ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! นิยาย บท 877

สรุปบท บทที่877 การพนันในกุ่ยจง: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

ตอน บทที่877 การพนันในกุ่ยจง จาก ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่877 การพนันในกุ่ยจง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! ที่เขียนโดย Light-Knight เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่877 การพนันในกุ่ยจง

“เดี๋ยวก่อน!”

โดยไม่รอให้เล๋ยเล่ไปไหน ภูตผีหลายตนก็ขวางเล๋ยเล่ไว้

ผีตนที่อยู่ตรงกลางเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเล๋ยเล่ จ้องเขาแล้วพูดขึ้น: “ชนะแล้วก็คิดจะไป มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ”

“ทำไมล่ะ? พวกคุณเล่นไม่เป็นเหรอ? หรือว่าแพ้ไม่เป็น?”

เล๋ยเล่จ้องมองไปที่ผีพวกนั้นแล้วถามอย่างเย็นชา คิดไม่ถึงว่าภูตผีพวกนี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับมนุษย์บนโลกเลย เล่นไม่ได้ก็เริ่มโวยวาย เป็นผีก็ยังจะเป็นผีก็ยังจะโกง เล่หเล่ละเชื่อเขาเลย

“หึ แกต้องเล่นต่อ เล่นจนแพ้หมดตัวแล้วค่อยไป หรือไม่ก็เอาเงินออกมาแล้วไปเสีย มีสองทาง เลือกเอาแล้วกัน!”

ผีตรงกลางหัวเราะเยือกเย็นมองหน้าแล้วประกาศกร้าวกับเล๋ยเล่

ดูแล้วเจ้าผีตนนี้คงไม่คิดจะปล่อยเขาไป

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเล๋ยเล่ก็ไม่มีทางปล่อยให้พวกมันทำตามใจได้สำเร็จ

“เหรอ? งั้นฉันไม่เลือกทั้งสองอย่างล่ะ?”

เล๋ยเล่มองและถามพวกผี

“งั้นก็อย่าว่าพวกเราไม่เกรงใจ!”

ผีที่อยู่ตรงกลางกล่าวขึ้นอย่างเย็นชาในทันใด จากนั้นก็โบกมือเป็นสัญญาณให้ผีตนอื่นที่อยู่รอบ ๆ

พูดจบ กลุ่มภูตผีก็พุ่งเข้าใส่เฉินเกอทั้งสองคนทันที

กลุ่มภูตผีเป็นฝ่ายเริ่มลงมือ เช่นนั้นเฉินเกอก็ไม่มีทางจะปล่อยพวกเขาไปแน่

ทันใดนั้นเฉินเกอก็หยิบกระบี่หยูฉางของตนเองออกมา เพียงฟันมันออกไปครั้งเดียว

สวบ!

เพียงพริบตา กระบี่หยูฉางก็ทำให้ผีกลุ่มนั้นมลายหายไป

เมื่อเห็นภาพนี้ ผีตรงกลางก็มีสีหน้าตกตะลึง มันคิดไม่ถึงว่าเฉินเกอจะเก่งถึงขนาดนี้ และมีอาวุธที่ร้ายกาจถึงขนาดนี้

“แก แกไม่ใช่ผี แกเป็นคน! !”

ผีที่อยู่ตรงกลางอุทานออกมา

“หึ ๆ แกรู้ก็ดีแล้ว เป็นไงล่ะ? ยังจะห้ามฉันอีกไหม?”

เฉินเกอเผยรอยยิ้มประหลาดและถามผีตนนั้น

ตอนนี้ผีตรงกลางไม่กล้าลองดีแล้ว รีบก้มหน้าและตอบเฉินเกอ: “ไม่กล้าแล้วครับ ๆ เชิญเลย ๆ!”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เฉินเกอก็ยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นก็พาเล๋ยเล่ออกไปจากบ่อน

หลังออกมาจากบ่อน เฉินเกอกับเล๋ยเล่ก็หาที่นั่งพัก

“นี่ เงินเยอะมากเลยนะ!”

เฉินเกอหันไปมองเงินถุงใหญ่ในอ้อมกอดของเล๋ยเล่แล้วตาเป็นประกาย

“หึ ๆ นี่ไม่ใช่เงินจริง ๆ หรอกครับ เป็นเงินกุ่ยจง”

เล๋ยเล่หัวเราะเบา ๆ แล้วอธิบายให้เฉินเกอฟัง

เงินของกุ่ยจงใช้ได้แค่ในกุ่ยจงเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีทางใช้ในโลกจริงได้ ต่อให้มีมากกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์

“เล๋ยเล่ ฉันหิวแล้ว ทำยังไงดี?”

