

“คนต่อไป”

จากนั้นก็เริ่มพูดอย่างน่าเบื่อหน่ายอีกครั้ง

“คุณเฉิน ขึ้นไปลองดูสิ?”

หลินจื่อหลันถามเฉินเกออย่างสนอกสนใจ

เฉินเกอฟังแล้วก็พยักหน้าหนึ่งครั้ง จากนั้นจึงยกมือพูดว่า“ผม!”

ทันใดนั้นทุกสายตาต่างจับตามองเฉินเกออยู่คนเดียว

เมื่อคนรอบข้างเห็นรูปร่างของเฉินเกอ ต่างออกความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องคลานอยู่กับพื้นด้วยกระบวนท่าเดียวแน่ๆ

แต่น่าเสียดาย ภาพอย่างนี้ไม่มีทางปรากฏให้เห็นเป็นอันขาด

เห็นเฉินเกอเอียงกายก็หลบหมัดของเก่อหยุนเฟิงได้ ทำให้หมัดของเก่อหยุนเฟิงพลาดเป้า

“โอ้สวรรค์ เขาหลบไปได้หนึ่งกระบวนท่าแล้ว!”

คนด้านล่างเห็นก็รู้สึกประหลาดใจ

เก่อหยุนเฟิงได้ยินคำพูดนี้ก็เสียอารมณ์เป็นอย่างมาก รู้สึกตัวเองขายหน้ามาก นี่เป็นการหยามเกียรติของเขาที่ไม่สามารถชกเฉิน

เกอไปกองกับพื้นได้เพียงหมัดเดียว

จากนั้น เมื่อเก่อหยุนเฟิงรู้ตัวก็รีบกระโดดถีบเข้าหาเฉินเกอ ซึ่งเป็นการใช้ท่าไม้ตาย ดูเหมือนว่าเขาคิดจะเอาเฉินเกอให้ดิ้นอยู่กับที่กันเลยทีเดียว

แต่เก่อหยุนเฟิงประมาณฝีมือของเฉินเกอต่ำไป

การถีบครั้งนี้พลาดเป้าไปอีกครั้ง ไม่ได้โดนตัวเฉินเกอแม้แต่น้อย

“กระบวนท่าที่สองแล้วนะ!”

มีเสียงมาจากด้านล่างอีกครั้ง

บัดนี้ แม้กระทั่งคนที่นั่งอยู่อย่างหยุนคงก็มีสีหน้าที่ประหลาดใจและเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินเกอจะรับเก่อหยุนเฟิงได้ถึงสองกระบวนท่า

“คิกคิก ยังเหลืออีกหนึ่งกระบวนท่านะ จะสามารถเอาชนะผมได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ!”

บัดนี้เฉินเกอยิ้มอย่างแปลกประหลาดพลางพูดเย้ยหยันเก่อหยุนเฟิง

เก่อหยุนเฟิงได้ยินก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ เขารู้สึกว่าเฉินเกอกำลังหยามศักดิ์ศรีของตนอยู่

แต่ความเป็นจริงแล้วเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเกอเลย สิ่งนี้เขารู้ตัวตั้งนานแล้ว แต่เขาจะยอมแพ้อย่างนี้ไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการขายหน้าอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว ดังนั้นเก่อหยุนเฟิงตัดสินใจใช้กำลังความสามารถทั้งหมดของตนในการต่อสู้กับเฉินเกอ

“คิก!”

เก่อหยุนเฟิงยิ้มเย็น

“กระบวนท่านี้ของผมต้องเอาชนะคุณได้แน่ๆ!”เก่อหยุนเฟิงมีสีหน้าเคร่งขรึม พูดอย่างมั่นใจ

เฉินเกอยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน สีหน้ายังคงจ้องมองเก่อหยุนเฟิงอย่างเฉยเมย เขารู้สึกว่าเก่อหยุนเฟิงกำลังพูดอวดอยู่ ความสามารถของเขาเช่นนี้ยังคิดจะเอาชนะตน ช่างปัญญาอ่อนสิ้นดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!