ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 875

สรุปบท บทที่875 การพัฒนาไปอีกขั้น: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

อ่านสรุป บทที่875 การพัฒนาไปอีกขั้น จาก ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! โดย Light-Knight

บทที่ บทที่875 การพัฒนาไปอีกขั้น คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Light-Knight อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่875 การพัฒนาไปอีกขั้น

เมื่อเงาดำตาย กลุ่มคนเสื้อดำต่างพากันหนี

ลูกพี่ของตนเองตายแล้ว พวกเขาจะอยู่ไปก็ไร้ความหมาย

หลังจากกลุ่มคนเสื้อดำไปหมดแล้ว เฉินเกอจึงเดินขึ้นไปด้านหน้าแล้วหยิบป้ายทองดำบนพื้นขึ้นมา

บนป้ายทองดำมีสองคำใหญ่ ๆ สลักเอาไว้ว่า: “กุ่ยจง”

หลังจากเห็นสองตัวอักษรนี้แล้ว เฉินเกอก็ขมวดคิ้วทันใดแล้วคิดว่า “กุ่ยจง” มันคืออิทธิพลอะไรกัน

อย่างไรก็ตามเฉินเกอเดาได้ว่าคำว่า “กุ่ยจง” จะต้องเป็นองค์กรลับ

“เฉินเกอ!”

ในตอนนี้เอง โจวโน่ พวกสี่คนรวมทั้งเจินจีก็วิ่งเข้ามาจากด้านนอก

เจินจีรีบวิ่งมาตรงหน้าเฉินเกอและถามด้วยความเป็นห่วง: “เฉินเกอ นายไม่เป็นไรนะ? ได้รับบาดเจ็บรึเปล่า?”

เฉินเกอยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบ: “วางใจเถอะ ผมไม่เป็นไร!”

เมื่อได้ยินที่เฉินเกอพูด เจินจีและพวกจึงได้วางใจ ขอเพียงเฉินเกอไม่เป็นไรก็พอ

จากนั้น เฉินเกอหยิบกระบี่แห่งอานุภาพที่อยู่กลางอากาศไว้ในมือของเขา

วินาทีทีที่สัมผัสกระบี่แห่งอานุภาพ ทันใดนั้นเฉินเกอก็รู้สึกได้ถึงแรงแผดเผาที่พุ่งเข้าสู่ฝ่ามือของเขาจากด้ามจับ จากนั้นตามฝ่ามือเพื่อเข้าสู่ดานเถียนของตัวเขา

ในชั่วขณะหนึ่งเฉินเกอรู้สึกได้ถึงความร้อนจากดานเถียนของเขา

ความร้อนนั้นทำให้รู้สึกแสบร้อนและบุกจู่โจมดานเถียนของเขาอย่างต่อเนื่อง พลังนี้เป็นพลังที่ไหลออกมาจากกระบี่แห่งอานุภาพ มันคือพลังอานุภาพ

“เฉินเกอ นายเป็นอะไร?”

เจินจีเห็นสถานการณ์แล้วจึงรีบถามเฉินเกอ

“พวกคุณอย่าเข้ามาใกล้ผม!”

เฉินเกอร้องเตือนเสียงดัง จากนั้นจึงเดินไปและทรุดตัวลงนั่งที่ด้านข้างคนเดียว

เจินจีและพวกไม่กล้าเดินเข้าไป ทำได้เพียงยืนอยู่กับที่และจ้องมองเฉินเกอและหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องกับเฉินเกอ

ในตอนนั้นเฉินเกอที่กำลังนั่งหยิบผลวิหายสะออกมาแล้วกลืนลงไป

หลังจากกลืนผลวิหายสะไปแล้ว ร่างกายของเฉินเกอกลับไม่ได้บรรเทาความแสบร้อนลง แต่มันกลับเพิ่มมากขึ้น

“โอ้ย!”

เฉินเกอเงยหน้าและแผดเสียงลั่น

เม็ดเหงื่อขนาดเท่าเมล็ดถั่วปรากฏบนหน้าผากของเขา พอที่จะทำให้เห็นว่าพลังนี้มีความแข็งแกร่งเพียงใด ทำให้เฉินเกอรู้สึกทุกข์ทรมานเหลือทน

วินาทีถัดมา เฉินเกอเป็นลมด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสนั้น

“เฉินเกอ!”