เฉินเกอหันไปพูดกับเล๋ยเล่ ร้องของเขามันเริ่มร้องเสียงดังมากแล้ว

“ได้ครับ ฉันจะลองไปหาดูว่ามีที่ไหนที่มีของกินให้พี่กินได้ เงินเยอะขนาดนี้ก็หาที่ใช้เงินสิถึงจะถูก!”

หลังจากเล๋ยเล่ได้ยิน จึงรีบเสนอแนะกับเฉินเกอทันที

พูดจบ เล๋ยเล่ก็พาเฉินเกอเดินหาไปทั่วกุ่ยจง

อย่างรวดเร็ว เล๋ยเล่ก็หาร้านอาหารใหญ่ได้ ร้านอาหารร้านนี้ดูแล้วพอ ๆ กันกับร้านอาหารจริง ๆ

เล๋ยเล่พาเฉินเกอเดินเข้าไป

“เถ้าแก่!”

หลังจากเล๋ยเล่เข้าไปก็ตะโกนเรียกเสียงดัง

เห็นเพียงผู้ชายสวมชุดสีขาวเดินออกมาจากด้านใน และยิ้มเล็กน้อยเป็นการต้อนรับเล๋ยเล่ทั้งสองคน

“เหอ ๆ ทั้งสองท่านรับอะไรดีครับ?”

เถ้าแก่มองไปที่เล๋ยเล่และถามทั้งสองคน

เมื่อได้ยินแบบนี้ เล๋ยเล่ทั้งสองก็ตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าเถ้าแก่คนนี้จะเห็นเฉินเกอด้วย

หลังจากนั่งลง เล๋ยเล่ก็ถามหวงกาง

“ไม่มี คนที่มาที่นี่ส่วนมากก็คือพวกภูตผีที่อาศัยอยู่ที่นี่ น้อยครั้งมากจะมีคนมา นอกจากนี้ผมจะมาที่นี่เมื่อประตูกุ่ยจงเปิดเท่านั้น พวกคุณเป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่ผมเจอตั้งแต่ผมมารอบนี้”

หวงกางรีบอธิบายให้เล๋ยเล่ทั้งสองฟัง

“ใช่แล้ว ดูคุณแล้วคงจะไม่ใช่คนธรรมดา เป็นผู้ฝึกตนสินะ?”

หวงกางมองและถามเล๋ยเล่ขึ้นอีก

เมื่อเล๋ยเล่ได้ยิน ก็นิ่งไป เขาคิดไม่ถึงว่าจะหวงกางจะดูออก

“คุณดูออกได้ยังไง?”

เล๋ยเล่ถามด้วยความประหลาดใจ

“หึ ๆ คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นผู้ฝึกตนทั้งนั้น ไม่มีทางเป็นอื่นได้หรอก!”

หวงกางหัวเราะเนิบ ๆ แล้วอธิบายอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นคุณเองก็คงเป็นผู้ฝึกตนด้วยเหมือนกัน!”

เล๋ยเล่จ้องหวงกางแล้วพูดขึ้น ในเมื่อหวงกางก็เป็นพวกครึ่งคนครึ่งผี ถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องเป็นผู้ฝึกตนคนหนึ่ง

“หึ ๆ บอกว่าเป็นผู้ฝึกตนคงไม่ได้ ผมก็เพียงแต่กลายเป็นแบบนี้เพราะอุบัติเหตุ”

หวงกางหัวเราะอย่างเสียไม่ได้แล้วอธิบายขึ้น

แท้จริงแล้วคนที่กลายเป็นพวกครึ่งคนครึ่งผีได้นั้นมีไม่มาก มีบางคนด้วยเหตุไม่คาดคิด บางคนก็ด้วยการวิจัย

แต่กับเล๋ยเล่และเจินจีเป็นด้วยเหตุไม่คาดคิดจึงกลายเป็นพวกครึ่งคนครึ่งผี

อย่างรวดเร็ว หวงกางก็ยกอาหารน่าทานมากมายออกมาวางตรงหน้าเล๋ยเล่ทั้งสองคน ซึ่งล้วนแต่เป็นอาหารจริง

เมื่อเห็นอาหารพวกนี้ ทั้งสองคนก็ตาเป็นประกาย

“มา รีบทานเถอะครับ ไม่พอก็ยังมีอีก!”

หวงกางหันไปพูดกับเฉินเกอทั้งสองคน

พูดจบ เฉินเกอกับเล๋ยเล่ทั้งสองคนก็รีบเริ่มรับประทานอย่างหิวโหยทันที

“ใช่แล้ว พวกคุณมาที่นี่คงจะเพื่อมุกทิพย์ผีสินะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!