บทที่ 901 ป้ายเส่ส้า
“พวกคุณนั่งรอที่นี่ก่อน ผมขอตัวไปดูก่อนว่าเป็นยังไง!”
หลังจากที่เฉินเกอสั่งเล๋ยเล่กับเจินจีเรียบร้อยแล้ว ตัวเขาเองจึงได้เดินไปที่โต๊ะอาหารที่ผู้ชายทั้งสี่คนนั้นนั่งอยู่
เฉินเกอจงใจหยิบจานใบหนึ่งขึ้นมา แล้วเดินไปใกล้พวกเขาจากนั้นเริ่มลงมือตักอาหารขึ้นมา
เวลานี้นี้เอง เฉินเกอแกล้งไม่ระวัง ชนแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะให้ล้มลง
เมื่อแก้วหล่นลงไปที่พื้นแล้ว ทำให้น้ำในแก้วกระเด็นออกมาจนหมด
“ขอโทษครับ ขอโทษครับ!”
เฉินเกอรีบเก็บแก้วขึ้นมาแล้วหันไปขอโทษผู้ชายทั้งสี่คนนั้น
หนึ่งในผู้ชายทั้งหมดนั้นได้ยื่นมือมารับแก้วที่เฉินเกอยื่นมาให้
“ไม่เป็นไร ระวังหน่อยก็แล้วกัน!”
ผู้ชายคนนั้นพูดออกมาเบาๆ
แต่ ณ เวลานี้นี้เอง เฉินเกอได้สังเกตเห็นจุดเด่นข้อหนึ่ง
นั่นก็คือข้อมือของชายคนนี้มีรูปภาพรอยสัก
หลังจากนั้น เฉินเกอก็ได้กลับไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวของตัวเขาเองอีกครั้ง
เมื่อนั่งลงมาแล้ว สีหน้าของเฉินเกอเปลี่ยนไปไม่สู้ดีนัก
“เฉินเกอ เป็นอะไรเหรอ?ค้นพบอะไรหรือเปล่า?”
เจินจีเห็นสีหน้าของเฉินเกอไม่สู้ดีนัก จึงรีบเอ่ยปากถามขึ้นมา
“อืม คนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เป็นคนขององค์กรนักล่า!”
หลังจากนั้น เฉินเกอพูดเสียงเบาออกมา
“นักล่าเหรอ? ที่แท้เป็นพวกเขานั่นเอง ไม่อยากเชื่อว่าพวกเขาก็มาเหมือนกัน”
หลังจากที่เจินจีได้ยิน รู้สึกตกตะลึงมาก
“อะไรคือนักล่าเหรอ?”
เล๋ยเล่ที่นั่งอยู่อีกข้างหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
นักล่า:คือองค์กรที่เชี่ยวชาญในการล่าผีและวิญญาณ พวกเขามีอุปกรณ์ที่พิเศษในการตรวจจับผีและวิญญาณว่าอาศัยอยู่ตรงไหนกันบ้าง
“คนพวกนี้มาหาดินแดนของคนเผ่าเส่ส้า ถ้าคิดไม่ผิดคงจะมาตามหาป้ายเส่ส้าเป็นแน่”
เฉินเกอรู้จุดประสงค์การมาของนักล่าพวกนี้ทันที
ถ้าเกิดว่าป้ายเส่ส้าตกอยู่ในมือของนักล่า ผลที่ตามมาคงหายนะแน่ พวกเขาก็จะสามารถควบคุมผีและวิญญาณบนโลกใบนี้ได้ ถึงเวลานั้นคงจะรับมือกับมันยาก
ดังนั้น เฉินเกอไม่ยอมให้พวกเขาสมหวังเด็ดขาด
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราควรทำยังไงดี?หรือว่าพวกเราชิงลงมือฆ่าพวกเขาทิ้งก่อน?”
เจินจีรีบเสนอแนะเฉินเกอทันที
แต่เฉินเกอกลับส่ายหัวไม่เห็นด้วย
“ไม่ได้ นี่เป็นเพียงนักล่าแค่สี่คนเท่านั้น ถ้าลงมือโดยพลการ กังวลว่าอาจทำให้องค์กรนักล่าทั้งองค์กรเกิดการล้างแค้นขึ้นได้ ซึ่งมันจะไม่เป็นผลดีต่อเรา พวกเราคอยสังเกตพวกเขาในที่ลับก่อนดีกว่า”
เฉินเกอปฏิเสธข้อเสนอของเจินจีทันที แล้วทำการตัดสินใจออกมา
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอ เจินจีได้แต่ทำตามที่เฉินเกอสั่ง
หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว เฉินเกอทั้งสามคนต่างแยกย้ายกลับห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน
ถึงแม้จะพูดว่ากลับห้องไปพักผ่อน แต่เฉินเกอกลับไม่ยอมพัก เขานั่งปฏิบัติธรรมเพื่อให้วิญญาณตัวเองออกจากร่าง และเข้าสู่สภาวะถอดวิญญาณออกจากร่างทันที
เมื่อเข้าสู่สภาวะถอดวิญญาณออกจากร่างแล้ว เฉินเกอก็รีบออกจากร่างเพื่อไปตามหา
และแน่นอน ณ เวลานี้นี่เอง มีเงาทั้งสี่ดึงดูดความสนใจของเฉินเกอ
ซึ่งสี่คนนั้นก็คือนักล่าทั้งสี่ที่เจอกันในร้านอาหารนั่นเอง
เวลาดึกขนาดนี้แล้ว นักล่าทั้งสี่คนนี้ได้แอบเดินออกไปจากโรงแรม และยังเดินเข้าไปในที่มืดอีกด้วย
เฉินเกอคิดว่าต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน จึงเดินตามหลังพวกเขาไป
หลังจากที่เดินตามประมาณสามสีนาที นักล่าทั้งสี่ได้มาถึงในป่าลึกแห่งหนึ่ง
เห็นมีชายคนหนึ่งใส่ชุดคลุมยืนอยู่ในป่าแห่งนี้เพื่อรอการมาของนักล่าทั้งสี่ และดูแล้วเหมือนจะลึกลับมาก
“หัวหน้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!
พระเอกแม่งโครต looser จัดสภาพ...