เจินจีเห็นดังนั้น จึงร้องเสียงหลงและรีบเข้าไปดู

เจินจีให้คนรีบพาเฉินเกอกลับเข้าไปในห้องเพื่อนอนพัก

และในตอนนั้นกระบี่หยูฉางและกระบี่แห่งอานุภาพก็ได้หายไปแล้ว มันกลายเป็นแสงและหลบเข้าไปในตัวเฉินเกอ

ผ่านไปประมาณหนึ่งวัน เฉินเกอจึงค่อย ๆ ตื่นขึ้น

เฉินเกอค่อย ๆ ลืมตา และมองทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความงุนงง เห็นเพียงเจินจีที่ฟุบหลับสนิทที่ข้างเตียงด้วยสีหน้าที่ดูน่ารักเหลือเกิน

ทันใดนั้น เจินจีก็ตื่นขึ้นแล้วเงยหน้า ดวงตาสวยจ้องมองเฉินเกอ

“เฉินเกอ นายตื่นแล้ว!”

มองดูเฉินเกอที่ตื่นขึ้นมา เจินจีจึงถามขึ้นด้วยความดีใจ

“เฉินเกอ ตื่นแล้ว!”

เมื่อเห็นเฉินเกอฟื้นแล้วเล๋ยเล่รีบร้องทักและเดินเข้าไปเพื่อตรวจดูเฉินเกอทันที

“พี่เฉิน รู้สึกยังไงบ้าง? ไม่เป็นไรนะ? พี่ไม่รู้ว่าเมื่อวานพี่ทำพวกเราตกใจกลับกันแทบตาย!” เกาจื่อเฉิงยังคงกลัวอยู่เล็กน้อยแล้วพูดกับเฉินเกอด้วยความเป็นห่วง

เฉินเกอยิ้มแล้วส่ายหน้าและตอบ “ฉันไม่เป็นไร เมื่อวานเพราะกระบี่แห่งอานุภาพมีพลังที่แข็งแกร่งมากเกิน ดังนั้นจึงทำให้ฉันเป็นลมไป ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว!”

“พี่เฉิน ฉันรู้สึกว่าร่างกายของพี่แข็งแรงขึ้นมาก คงจะพัฒนาไปอีกขั้นแล้วใช่ไหม?”

เล๋ยเล่รู้สึกได้ถึงพลังงานมหาศาลและถามเฉินเกอ

“ไม่ผิดอันที่จริงฉันได้พัฒนาขึ้นอีกขั้นแล้ว ตอนนี้ฉันไปถึงชั้นที่สี่ของขอบเขตเจินเสินแล้ว มันทำให้ฉันคิดไม่ถึงเหมือนกัน!” เฉินเกอตอบแบบไม่ได้ปฏิเสธ

เขาได้พัฒนาขอบเขตของตนเองถึงสองขั้นรวดภายในระยะเวลาสามสี่วัน เรียกได้ว่าเฉินเกอนั้นเก่งมาก ทำให้ทุกคนต่างอิจฉาเขาเป็นอย่างมาก

“พี่เฉิน พี่เก่งมากเลย ชั้นที่สี่ของขอบเขตเจินเสิน พี่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าเทพจริง ๆ!”

เกาจื่อเฉิงยิ้มและกล่าวชมเฉินเกอ

ต้องเข้าใจว่าผู้ฝึกตนบางคนใช้เวลาสิบปีร้อยปีก็ยังไม่สามารถพัฒนาไปได้สักขั้น แต่เฉินเกอกลับพัฒนาไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ หากคนพวกนั้นรู้คงไอเป็นเลือดแน่

“หึ ๆ ฉันก็แค่โชคดีน่ะ!”

เฉินเกอหัวเราะเล็กน้อยและกล่าวอย่างถ่อมตน

“ใช่แล้ว พี่เฉินเมื่อวานพี่ทำป้ายทองดำในมือตก พี่ไปได้มาจากไหนเหรอ?”

เล๋ยเล่ส่งป้ายทองดำในมือให้เฉินเกอและถามขึ้นด้วยความสงสัย

“นั่นเป็นสิ่งที่เงาดำทำตกไว้หลังจากที่ตาย ทำไมเหรอ? นายรู้จักป้ายนี้เหรอ?” เฉินเกออธิบายอย่างง่าย ๆ และถามเล๋ยเล่กลับ

เล๋ยเล่อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าและพูดขึ้น

“นี่เป็นสิ่งของเฉพาะของกุ่ยจง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!